ข่าวราคาทองคำวันนี้ 17 พฤศจิกายน 2022
ราคาทองคำวานนี้ปิดปรับตัวลดลง 5.80 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แม้ระหว่างวันราคาทองคำจะดีดตัวขึ้น โดยได้รับแรงหนุนจากแรงซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย ท่ามกลางความวิตกเกี่ยวกับความขัดแย้งด้านภูมิรัฐศาสตร์ รวมไปถึงได้รับแรงหนุนจากการแข็งค่าของเงินปอนด์ หลังดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ซึ่งเป็นอัตราเงินเฟ้อของอังกฤษพุ่งสู่ระดับสูงสุดในรอบ 41 ปีที่ 11.1% ในเดือนตุลาคม เมื่อเทียบเป็นรายปี โดยสูงกว่าที่นักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ไว้ ซึ่งเป็นปัจจัยกระตุ้นการคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) จะเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไป ทั้งนี้ การแข็งค่าของเงินปอนด์ กดดันดอลลาร์ให้อ่อนค่า จนส่งผลหนุนให้ราคาทองคำทะยานขึ้นไปทดสอบระดับสูงสุดบริเวณ 1,784.94 ดอลลาร์ต่อออนซ์ อย่างไรก็ดี ราคาทองคำไม่สามารถรักษาช่วงบวกไว้ได้ โดยได้รับแรงกดดันจากแรงขายทำกำไร และแรงขายทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย หลังจากเลขาธิการองค์การสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือ (นาโต) กล่าวว่า มีความเป็นไปได้ที่ขีปนาวุธซึ่งถูกยิงตกในโปแลนด์นั้นไม่ได้ถูกยิงจากรัสเซีย โดยเป็นขีปนาวุธของระบบป้องกันภัยทางอากาศของยูเครนที่พลาดเป้า ซึ่งช่วยคลี่คลายความขัดแย้งด้านภูมิรัฐศาสตร์ลง นอกจากนี้ ทองคำยังได้รับแรงกดดันจากการเปิดเผยตัวเลขยอดค้าปลีกที่เพิ่มขึ้น 1.3% ในเดือนตุลาคม สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 1.0% ซึ่งเป็นปัจจัยหนุนดัชนีดอลลาร์ให้ฟื้นตัวขึ้น จนส่งผลกดดันให้ราคาทองคำร่วงลงในที่สุด ด้านกองทุน SPDR ถือครองทองคำเพิ่มขึ้น +1.73 ตัน สำหรับวันนี้ติดตามการเปิดเผยดัชนีภาคการผลิตจากเฟดฟิลาเดลเฟีย, จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงาน และถ้อยแถลงของเจ้าหน้าที่เฟด
การร่วงลงของราคาทองคำ มีสาเหตุและปัจจัยกดดัน ดังนี้
1. สหรัฐฯ เผยสต็อกสินค้าคงคลังภาคธุรกิจต่ำกว่าคาดในเดือนกันยายน
กระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ เปิดเผยว่า สต็อกสินค้าคงคลังภาคธุรกิจเพิ่มขึ้น 0.4% ในเดือนกันยายน เมื่อเทียบรายเดือน แต่ต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 0.5% หลังจากดีดตัวขึ้น 0.9% ในเดือนสิงหาคม
2. NATO ชี้ยูเครนอาจยิงขีปนาวุธจากระบบป้องกันภัยทางอากาศพลาดตกใส่โปแลนด์
เยนส์ สโตลเทนเบิร์ก เลขาธิการองค์การสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือ (NATO) กล่าวว่า มีความเป็นไปได้ที่ขีปนาวุธที่มีการยิงตกใส่ชายแดนโปแลนด์ในวันนี้ เป็นขีปนาวุธของระบบป้องกันภัยทางอากาศของยูเครน เพื่อสกัดขีปนาวุธของรัสเซีย "ขณะที่การสอบสวนเหตุการณ์ดังกล่าวยังคงดำเนินไป แต่ก็ไม่มีสิ่งบ่งชี้ว่าเหตุการณ์นี้เกิดจากการจงใจโจมตีสมาชิกของนาโตแต่อย่างใด" เยนส์ สโตลเทนเบิร์กกล่าว
3. สหรัฐฯ เผยยอดค้าปลีกสูงกว่าคาดในเดือนตุลาคม
กระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ เปิดเผยว่า ยอดค้าปลีกเพิ่มขึ้น 1.3% ในเดือนตุลาคม สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 1.0% หลังจากทรงตัวในเดือนกันยายน ยอดค้าปลีกได้รับแรงหนุนจากยอดขายรถยนต์ที่เพิ่มขึ้น ส่วนการดีดตัวขึ้นของราคาน้ำมันเบนซินช่วยเพิ่มยอดขายของสถานีบริการน้ำมัน นอกจากนี้ การจัดโปรโมชั่นในวัน Prime Day ของบริษัทแอมะซอนก็ได้เพิ่มยอดค้าปลีกในเดือนตุลาคม ส่วนยอดค้าปลีกพื้นฐาน ซึ่งไม่รวมยอดขายรถยนต์, น้ำมัน, วัสดุก่อสร้าง, และอาหารเพิ่มขึ้น 0.7% ในเดือนตุลาคม หลังจากเพิ่มขึ้น 0.6% ในเดือนกันยายน
