สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (23 ธ.ค.) โดยได้แรงหนุนจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์ รวมทั้งข้อมูลเศรษฐกิจที่ซบเซาของสหรัฐซึ่งเป็นปัจจัยหนุนแรงซื้อสินทรัพย์ปลอดภัย
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนก.พ. เพิ่มขึ้น 7.8 ดอลลาร์ หรือ 0.42% ปิดที่ 1,878.1 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนมี.ค. เพิ่มขึ้น 38.6 เซนต์ หรือ 1.51% ปิดที่ 25.921 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนม.ค. เพิ่มขึ้น 7.7 ดอลลาร์ หรือ 0.76% ปิดที่ 1,017.1 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมี.ค. เพิ่มขึ้น 16.00 ดอลลาร์ หรือ 0.8% ปิดที่ 2,339.10 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาทองคำดีดตัวขึ้นเมื่อคืนนี้ หลังจากที่ปิดตลาดในแดนลบติดต่อกัน 3 วันทำการก่อนหน้านี้ โดยการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์เป็นปัจจัยหนุนตลาดทองคำ เนื่องจากทำให้สัญญาทองคำซึ่งกำหนดราคาเป็นสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐนั้น มีราคาถูกลง และมีความน่าดึงดูดมากขึ้นสำหรับนักลงทุนที่ถือเงินสกุลอื่น
ทั้งนี้ ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ลดลง 0.26% แตะที่ 90.4100 เมื่อคืนนี้
นอกจากนี้ นักลงทุนยังเข้าซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย หลังจากสหรัฐเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่ซบเซา โดยกระทรวงพาณิชย์สหรัฐรายงานว่า ยอดขายบ้านใหม่ดิ่งลง 11.0% สู่ระดับ 841,000 ยูนิตในเดือนพ.ย. ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 995,000 ยูนิต
กระทรวงพาณิชย์สหรัฐยังระบุด้วยว่า การใช้จ่ายส่วนบุคคลของผู้บริโภคสหรัฐลดลง 0.4% ในเดือนพ.ย. ซึ่งเป็นการปรับตัวลงเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนเม.ย. หลังจากเพิ่มขึ้น 0.3% ในเดือนต.ค.
ทางด้านผลสำรวจของมหาวิทยาลัยมิชิแกนระบุว่า ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคสหรัฐดีดตัวสู่ระดับ 80.7 ในเดือนธ.ค. จากระดับ 76.9 ในเดือนพ.ย. แต่ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 81.3