ข่าวราคาทองคำวันนี้ 15 พฤศจิกายน 2022
ราคาทองคำเมื่อวานนี้ปิดปรับตัวลดลง 1.70 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ราคาทองคำเปิดตลาดด้วยการปรับตัวลดลงตั้งแต่ในช่วงเช้าวานนี้ของตลาดเอเชีย โดยได้รับแรงกดดันจากการฟื้นตัวของดัชนีดอลลาร์ ทั้งนี้ ดัชนีดอลลาร์แข็งค่าขึ้นโดยได้รับแรงหนุนจากผลการเลือกตั้งกลางเทอมที่พรรคเดโมแครตสามารถรักษาเสียงข้างมากในวุฒิสภาไว้ได้อีก 2 ปี นอกจากนี้ ดัชนีดอลลาร์ยังได้รับแรงหนุนเพิ่มจากถ้อยแถลงในเชิง Hawkish ของ คริสโตเฟอร์ วอลเลอร์ หนึ่งในคณะผู้ว่าการธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) ที่กล่าวเมื่อวันอาทิตย์ตามเวลาสหรัฐฯ ว่า เฟดอาจพิจารณา “ชะลอ” การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนธันวาคม แต่ไม่ควรมองว่าเป็นการ "ผ่อนคลาย" ความมุ่งมั่นในการลดอัตราเงินเฟ้อ และมองว่าตอนนี้ยังห่างไกล (A ways off) จากจุดสิ้นสุด (Endpoint) ของการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ถ้อยแถลงดังกล่าวบ่งชี้ว่า เฟดจะยังคงเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไป พร้อมกับบั่นทอนการคาดการณ์ที่ว่า วงจรการขึ้นอัตราดอกเบี้ยใกล้จะสิ้นสุดแล้ว สถานการณ์ดังกล่าวกดดันให้ราคาทองคำร่วงลงทดสอบระดับต่ำสุดบริเวณ 1,753.10 ดอลลาร์ต่อออนซ์ อย่างไรก็ดี ราคาทองคำฟื้นตัวลดช่วงติดลบในเวลาต่อมาพร้อมกับปรับตัวขึ้นทดสอบระดับสูงสุดในรอบเกือบ 3 เดือนครั้งใหม่ที่ 1,775.04 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ท่ามกลางแรงซื้อ Buy the dip ประกอบกับดัชนีดอลลาร์ลดช่วงบวกลง จึงเป็นปัจจัยหนุนราคาทองคำเพิ่มเติม ด้านกองทุน SPDR ถือครองทองคำเพิ่มขึ้น +0.29 ตัน สำหรับวันนี้ติดตามการเปิดเผยดัชนีภาคการผลิตรัฐนิวยอร์ก (Empire State Index), ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) และถ้อยแถลงของเจ้าหน้าที่เฟด
การร่วงลงของราคาทองคำ มีสาเหตุและปัจจัยกดดัน ดังนี้
1. ดอลลาร์แข็งค่า นักลงทุนจับตาสหรัฐฯ เผยดัชนี PPI วันนี้
ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก ๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กในวันจันทร์ (14 พฤศจิกายน 2022) หลังจากเจ้าหน้าที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) ระบุว่า เฟดจะยังคงเดินหน้าต่อสู้กับเงินเฟ้อ ขณะที่นักลงทุนจับตาการเปิดเผย ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อจากการใช้จ่ายของผู้ผลิต ทั้งนี้ ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงินเพิ่มขึ้น 0.34% แตะที่ 106.6590 ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับเงินเยนที่ระดับ 139.88 JPY จากระดับ 138.53 JPY และแข็งค่าเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิสที่ระดับ 0.9415 CHF จากระดับ 0.9412 CHF นอกจากนี้ ดอลลาร์สหรัฐยังแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดาที่ระดับ 1.3286 CAD จากระดับ 1.3248 CAD และแข็งค่าเมื่อเทียบกับโครนาสวีเดนที่ระดับ 10.4512 SAK จากระดับ 10.3512 SAK ส่วนยูโรอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.0354 USD จากระดับ 1.0366 USD และเงินปอนด์อ่อนค่าลงสู่ระดับ 1.1779 USD จากระดับ 1.1854 USD
2. "ไบเดน" ยืนยันสหรัฐฯ ยึดมั่นนโยบายจีนเดียว หลังเจรจา "สี จิ้นผิง"
ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐฯ กล่าวว่า สหรัฐฯ ยังคงยึดมั่นในนโยบายจีนเดียว และไม่มีการเปลี่ยนแปลงเกี่ยวกับจุดยืนต่อไต้หวัน ปธน.ไบเดนแถลงดังกล่าว หลังประชุมทวิภาคีกับประธานาธิบดี สี จิ้นผิง ผู้นำจีนที่เกาะบาหลี ประเทศอินโดนีเซีย ในวันนี้ โดยผู้นำทั้งสองใช้เวลาเจรจาในการประชุมดังกล่าวเป็นเวลา 3 ชั่วโมง ก่อนที่การประชุมสุดยอดของกลุ่ม G20 จะมีขึ้นในวันพรุ่งนี้และสิ้นสุดในวันพุธ
