ข่าวราคาทองคำวันนี้ 22 พฤศจิกายน 2022
ราคาทองคำเมื่อวานนี้ปิดปรับตัวลดลง 13.70 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ระหว่างวันการดีดตัวของราคาทองคำเป็นไปอย่างจำกัด เนื่องจากราคาทองคำได้รับแรงกดดันจากการแข็งค่าของดัชนีดอลลาร์ ท่ามกลางแรงซื้อดอลลาร์ในฐานะสกุลเงินปลอดภัย ขณะที่เงินหยวนของจีนอ่อนค่าลงแตะระดับต่ำสุดที่ 7.1708 ซึ่งเป็นระดับที่อ่อนค่าที่สุดนับตั้งแต่วันที่ 11 พฤศจิกายน จากความวิตกว่า ยอดผู้ป่วย COVID-19 ที่พุ่งสูงขึ้นในจีน และรายงานผู้เสียชีวิตครั้งแรกในรอบหลายเดือน อาจกระตุ้นให้จีนกลับมาใช้มาตรการล็อกดาวน์เพื่อคุม COVID-19 ซึ่งกระตุ้นความกังวลต่อเศรษฐกิจ
นอกจากนี้ ดัชนีดอลลาร์ยังได้รับแรงหนุนเพิ่มจากถ้อยแถลงในเชิง Hawkish ของ แมรี เดลี ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) สาขาซานฟรานซิสโก ที่กล่าวเมื่อวันจันทร์ว่า เฟดอาจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยสู่ระดับที่สูงกว่า 5% หากอัตราเงินเฟ้อไม่ลดลง พร้อมย้ำอีกครั้งว่า ตอนนี้ยังเร็วเกินไปที่จะมองว่าแรงกดดันด้านราคาที่ชะลอตัวลงนั้นมาถึงจุดเปลี่ยนแล้ว ถ้อยแถลงดังกล่าวยังคงกระตุ้นการคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) จะเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไป โดยไม่เร่งรีบในการยุติการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย สถานการณ์ดังกล่าว นอกจากจะหนุนดอลลาร์ให้แข็งค่าแล้วนั้น ยังหนุนอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ อายุ 10 ปี ให้ดีดตัวขึ้นสู่ระดับ 3.8419% ส่วนอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ อายุ 2 ปีเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 4.5651% จนกดดันทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ไม่ได้ให้ผลตอบแทนในรูปแบบของดอกเบี้ยเพิ่ม และเป็นปัจจัยที่อยู่เบื้องหลังการร่วงลงทดสอบระดับต่ำสุดบริเวณ 1,732.00 ดอลลาร์ต่อออนซ์ของทองคำ ด้านกองทุน SPDR ถือครองทองคำเพิ่ม +1.44 ตัน สำหรับวันนี้ติดตามการเปิดเผยดัชนีภาคการผลิตจากเฟดริชมอนด์ และถ้อยแถลงของเจ้าหน้าที่เฟด
การร่วงลงของราคาทองคำ มีสาเหตุและปัจจัยกดดัน ดังนี้
1. ดอลลาร์แข็งค่าขึ้น วิตกโควิดระบาดจีนหนุนแรงซื้อสกุลเงินปลอดภัย
ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก ๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กในวันจันทร์ (21 พฤศจิกายน) เนื่องจากนักลงทุนกระหน่ำซื้อดอลลาร์ในฐานะสกุลเงินปลอดภัย ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับการแพร่ระบาดของโควิด-19 ในจีน ทั้งนี้ ดัชนีดอลลาร์ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงินเพิ่มขึ้น 0.82% แตะที่ 107.8350 ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับเงินเยนที่ระดับ 142.13 JPY จากระดับ 140.36 JPY และแข็งค่าเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิสที่ระดับ 0.9592 CHF จากระดับ 0.9531 CHF นอกจากนี้ ดอลลาร์สหรัฐยังแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดาที่ระดับ 1.3446 CAD จากระดับ 1.3384 CAD และแข็งค่าเมื่อเทียบกับโครนาสวีเดนที่ระดับ 10.7110 SEK จากระดับ 10.6243 SEK ส่วนยูโรอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.0243 USD จากระดับ 1.0331 USD และเงินปอนด์อ่อนค่าลงแตะที่ระดับ 1.1815 USD จากระดับ1.1890 USD
2. "โกลด์แมน แซคส์" หั่นคาดการณ์ราคาน้ำมัน หลังโควิดระบาดในจีน
