ข่าวราคาทองคำวันนี้ ภาคเช้าราคาทองคำปิดลบเล็กน้อย $1.65 หลังผ่านการเหวี่ยงอย่างหนักหน่วงระหว่างวัน แม้ว่าดอลลาร์สหรัฐจะพักตัว ส่งผลให้ระหว่างวันทองคำพุ่งสูง $20 จากจุดต่ำสุดบริเวณ $1,660.10 เทสแนวต้านใหม่บริเวณ $1,683.83 ก่อนพบแรงขายและย่อตัวลงมา ผู้ว่าธนาคารกลางอังกฤษเตรียมยุติโครงการซื้อพันธบัตรรัฐบาลคืน ส่งผลให้ค่าเงินปอนด์ร่วงตามที่คาดไว้เลยครับ ดอลลาร์จึงได้อานิสงค์ฟื้นจากจุดต่ำสุดรายวัน รวมถึง Bond Yield ก็พุ่งสูงเช่นกันครับ เหตุนี้ทองคำโดนตบร่วงจาก High สู่แดนลบก่อนปิดตลาด ทางด้านกองทุน SPDR ยังถือทองไม่เปลี่ยนแปลง
โดยการร่วงลงของราคาทองคำ มีปัจจัยกดดัน ดังต่อไปนี้
1. ดัชนีดอลลาร์ฟื้นจากระดับต่ำสุดในระหว่างวันบริเวณ 112.41 พร้อมปิดตลาดในแดนบวก โดยได้รับแรงหนุนจากความกังวลว่า การถอนตัวมาตรการสนับสนุนตลาดพันธบัตรของ BoE อาจจุดชนวนความผันผวนของตลาดทั่วโลกอีกครั้งซึ่งกระตุ้นแรงซื้อดอลลาร์สหรัฐในฐานะสกุลเงินปลอดภัย
2. เงินปอนด์ร่วงลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 2 สัปดาห์เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐในวันอังคาร โดยได้รับแรงกดดันจากความคิดเห็นของ แอนดรูว์ เบลีย์ ผู้ว่าการ BoE ที่ย้ำว่า จะยุติโครงการสนับสนุนตลาดพันธบัตรในวันศุกร์นี้
3. อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี พุ่งแตะ 4.006% ในวันอังคาร โดยได้รับแรงหนุนจากแรงขายในตลาดพันธบัตรของอังกฤษหลังผู้ว่าการ BoE ย้ำว่าจะยุติโครงการสนับสนุนตลาดพันธบัตรศุกร์นี้ และความกังวลว่าข้อมูลอัตราเงินเฟ้อของสหรัฐจะยังคงสนับสนุนให้เฟดเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไป
4. สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดลบในวันอังคาร (11 ต.ค.) เนื่องจากนักลงทุนกังวลว่าความต้องการใช้น้ำมันในตลาดโลกจะได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจถดถอย และสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในประเทศจีน
5. ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาแอตแลนตา เปิดเผยว่า แบบจำลองคาดการณ์ GDPNow ล่าสุดแสดงให้เห็นว่า เศรษฐกิจสหรัฐฯ ขยายตัว 2.9% ในไตรมาส 3
6. สหพันธ์ธุรกิจอิสระแห่งชาติสหรัฐ (NFIB) แถลงในวันนี้ว่า ดัชนีความเชื่อมั่นของธุรกิจขนาดย่อมปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 92.1 ในเดือนกันยายน โดยปรับตัวขึ้นเป็นเดือนที่ 2 ติดต่อกัน และสูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 91.8
7. ลอเร็ตตา เมสเตอร์ ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ แห่งคลีฟแลนด์ กล่าวเมื่อวันอังคารว่า แม้จะมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเป็นจำนวนมากในปีนี้ แต่เฟดก็ยังไม่สามารถทำให้อัตราเงินเฟ้อที่พุ่งสูงขึ้นกลับมาอยู่ภายใต้การควบคุมได้ และจะต้องดำเนินนโยบายการเงินที่เข้มงวดมากขึ้น
8. กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ปรับลดตัวเลขคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจโลกในปี 2566 สู่ระดับ 2.7% จากเดิมที่ระดับ 2.9% พร้อม IMF ปรับลดคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจสหรัฐในปีนี้และปีหน้า สู่ระดับ 1.6% และ 1% ตามลำดับ โดยได้รับผลกระทบจากการเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟด
นอกจากนี้ การเพิ่มขึ้นของราคาทองคำ มีปัจจัยหนุน ดังต่อไปนี้
1. กลุ่มประเทศอุตสาหกรรมชั้นนำทั้ง 7 หรือ G7 ออกแถลงการณ์ประณามรัสเซียที่ได้ยิงขีปนาวุธถล่มเป้าหมายพลเรือนในยูเครน จนทำให้มีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตจำนวนมาก
2. สำนักข่าว Interfax ของรัสเซียรายงานว่า Rosfinmonitoring ซึ่งเป็นหน่วยงานกำกับระบบการเงินของรัสเซีย ได้ประกาศขึ้นบัญชีบริษัท "เมตา" (Meta) หรือเฟซบุ๊ก ในรายชื่อองค์กรก่อการร้ายและกลุ่มหัวรุนแรง
3. ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) สาขานิวยอร์ก เปิดเผยผลสำรวจพบว่า ตัวเลขคาดการณ์เงินเฟ้อของผู้บริโภคสหรัฐฯ สำหรับระยะเวลา 1 ปีข้างหน้าได้ลดลงติดต่อกันเป็นเดือนที่ 3 ในเดือนกันยายน
4. ดัชนี S&P500 และ Nasdaq ปิดในแดนลบ ท่ามกลางการซื้อขายที่ผันผวน โดยตลาดได้รับแรงกดดันจากการที่กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ปรับลดคาดการณ์เศรษฐกิจโลก และธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) ส่งสัญญาณยุติการพยุงตลาดพันธบัตร
จากข้อมูลที่ทีมงาน Fxtoday ได้รวบรวมมา จะเห็นได้ว่า ทองคำยังคงได้รับแรงกดดันจากการที่ธนาคารกลางอังกฤษจะประกาศยกเลิกการสนับสนุนการซื้อคืนพันธบัตรรัฐบาล ทำให้นักลงทุนหันมาสนใจดอลลาร์สหรัฐในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยมากขึ้น ในทางกลับกัน ปัญหาความรุนแรงจากความขัดแย้งรัสเซีย-ยูเครนยังคงน่าเป็นห่วง หลังรัสเซียยิงขีปนาวุธถล่มเป้าหมายพลเรือนยูเครน ซึ่งหลายฝ่ายก็ออกมาประณามการกระทำที่รุนแรงของรัสเซียในครั้งนี้ นอกจากนี้ ความกังวลเกี่ยวกับเศรษฐกิจโลกมีความเสี่ยงมากขึ้นที่จะเผชิญภาวะถดถอย ก็ยังเป็นแรงสนับสนุนให้กับทองคำอยู่ ดังนั้น นักลงทุนอย่าลืมติดตามข่าวสารและบริหารความเสี่ยงกันด้วยนะครับ ขอให้โชคดีครับ
____________________________________________
อัพเกรดความรู้เพิ่มเติม: Blog
รู้เท่าทันข่าว&สถานการณ์โลก: News
Updated
2 years ago
(Oct 12, 2022 11:35)