3. เครมลินยืนยันสหรัฐฯ -รัสเซียจัดการเจรจาที่ตุรกีวันนี้
สำนักข่าวทาสส์ของทางการรัสเซียรายงานว่า ดมิทรี เพสคอฟ โฆษกทำเนียบเครมลิน กล่าวยืนยันว่า เจ้าหน้าที่รัสเซียและสหรัฐฯ ได้จัดการเจรจาที่กรุงอังการาของตุรกีในวันนี้ ก่อนหน้านี้ เจ้าหน้าที่สภาความมั่นคงแห่งชาติของทำเนียบขาว เปิดเผยว่า บิล เบิร์น ผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองกลางสหรัฐฯ (CIA) ได้พบปะกับผู้อำนวยการหน่วยข่าวกรองของรัสเซียที่กรุงอังการาเพื่อเจรจาเกี่ยวกับผลกระทบที่จะตามมา หากรัสเซียใช้อาวุธนิวเคลียร์ในการทำสงครามกับยูเครน
การเพิ่มขึ้นของราคาทองคำ มีสาเหตุและปัจจัยหนุน ดังนี้
1. "สี จิ้นผิง" เตือน "ไบเดน" อย่าล้ำเส้นกรณี "ไต้หวัน"
การประชุมทวิภาคีระหว่างประธานาธิบดี โจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐ และประธานาธิบดี สี จิ้นผิง ผู้นำจีนที่เกาะบาหลี ประเทศอินโดนีเซีย ได้สิ้นสุดลงแล้วในวันนี้ ผู้นำทั้งสองใช้เวลาเจรจาในการประชุมดังกล่าวเป็นเวลา 3 ชั่วโมง ก่อนที่การประชุมสุดยอดของกลุ่ม G20 จะมีขึ้นในวันพรุ่งนี้และสิ้นสุดในวันพุธ ทั้งนี้ ประธานาธิบดี สี จิ้นผิง กล่าวต่อประธานาธิบดี โจ ไบเดนในการประชุมว่า ประเด็นไต้หวันถือเป็นแกนหลักของผลประโยชน์หลักของจีน และเป็น "เส้นแดงเส้นแรก" ของความสัมพันธ์ทวิภาคี ซึ่งสหรัฐฯ จะก้าวข้ามมิได้ ประธานาธิบดี สี จิ้นผิงเรียกร้องให้ประธานาธิบดี โจ ไบเดน นำเอาคำมั่นสัญญาของสหรัฐฯ ที่มีต่อจีนมาดำเนินการอย่างเป็นรูปธรรม
2. ดาวโจนส์ปิดร่วง 211.16 จุด กังวลเฟดเดินหน้าขึ้นดอกเบี้ย
ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดร่วงลงกว่า 200 จุดในวันจันทร์ (14 พฤศจิกายน 2022) โดยหุ้น กลุ่มอสังหาริมทรัพย์ และกลุ่มการเงิน ดิ่งลงนำตลาด ขณะที่นักลงทุนประเมินการแสดงความเห็นของเจ้าหน้าที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) เกี่ยวกับแผนการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย พร้อมกับจับตาการเปิดเผยดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อจากการใช้จ่ายของผู้ผลิต ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 33,536.70 จุด ลดลง 211.16 จุด หรือ -0.63%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 3,957.25 จุด ลดลง 35.68 จุด หรือ -0.89% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 11,196.22 จุด ลดลง 127.11 จุด หรือ -1.12%
3. "ไบเดน" ยืนสหรัฐฯ เดินหน้าแข่งขันกับจีน แต่จะหลีกเลี่ยงความขัดแย้ง
ทำเนียบขาวแถลงว่า ประธานาธิบดี โจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐฯ ได้ประชุมทวิภาคีกับประธานาธิบดี สี จิ้นผิง ผู้นำจีนในวันนี้ โดยผู้นำทั้งสองได้หารือกันอย่างตรงไปตรงมาในหลายประเด็นเกี่ยวกับผลประโยชน์ของสหรัฐฯ และจีน นอกจากนี้ ประธานาธิบดี โจ ไบเดนจะส่ง แอนโทนี บลิงเกน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ เดินทางเยือนจีน เพื่อสานต่อการเจรจาทวิภาคีในวันนี้โดยการเดินทางดังกล่าว อาจมีขึ้นในช่วงต้นปี 2566 ทำเนียบขาวระบุว่า ประธานาธิบดี โจ ไบเดน กล่าวต่อประธานาธิบดี สี จิ้นผิง ว่า สหรัฐฯ จะยังคงทำการแข่งขันกับจีนต่อไป ซึ่งรวมถึงการลงทุนเพื่อสร้างความแข็งแกร่งในสหรัฐฯ และดำเนินการร่วมกับพันธมิตรทั่วโลก "ท่านประธานาธิบดี โจ ไบเดน กล่าวย้ำว่า การแข่งขันดังกล่าวไม่ควรก่อให้เกิดความขัดแย้ง โดยสหรัฐฯ และจีนจะต้องจัดการต่อการแข่งขันอย่างมีความรับผิดชอบ และยังคงเปิดช่องทางในการติดต่อสื่อสารระหว่างกัน" ประธานาธิบดี โจ ไบเดน กล่าวว่า สหรัฐฯ ยังคงยึดมั่นในนโยบายจีนเดียว และไม่มีการเปลี่ยนแปลงเกี่ยวกับจุดยืนต่อไต้หวัน
อัพเกรดความรู้เพิ่มเติม: Blog