ข่าวราคาทองคำวันนี้ 26 ตุลาคม 2022
ราคาทองคำเมื่อวานนี้ปิดปรับตัวเพิ่มขึ้น 4.53 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แม้ในระหว่างวันราคาทองคำจะเกิดการพักตัวลงจนทดสอบระดับต่ำสุดบริเวณ 1,638.00 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่ราคาทองคำฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่งหลังจากนั้น โดยได้รับแรงหนุนจากหลายปัจจัย ได้แก่
(1.) แรงซื้อ Buy the Dip
(2.) เงินยูโรแข็งค่าขึ้น จากการคาดการณ์ว่าธนาคารกลางยุโรป (ECB) จะมีการขึ้นดอกเบี้ย 75 bps ในการประชุมนโยบายการเงินวันพฤหัสบดีนี้เพื่อควบคุมอัตราเงินเฟ้อ
(3.) เงินปอนด์พุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 6 สัปดาห์ เนื่องจากตลาดคาดว่า ริชี ซูนัค นายกคนใหม่ ของอังกฤษ ซึ่งเป็นอดีตรัฐมนตรีคลัง และอดีตนักวิเคราะห์จากโกลด์แมน แซคส์ ที่สำเร็จการศึกษาจาก มหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ด และมหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด จะช่วยแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจในขณะนี้ได้
(4.) การเปิดเผยตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่ “แย่เกินคาด” ทั้งดัชนีราคาบ้านใน 20 เมืองของสหรัฐฯ จากเอสแอนด์พี คอร์โลจิก เคส ชิลเลอร์ที่เพิ่มขึ้น 13.1% ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 14%, ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคสหรัฐฯ ในเดือนตุลาคม ของ Conference Board ที่ร่วงลงเกินคาดสู่ระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนกรกฎาคม ที่ 102.5 และดัชนีภาคการผลิตจากเฟดริชมอนด์ที่ลดลงเกินคาดสู่ระดับ 10 ในเดือนตุลาคม
ทั้งนี้ ตัวเลขเศรษฐกิจที่ซบเซาได้กระตุ้นการคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) อาจชะลอความแข็งกร้าวในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในอนาคต ซึ่งเป็นปัจจัยกดดันดัชนีดอลลาร์ และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ อายุ 10 ปีให้ร่วงลงจนเป็นที่มาที่ทำให้ราคาทองคำพุ่งขึ้นกว่า 20 ดอลลาร์ต่อออนซ์จากระดับต่ำสุดในระหว่างวันสู่ระดับ 1,662.16 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ด้านกองทุน SPDR ถือครองทองคำไม่เปลี่ยนแปลง สำหรับวันนี้ติดตามการเปิดเผยยอดขายบ้านใหม่ของสหรัฐฯ
การร่วงลงของราคาทองคำ มีสาเหตุและปัจจัยกดดัน ดังนี้
1. ดัชนีดาวโจนส์ปิดพุ่ง 337.12 จุด รับความหวังเฟดผ่อนคันเร่งขึ้นดอกเบี้ย
ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นกว่า 300 จุดในวันอังคาร (25 ตุลาคม 2022) เนื่องจากนักลงทุนยังคงมีมุมมองว่า ข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอลงจะทำให้ธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) ชะลอการเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย นอกจากนี้ การร่วงลงของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรยังเป็นปัจจัยหนุนตลาด ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 31,836.74 จุด เพิ่มขึ้น 337.12 จุด หรือ +1.07%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 3,859.11 จุด เพิ่มขึ้น 61.77 จุด หรือ +1.63% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 11,199.12 จุด เพิ่มขึ้น 246.50 จุด หรือ +2.25%
การเพิ่มขึ้นของราคาทองคำ มีสาเหตุและปัจจัยหนุน ดังนี้
1. ‘โจ ไบเดน’ เตือนรัสเซีย “ทำผิดมหันต์” หากใช้อาวุธนิวเคลียร์ก่อสงครามยูเครน
ประธานาธิบดีโจ ไบเดน แห่งสหรัฐฯ ออกโรงเตือนรัสเซีย กรณีการใช้ระเบิดกัมมันตรังสี หรืออาวุธนิวเคลียร์อื่น ๆ ในการทำสงครามกับยูเครน ผู้นำสหรัฐฯ กล่าวในวันอังคาร ในประเด็นที่ผู้สื่อข่าวประจำทำเนียบขาว ถามว่ารัสเซียกำลัง “กุเรื่องขึ้นมาเพื่อสร้างสถานการณ์” ในการเตรียมใช้ระเบิดกัมมันตรังสีกับยูเครน โดยกล่าวหายูเครนว่ากำลังใช้อาวุธชนิดดังกล่าวใน ดินแดนของยูเครนเอง โจ ไบเดน ระบุว่า “ผมไม่อาจรับรองได้ว่า นี่คือการกุเรื่องขึ้นมาหรือไม่ ผมไม่อาจทราบได้ แต่มันจะเป็นความผิดพลาดอย่าง 'ร้ายแรง' มาก” ด้านโฆษกกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ เน็ด ไพรซ์ กล่าวในวันอังคารว่า มีเหตุผลที่น่ากังวลว่า รัสเซียได้ “แสดงให้เห็นรูปแบบของการกล่าวหาฝ่ายอื่นในสิ่งที่กำลังวางแผนทำอยู่ในท้ายที่สุด” หลังจากเมื่อวันจันทร์โฆษกกระทรวงต่างประเทศสหรัฐฯ ได้เตือนว่า “จะมีผลร้ายแรงตามมา” หากรัสเซียใช้ระเบิดกัมมันตรังสีหรืออาวุธนิวเคลียร์ทุกประเภท