โกลด์แมน แซคส์ ปรับลดคาดการณ์ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ในไตรมาส 4 สู่ระดับ 100 ดอลลาร์/บาร์เรล จากเดิมที่ระดับ 110 ดอลลาร์/บาร์เรล โดยได้รับผลกระทบจากการพุ่งขึ้นของจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในจีน ซึ่งจะทำให้มีการใช้มาตรการล็อกดาวน์ และส่งผลกระทบต่ออุปสงค์น้ำมัน นอกจากนี้ โกลด์แมน แซคส์ ระบุว่า ความไม่ชัดเจนของกลุ่ม G7 ในการใช้มาตรการกำหนดเพดานราคาน้ำมันของรัสเซีย เป็นอีกสาเหตุที่ฉุดราคาน้ำมัน อย่างไรก็ดี โกลด์แมน แซคส์ ยังคงตรึงคาดการณ์ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ในปีหน้าที่ระดับ 110 ดอลลาร์/บาร์เรล
การเพิ่มขึ้นของราคาทองคำ มีสาเหตุและปัจจัยหนุน ดังนี้
1. ‘นาโต้’ ย้ำ การปกป้องยูเครน คือ การปกป้องประชาธิปไตย
เลขาธิการองค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ (NATO) เรียกร้องให้ประเทศสมาชิกยกระดับการสนับสนุนทางทหารให้กับยูเครน เพื่อให้รอดพ้นจากสถานการณ์ความขัดแย้ง และก้าวผ่านมาเป็น “ประเทศหนึ่งในยุโรปที่ปกครองในระบอบประชาธิปไตยที่มีอิสรภาพและอธิปไตย” เยนส์ สโตลเทนเบิร์ก เลขาธิการนาโต้ กล่าวต่อที่ประชุมสมัชชารัฐสภานาโต้ ที่กรุงมาดริด ในวันจันทร์ว่า “เราต้องระลึกได้แล้วว่า สงครามนี้น่าที่จะไปจบลงที่โต๊ะเจรจาในที่สุด แต่เราก็รู้ว่า ผลลัพธ์ของการเจรจาเหล่านั้นจะขึ้นอยู่กับความแข็งแกร่งในสนามรบเท่านั้น” สโตลเทนเบิร์ก กล่าวด้วยว่า ประเทศพันธมิตรนั้นต้องลงทุนในด้านเงิน เพื่อสนับสนุนการทหารของยูเครนให้มากขึ้น และกล่าวว่า “เราต้องจำไว้ว่า ราคาที่เราจ่ายไปนั้นวัดกันที่จำนวนเงิน และราคาที่ยูเครนจ่ายนั้นวัดกันด้วยจำนวนชีวิต เลือด ทุก ๆ วัน ... มันจึงเป็นภาระผูกพันของเราที่จะต้องสนับสนุนพวกเขา เลขาธิการนาโต้ยังกล่าวยกย่องกองทัพยูเครนที่สามารถรุกกลับ จนมีชัยเหนือกองกำลังของกรุงมอสโกได้ แต่เตือนไม่ให้ประเมินสรรพกำลังทางทหารของสหพันธรัฐรัสเซียต่ำเกินไปด้วย
2. เจ้าชายซาอุฯ โต้ข่าว "วอลลส์ ตรีท เจอร์นัล" ยันไม่มีการหารือเพิ่มกำลังการผลิต
สำนักข่าว SPA ของซาอุดีอาระเบียรายงานว่า เจ้าชายอับดูลาซิซ บิน ซัลมาน รัฐมนตรีพลังงานซาอุดีอาระเบีย กล่าวปฏิเสธรายงานข่าวของหนังสือพิมพ์วอลล์สตรีท เจอร์นัล โดยยืนยันว่า ซาอุดีอาระเบียและสมาชิกของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (Opec) ไม่ได้หารือกันเกี่ยวกับการปรับเพิ่มกำลังการผลิตแต่อย่างใด
3. บิตคอยน์ร่วงหลุด $16,000 หวั่นโดมิโนเอฟเฟคจาก FTX
บิตคอยน์ร่วงลงต่ำกว่าระดับ 16,000 ดอลลาร์ ขณะที่สกุลเงินดิจิทัลอื่นๆ ดิ่งลงเช่นกัน โดยได้รับผลกระทบจากการประกาศล้มละลายของ FTX แพลตฟอร์มซื้อขาย Cryptocurrency ที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 ของโลก ณ เวลา 19.41 น. ตามเวลาไทย บิตคอยน์ดิ่งลง 2.96% สู่ระดับ 16,024.46 ดอลลาร์ ในการซื้อขายบนแพลตฟอร์ม Coinbase หลังทรุดตัวลง 3.6% สู่ระดับ 15,990.89 ดอลลาร์ ก่อนหน้านี้ แตะระดับต่ำสุดในรอบ 1 สัปดาห์
4. ดาวโจนส์ปิดลบ 45.41 จุด วิตกจีนล็อกดาวน์กระทบเศรษฐกิจ
ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบในวันจันทร์ (21 พฤศจิกายน) เนื่องจากนักลงทุน
วิตกกังวลเกี่ยวกับผลกระทบทางเศรษฐกิจ หลังจากจีนประกาศล็อกดาวน์เขตต่าง ๆ ในกรุงปักกิ่งและอีกหลายเมืองเพื่อควบคุมการระบาดของโรคโควิด-19 ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 33,700.28 จุด ลดลง 45.41 จุด หรือ -0.13%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 3,949.94 จุด ลดลง 15.40 จุด หรือ -0.39% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 11,024.51 จุด ร่วงลง 121.55 จุด หรือ -1.09%
อัพเกรดความรู้เพิ่มเติม: Blog