4. บอนด์ยีลด์สหรัฐฯ ร่วง นักลงทุนจับตาตัวเลขเศรษฐกิจ
อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ปรับตัวลงในวันนี้ ขณะที่นักลงทุนจับตาตัวเลขเศรษฐกิจเพื่อบ่งชี้ทิศทางอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) ณ เวลา 23.30 น. ตามเวลาไทย อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 10 ปี อยู่ที่ระดับ 3.734% และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 30 ปี อยู่ที่ระดับ 3.907%
การเพิ่มขึ้นของราคาทองคำ มีสาเหตุและปัจจัยหนุน ดังนี้
1. ปอนด์แข็งค่า หลังเงินเฟ้ออังกฤษพุ่งสูงสุดในรอบ 41 ปี
เงินปอนด์แข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กในวันพุธ (16 พฤศจิกายน 2022) หลังมีรายงานว่าตัวเลขเงินเฟ้อของอังกฤษพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 41 ปี ซึ่งอาจทำให้ธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) เดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ทั้งนี้ ดัชนีดอลลาร์ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงินลดลง 0.12% แตะที่ 106.2810 เงินปอนด์แข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.1913 USD จากระดับ 1.1873 USD ขณะที่ยูโรแข็งค่าขึ้นแตะที่ระดับ 1.0394 USD จากระดับ 1.0365 USD ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับเงินเยนที่ระดับ 139.34 JPY จากระดับ 139.13 JPY และแข็งค่าเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิสที่ระดับ 0.9441 CHF จากระดับ 0.9424 CHF นอกจากนี้ ดอลลาร์สหรัฐยังแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดาที่ระดับ 1.3329 CAD จากระดับ 1.3285 CAD และแข็งค่าเมื่อเทียบกับโครนาสวีเดนที่ระดับ 10.4822 SEK จากระดับ 10.4530 SEK
2. ดาวโจนส์ปิดลบ 39.09 จุด วิตกผลประกอบการบริษัทค้าปลีก
ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบในวันพุธ (16 พฤศจิกายน 2022) หลังจากบริษัทาร์เก็ต ซึ่งเป็นบริษัทค้าปลีกรายใหญ่ของสหรัฐฯ เปิดเผยกำไรทรุดตัวลงในไตรมาส 3 ซึ่งทำให้นักลงทุนวิตกกังวล เกี่ยวกับแนวโน้มผลประกอบการของกลุ่มบริษัทค้าปลีก ในขณะที่เทศกาลวันหยุดที่สำคัญกำลังใกล้เข้ามา นอกจากนี้ ตลาดยังถูกกดดันจากการร่วงลงของหุ้นกลุ่มผู้ผลิตชิป หลังจากบริษัทไมครอนเทคโนโลยีประกาศแผนปรับลดการผลิตชิปหน่วยความจำ ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 33,553.83 จุด ลดลง 39.09 จุดหรือ -0.12%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 3,958.79 จุด ลดลง 32.94จุด หรือ -0.83% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 11,183.66 จุด ลดลง 174.75 จุด หรือ -1.54%
3. สหรัฐฯ เผยดัชนีความเชื่อมั่นผู้สร้างบ้านร่วงลงเป็นเดือนที่ 11
สมาคมผู้สร้างบ้านแห่งชาติ (NAHB) ของสหรัฐฯ เปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้สร้างบ้านลดลง 5 จุด สู่ระดับ 33 ในเดือนพฤศจิกายน ซึ่งเป็นการปรับตัวลงติดต่อกันเป็นเดือนที่ 11 และต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 36
4. เฟดเผยการผลิตภาคอุตสาหกรรมลดลง 0.1% ในเดือนตุลาคม
ธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) รายงานในวันนี้ว่า การผลิตภาคอุตสาหกรรมโดยรวมของสหรัฐฯ ลดลง 0.1% ในเดือนตุลาคม หลังจากปรับตัวขึ้น 0.1% ในเดือนกันยายน ทั้งนี้ ตัวเลขการผลิตภาคอุตสาหกรรมโดยรวม เป็นการวัดการปรับตัวของภาคโรงงาน, เหมืองแร่ และสาธารณูปโภค
อัพเกรดความรู้เพิ่มเติม: Blog