ข่าวราคาทองคำวันนี้ ภาคเช้าราคาทองคำปิดลบ $4.90 เนื่องจากเจ้าหน้าที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ พร้อมใจย้ำถึงการแสดงจุดยืนในการเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย เพื่อสกัดปัญหาเงินเฟ้อที่เพิ่มมากขึ้นนั่นเองครับ ส่งผลให้ดอลลาร์แข็งค่าขึ้น รวมถึง Bond Yield ก็ได้รับอานิสงค์ให้พุ่งขึ้นเช่นกัน ในทางตรงข้ามกัน ทองคำเผชิญกับแรงเทขาย หลังจากไม่สามารถผ่านแนวต้านเดิมได้ และกดดันให้ทองคำร่วงเทสแนวรับที่บริเวณ $1,706.94 ทางด้านกองทุน SPDR ถือทองคำเท่าเดิมยังไม่มีการเปลี่ยนแปลงครับ
โดยการร่วงลงของราคาทองคำ มีปัจจัยกดดัน ดังต่อไปนี้
1. ดัชนีดอลลาร์พุ่งขึ้นกว่า 0.92% ทะลุระดับ 112 ขณะที่นักลงทุนคาดการณ์ว่า ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 75 bps เป็นครั้งที่ 4 ในการประชุมเดือนพฤศจิกายน
2. นีล แคชแครี ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ แห่งมินเนอาโพลิส กล่าวว่า เฟดยังคงมีงานที่ต้องทำอีกมากในความพยายามที่จะสกัดการพุ่งขึ้นของเงินเฟ้อ ชี้เฟดไม่มีแนวโน้มที่จะชะลอการเร่งขึ้นอัตราดอกเบี้ยในอนาคตอันใกล้
3. ชาร์ลส์ อีแวนส์ ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ แห่งชิคาโก กล่าวเมื่อวันพฤหัสบดีว่า อัตราดอกเบี้ยนโยบายของเฟดมีแนวโน้มจะพุ่งไปที่ 4.5%-4.75% ภายในฤดูใบไม้ผลิปี 2023 เนื่องจากเฟดต้องขึ้นดอกเบี้ยเพื่อลดอัตราเงินเฟ้อที่สูงเกินไป
4. ลิซา คุก ซึ่งเข้ารับตำแหน่งสมาชิกในคณะผู้ว่าการธนาคารกลางสหรัฐฯ กล่าวว่า อัตราเงินเฟ้อของสหรัฐฯ ยังคง “สูงอย่างมากและยอมรับไม่ได้” รวมถึงต้องการให้เฟดขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้แน่ใจว่าอัตราเงินเฟ้อจะเริ่มลดลง
5. FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนักเกือบ 70% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 75 bps สู่ระดับ 3.75-4.00% ในการประชุมวันที่ 1-2 พฤศจิกายน และให้น้ำหนักเพียง 30% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 50 bps
6. อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ อายุ 10 ปี ดีดตัวสู่ระดับ 3.843% โดยได้แรงหนุนจากการที่นักลงทุนคาดการณ์ว่า ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะยังคงเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อสกัดเงินเฟ้อ
7. ทิฟ แมคเลม ผู้ว่าการธนาคารกลางแคนาดา กล่าวว่า ธนาคารยังไม่สามารถผ่อนคลายการเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย เนื่องจากยังไม่มีหลักฐานที่บ่งชี้ถึงการชะลอตัวของเงินเฟ้อ
นอกจากนี้ การเพิ่มขึ้นของราคาทองคำ มีปัจจัยหนุน ดังต่อไปนี้
1. คริสตาลินา จอร์เจียวา ผู้อำนวยการกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) กล่าวเมื่อวันพฤหัสบดีว่า ในสัปดาห์หน้า IMF จะปรับลดคาดการณ์สำหรับการเติบโตทั่วโลกในปี 2023 โดยอ้างถึงความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นของภาวะถดถอยและความไม่มั่นคงทางการเงิน
2. ดัชนีดาวโจนส์ปิดร่วงลงกว่า 300 จุดในวันพฤหัสบดี (6 ตุลาคม) โดยตลาดถูกกดดันจากความกังวลที่ว่า การเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ จะส่งผลให้เศรษฐกิจสหรัฐฯ เข้าสู่ภาวะถดถอย ขณะที่นักลงทุนจับตาการเปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐฯ ในวันนี้
3. โกลด์แมน แซคส์คาดการณ์ว่า ราคาเฉลี่ยน้ำมันดิบเบรนท์จะแตะระดับ 104 ดอลลาร์/บาร์เรลในปีนี้ จากเดิมคาดการณ์ที่ระดับ 99 ดอลลาร์/บาร์เรล และคาดว่าราคาจะแตะ 110 ดอลลาร์/บาร์เรลในปีหน้า จากเดิมที่ระดับ 108 ดอลลาร์/บาร์เรล
4. สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกติดต่อกันเป็นวันที่ 4 ในวันพฤหัสบดี (6 ตุลาคม) เนื่องจากนักลงทุนยังคงขานรับกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (OPEC) และชาติพันธมิตร หรือโอเปกพลัส มีมติปรับลดกำลังการผลิตครั้งใหญ่ที่สุดในรอบ 2 ปี
5. กระทรวงแรงงานสหรัฐฯ เปิดเผยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกเพิ่มขึ้น 29,000 ราย สู่ระดับ 219,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 203,000 ราย โดยการเพิ่มขึ้นบางส่วน เกิดจากการที่พายุเฮอริเคนฟิโอนา (Fiona) พัดเข้าเปอร์โตริโกซึ่งเป็นดินแดนในเครือของสหรัฐฯ
6. อเล็กซานเดอร์ โนวัค รองนายกรัฐมนตรีรัสเซีย กล่าวว่า รัสเซียพร้อมที่จะจัดส่งก๊าซให้แก่ยุโรปผ่านทางท่อส่งก๊าซ Nord Stream 2 หากยุโรปยกเลิกมาตรการปิดกั้นต่อการส่งก๊าซดังกล่าว
จากข้อมูลที่ทางทีมงาน Fxtoday ได้รวบรวมมาจะเห็นได้ว่า ทองคำยังคงได้รับแรงกดดันจากการปรับอัตราเงินเฟ้อของธนาคารกลางสหรัฐฯ โดยเจ้าหน้าที่เฟดส่วนมากลงความเห็นสนับสนุนการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งนี้ เพื่อแก้ปัญหาเงินเฟ้อที่พุ่งสูง ในทางกลับกัน ปัญหาความขัดแย้งของรัสเซียในการจัดส่งก๊าซก็ยังคงต้องจับตามอง รวมถึงตัวเลขการว่างงานของสหรัฐฯ ที่ออกมาแย่กว่าที่คาดก็ยังเป็นแรงสนับสนุนให้กับทองคำอยู่ ดังนั้น นักลงทุนอย่าลืมติดตามข่าวสารและบริหารความเสี่ยงกันด้วยนะครับ ขอให้โชคดีครับ
____________________________________________
อัพเกรดความรู้เพิ่มเติม: Blog
รู้เท่าทันข่าว&สถานการณ์โลก: News
Updated
2 years ago
(Oct 07, 2022 11:27)