2. เงินปอนด์พุ่ง ขานรับ "ริชิ ซูนัค" รับตำแหน่งนายกฯ อังกฤษ
เงินปอนด์แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กในวันอังคาร (25 ตุลาคม) เนื่องจากนักลงทุนขานรับการแต่งตั้ง ริชี ซูนัค เป็นนายกรัฐมนตรีคนใหม่ของอังกฤษอย่างเป็นทางการ ทั้งนี้ ดัชนีดอลลาร์ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงินลดลง 0.9% แตะที่ระดับ 110.9500 เงินปอนด์แข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.1472 USD จากระดับ 1.1280 USD ขณะที่ยูโรแข็งค่าขึ้นสู่ระดับ 0.9961 USD จากระดับ 0.9878 USD ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินเยนที่ระดับ 147.98 JPY จากระดับ 148.81 JPY และอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิสที่ระดับ 0.9958 CHF จากระดับ 1.0009 CHF นอกจากนี้ ดอลลาร์สหรัฐยังอ่อนค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดาที่ระดับ 1.3621 CAD จากระดับ 1.3711 CAD
3. "ริซิ ซูนัค" ประกาศพร้อมแก้ปัญหาความผิดพลาดจากนโยบาย "ลิซ ทรัสส์"
ริชิ ซูนัก นายกรัฐมนตรีคนใหม่ของอังกฤษ ยอมรับว่า อังกฤษกำลังเผชิญปัญหาท้าทายมากมาย และเขาพร้อมที่จะแก้ไขปัญหาความผิดพลาดที่เกิดจากนโยบายของ ลิซ ทรัสส์ อดีตนายกรัฐมนตรี "ประเทศของเรากำลังเผชิญปัญหาวิกฤตเศรษฐกิจ ขณะที่ผลกระทบจากโควิด-19 ยังคงมีอยู่ และการที่รัสเซียทำสงครามในยูเครนก็ได้ทำให้เกิดความไร้เสถียรภาพในตลาดพลังงานและห่วงโซ่อุปทานทั่วโลก" ซูนักกล่าว
4. "S&P" เผยราคาบ้านสหรัฐฯ ชะลอตัวในเดือนสิงหาคม
ผลสำรวจของเอสแอนด์พี คอร์โลจิก เคส ชิลเลอร์ บ่งชี้ว่า ราคาบ้านในสหรัฐฯ ได้ชะลอตัว ในเดือนสิงหาคม ทั้งนี้ ดัชนีราคาบ้านทั่วประเทศในสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น 13% ในเดือนสิงหาคม เมื่อเทียบรายปี แต่ต่ำกว่าระดับ 15.6% ในเดือนกรกฎาคม ส่วนดัชนีราคาบ้านใน 20 เมืองของสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น 13.1% หลังจากดีดตัวขึ้น 16% ในเดือนกรกฎาคม
5. Conference Board เผยความเชื่อมั่นผู้บริโภคต่ำกว่าคาดในเดือนตุลาคม
ผลสำรวจของ Conference Board ซึ่งเป็นสถาบันวิจัยเศรษฐกิจ ระบุว่า ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคสหรัฐฯ ร่วงลงสู่ระดับ 102.5 ในเดือนตุลาคม ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนกรกฎาคม และต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 106.5 จากระดับ 107.8 ในเดือนกันยายน
7. Ifo เผยความเชื่อมั่นภาคธุรกิจเยอรมนีสูงกว่าที่คาดการณ์ไว้ในเดือนตุลาคม
Ifo ซึ่งเป็นสถาบันวิจัยเศรษฐกิจของเยอรมนี เปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นภาคธุรกิจของเยอรมนีปรับตัวลงสู่ระดับ 84.3 ในเดือนตุลาคม จากระดับ 84.4 ในเดือนกันยายน แต่สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 83.3
8. น้ำมัน WTI ปิดบวก 74 เซนต์ ดอลลาร์อ่อนค่า หนุนอุปทานตึงตัวในตลาด
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกในวันอังคาร (25 ตุลาคม 2022) โดยได้แรงหนุนจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์ และการแสดงความเห็นเกี่ยวกับภาวะอุปทานน้ำมันตึงตัวของผู้อำนวยการสำนักงานพลังงานสากล (IEA) ทั้งนี้ สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนธันวาคม เพิ่มขึ้น 74 เซนต์ หรือ 0.9% ปิดที่ 85.32 ดอลลาร์/บาร์เรล ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนธันวาคม เพิ่มขึ้น 26 เซนต์ หรือ 0.3% ปิดที่ 93.52 ดอลลาร์/บาร์เรล
อัพเกรดความรู้เพิ่มเติม: Blog