ราคาทองคำเมื่อวานนี้ปิดปรับตัวลดลง 6.20 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แม้ว่าในระหว่างวันราคาทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยจะได้รับแรงหนุนจากความปั่นป่วนวุ่นวายในตลาด Cryptocurrency หลังบริษัทไบแนนซ์ (Binance) ตัดสินใจ “ยกเลิก” ข้อตกลงการซื้อกิจการเอฟทีเอ็กซ์ (FTX) ซึ่งส่งผลให้นักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับปัญหาสภาพคล่องของ FTX สถานการณ์ดังกล่าวหนุนให้ราคาทองคำพุ่งขึ้นไปทดสอบระดับสูงสุดในรอบกว่า 1 เดือนที่ 1,722.26 ดอลลาร์ต่อออนซ์ อย่างไรก็ดี ราคาทองคำไม่สามารถรักษาช่วงบวกไว้ได้ โดยได้รับแรงกดดันจากแรงขายกำไร ขณะที่ดัชนีดอลลาร์แข็งค่าขึ้น 0.76% เนื่องจากผลการนับคะแนนการเลือกตั้งกลางเทอมของสหรัฐฯ บ่งชี้ว่า พรรคเดโมแครตทำผลงานได้ดีกว่าคาดในการเลือกตั้งชิงเก้าอี้ในวุฒิสภา ซึ่งบั่นทอนความเป็นไปได้ของกรณี Republican sweep ส่วนความปั่นป่วนของตลาด Cryptocurrency เป็นปัจจัยกระตุ้นแรงซื้อสกุลเงินปลอดภัยอย่างดอลลาร์เช่นกัน ประกอบกับอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ อายุ 10 ปี ปรับตัวขึ้น 2.5 bps สู่ระดับ 4.153% หลัง Demand ในการประมูลพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ อายุ 10 ปีเป็นอย่างซบเซา นั่นทำให้ทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ไม่ได้ให้ผลตอบแทน ในรูปแบบของดอกเบี้ยได้รับแรงกดดันเพิ่ม แต่กระนั้น การปรับตัวลดลงของทองคำยังเป็นไปอย่างจำกัด โดยยังคงยืนเหนือ 1,700 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้ต่อเนื่อง ท่ามกลางการคาดการณ์ว่า CPI ของสหรัฐฯ ที่กำลังจะเปิดเผยในวันนี้อาจบ่งชี้ว่า เงินเฟ้อผ่านจุดพีคไปเรียบร้อยแล้ว ด้านกองทุน SPDR ถือครองทองคำไม่เปลี่ยนแปลงสำหรับวันนี้ จับตาการเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI), จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงาน และถ้อยแถลงของเจ้าหน้าที่เฟด
สำนักข่าว CNN รายงานว่า ผลการนับคะแนนการเลือกตั้งกลางเทอมล่าสุด พบว่า พรรครีพับลิกันสามารถคว้าที่นั่งในวุฒิสภามากกว่าพรรคเดโมแครต หลังจากที่มีคะแนนเสียงเท่ากันที่ 48:48 ในการนับคะแนนช่วงแรก ล่าสุดพรรครีพับลิกันคว้าที่นั่งในวุฒิสภามากกว่าพรรคเดโมแครตโดยอยู่ที่ 49:48 จากจำนวนทั้งสิ้น 100 ที่นั่ง โดยทั้งสองพรรคต้องการได้มากกว่า 50 ที่นั่งจึงจะครองเสียงข้างมากในวุฒิสภา อย่างไรก็ดี หากพรรคเดโมแครตได้ที่นั่งเพียง 50 ที่นั่ง ในวุฒิสภาก็ยังอยู่ในสถานะที่ได้เปรียบกว่าพรรครีพับลิกัน เนื่องจากในกรณีที่มีการลงมติด้วยคะแนนเสียงเท่ากัน 50:50 คามาลา แฮร์ริส รองประธานาธิบดีสหรัฐฯ ซึ่งสังกัดพรรคเดโมแครตสามารถลงคะแนนเสียงชี้ขาดในฐานะประธานวุฒิสภา ส่วนในสภาผู้แทนราษฎรผลการนับคะแนนล่าสุดพบว่า พรรครีพับลิกันสามารถคว้าที่นั่งมากกว่าพรรคเดโมแครตเช่นกัน โดยอยู่ที่ 202:184 จากจำนวนทั้งสิ้น 435 ที่นั่ง โดยพรรคที่ได้ 218 ที่นั่งจะครองเสียงข้างมากในสภาผู้แทนราษฎร
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงในวันพุธ (9 พฤศจิกายน 2022) หลังสหรัฐฯ เปิดเผยสต็อกน้ำมันดิบเพิ่มขึ้น สวนทางกับการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ นอกจากนี้ ตลาดน้ำมันยังได้รับแรงกดดันจากการแข็งค่าของดอลลาร์ และความกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์โควิด-19 ในประเทศจีน ทั้งนี้ สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนธันวาคม ร่วงลง 3.08 ดอลลาร์ หรือ 3.5% ปิดที่ 85.83 ดอลลาร์/บาร์เรล ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนมกราคมลดลง 2.71 ดอลลาร์ หรือ 2.8% ปิดที่ 92.65 ดอลลาร์/บาร์เรล
ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก ๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรา นิวยอร์กในวันพุธ (9 พฤศจิกายน 2022) เนื่องจากนักลงทุนเข้าซื้อดอลลาร์ในฐานะสกุลเงินปลอดภัย ก่อนที่จะรู้ผลการเลือกตั้งกลางเทอมสหรัฐฯ และการเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ประจำเดือนตุลาคมของสหรัฐฯ ทั้งนี้ ดัชนีดอลลาร์ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงินเพิ่มขึ้น 0.83% แตะที่ระดับ 110.5490 ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับเงินเยนที่ระดับ 146.64 JPY จากระดับ 145.55 JPY ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดาที่ระดับ 1.3534 CAD จากระดับ 1.3438 CAD และดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับโครนาสวีเดน ระดับ 10.8935 SEK จากระดับ 10.7513 SEK แต่ดอลลาร์อ่อนค่าเล็กน้อยเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิสที่ระดับ 0.9857 CHF จากระดับ 0.9858 CHF ส่วนยูโรอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.0005 USD จากระดับ 1.0077 USD และเงินปอนด์อ่อนค่าลงแตะที่ระดับ 1.1344 USD จากระดับ 1.1537 USD
ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดร่วงลงกว่า 600 จุดในวันพุธ (9 พฤศจิกายน 2022) โดยนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับผลการเลือกตั้งกลางเทอมของสหรัฐฯ ซึ่งยังไม่มีความชัดเจนว่าพรรคใดจะได้ครองเสียงข้างมากในสภาคองเกรส นอกจากนี้ การร่วงลงอย่างหนักของราคา Cryptocurrency ยังสร้างแรงกดดันต่อบรรยากาศการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กด้วย ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 32,513.94 จุด ร่วงลง 646.89 จุด หรือ -1.95%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 3,748.57 จุด ลดลง 79.54 จุด หรือ -2.08% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 10,353.18 จุด ดิ่งลง 263.03 จุด หรือ -2.48%
กระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ เปิดเผยว่า สต็อกสินค้าคงคลังภาคค้าส่งเพิ่มขึ้น 0.6% ในเดือนกันยายน เมื่อเทียบรายเดือน แต่ต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 0.8% หลังจากดีดตัวขึ้น 1.4% ในเดือนสิงหาคม
บิตคอยน์ร่วงลงอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดทรุดตัวลงใกล้หลุดระดับ 17,000 ดอลลาร์ ขณะที่สกุลเงินดิจิทัลอื่น ๆ ดิ่งลงเช่นกัน ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับวิกฤตสภาพคล่องของ FTX ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มซื้อขาย Crypto ณ เวลา 00.11 น.ตามเวลาไทย บิตคอยน์ดิ่งลง 6.07% สู่ระดับ 17,065.50 ดอลลาร์ ในการซื้อขายบนแพลตฟอร์ม Coinbase ข้อมูลจาก Coinmarketcap ระบุว่า มูลค่าตลาดของ Cryptocurrency ทรุดตัวลงมากกว่า 15% ภายในเวลา 24 ชั่วโมง สู่ระดับ 860,000 ล้านดอลลาร์ จากระดับ 1.05 ล้านล้านดอลลาร์ก่อนหน้านี้
List of content
FXtoday.news เป็นเพียงเว็บไซต์ที่นำเสนอข่าวสาร และให้ความรู้เกี่ยวกับตลาดทางการเงิน โดยไม่ได้มีจุดประสงค์เพื่อชักนำหรือเชิญชวน ในการลงทุนแต่อย่างใด โดยจะไม่รับผิดชอบต่อความสูญเสียหรือความเสียหายใด ๆ ที่เกิดจากการพึ่งพาข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้ รวมถึงข่าวการตลาด การวิเคราะห์ สัญญาณการซื้อขาย และบทวิจารณ์
