ข่าวราคาทองคำวันนี้ 23 พฤศจิกายน 2022

ราคาทองคำเมื่อวานนี้ปรับตัวเพิ่มขึ้น 2.70 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยระหว่างวันราคาทองคำได้รับแรงหนุนจากดัชนีดอลลาร์ที่อ่อนค่าลง 0.58% ท่ามกลางแรงขายสกุลเงินปลอดภัย เนื่องจากนักลงทุนทั่วโลก กลับมาเปิดรับความเสี่ยง (Risk on) ประกอบกับธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) แห่งริชมอนด์ เปิดเผยว่า ดัชนีภาคการผลิตปรับตัวขึ้นสู่ระดับ -9 ในเดือนพฤศจิกายน ซึ่งถือว่า “ต่ำกว่า” ที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ จึงเป็นปัจจัยกดดันดอลลาร์ นอกจากนี้ ดอลลาร์ยังได้รับแรงกดดันเพิ่มจากสกุลเงินยูโรที่แข็งค่า ขึ้นขานรับการเปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคในยูโรโซนที่ปรับตัวขึ้นเกินคาดสู่ระดับ -23.9 ในเดือนพฤศจิกายน ขณะที่ โรเบิร์ต โฮลซ์แมนน์ ซึ่งเป็นคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลางยุโรป (ECB) กล่าวว่า เขามีแนวโน้มที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 75 bps ในการประชุมเดือนธันวาคม สถานการณ์ดังกล่าว หนุนราคาทองคำให้ปรับตัวขึ้นทดสอบระดับสูงสุดบริเวณ 1,749.70 ดอลลาร์ต่อออนซ์ในระหว่างวัน อย่างไรก็ดี ราคาทองคำลดจากช่วงบวกในเวลาต่อมา ส่วนหนึ่งได้รับแรงกดดันจากแรงขายทำกำไร เนื่องจากทองคำยังไม่สามารถทะลุผ่าน Downtrend line ได้ นอกจากนี้ ทองคำยังถูกกดดันจากการปรับตัวขึ้นของตลาดหุ้นทั่วโลก ทั้งตลาดหุ้นเอเชีย ตลาดหุ้นสหรัฐฯ และตลาดหุ้นยุโรป ซึ่งบั่นทอนความต้องการลงทุนทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย ปัจจัยที่กล่าวมากดดันให้ราคาทองคำอ่อนตัวลงมาปิดตลาดบริเวณ 1,739.40 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ด้านกองทุน SPDR ถือครองทองคำเพิ่มขึ้น +0.87 ตัน สำหรับวันนี้ ติดตามการเปิดเผยยอดสั่งซื้อสินค้าคงทน, จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงาน, ดัชนี PMI ภาคการผลิตและภาคการบริการ, ยอดขายบ้านใหม่, คาดการณ์ความเชื่อมั่นผู้บริโภคจาก UoM และ FOMC Meeting Minutes

การร่วงลงของราคาทองคำ มีสาเหตุและปัจจัยกดดัน ดังนี้

1. ดาวโจนส์ปิดพุ่ง 397.82 จุด รับผลประกอบการบริษัทค้าปลีก 

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเกือบ 400 จุดในวันอังคาร (22 พฤศจิกายน)ขณะที่ดัชนี S&P 500 ปิดที่ระดับสูงสุดในรอบ 2 ปีครึ่ง หลังจากเบสท์บาย ซึ่งเป็นบริษัทค้าปลีกสินค้าอิเลกทรอนิกส์รายใหญ่ของสหรัฐฯ เปิดเผยผลประกอบการที่ดีเกินคาด นอกจากนี้ การดีดตัวขึ้นของราคาน้ำมัน ยังเป็นปัจจัยหนุนหุ้นกลุ่มพลังงาน ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 34,098.10 จุด พุ่งขึ้น 397.82 จุด หรือ +1.18%, ดัชนี S&P 500 ปิดที่ 4,003.58 จุด เพิ่มขึ้น 53.64 จุด หรือ +1.36% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 11,174.41 จุด เพิ่มขึ้น 149.90 จุด หรือ +1.36%

2. หุ้นยุโรปปิดบวก หุ้นกลุ่มน้ำมันพุ่งหนุนตลาด

ตลาดหุ้นยุโรปปิดปรับตัวขึ้นในวันอังคาร (22 พฤศจิกายน) โดยได้แรงหนุนจากการทะยานขึ้นของหุ้นกลุ่มน้ำมัน ขณะที่นักลงทุนจับตาการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจของยูโรโซน ท่ามกลางการส่งสัญญาณที่ไร้ทิศทางจากผู้กำหนดนโยบายเกี่ยวกับแนวโน้มอัตราดอกเบี้ย ทั้งนี้ ดัชนี STOXX 600 ปิดที่ 436.22 จุด เพิ่มขึ้น 3.16 จุด หรือ +0.73% ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 6,657.53 จุด เพิ่มขึ้น 23.08 จุด หรือ +0.35%, ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนี ปิดที่ 14,422.35 จุด เพิ่มขึ้น 42.42 จุด หรือ +0.29% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,452.84 จุด เพิ่มขึ้น 75.99 จุด หรือ +1.03% ตลาดหุ้นยุโรปปรับตัวขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 3 เดือน โดยได้แรงหนุนจากหุ้นกลุ่มน้ำมัน และก๊าซซึ่งพุ่งขึ้น 4.8%  ตามราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวขึ้น หลังจากซาอุดีอาระเบียเปิดเผยว่า กลุ่มโอเปกพลัสยังคงยึดมั่นต่อนโยบายการปรับลดการผลิตน้ำมัน และอาจดำเนินการต่อไปเพื่อสร้างสมดุลตลาด

การเพิ่มขึ้นของราคาทองคำ มีสาเหตุและปัจจัยหนุน ดังนี้

1. ดอลล์อ่อนค่า ตลาดจับตารายงานประชุมเฟด

ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก ๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กในวันอังคาร (22 พฤศจิกายน) ขณะที่นักลงทุนจับตารายงานการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) เพื่อหาสัญญาณบ่งชี้ทิศทางอัตราดอกเบี้ยของเฟด ทั้งนี้ ดัชนีดอลลาร์ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ลดลง 0.57% แตะที่ 107.2230 ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินเยนที่ระดับ 141.21 JPY จากระดับ 142.13 JPY และอ่อนค่าเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิสที่ระดับ 0.9523 CHF จากระดับ 0.9592 CHF นอกจากนี้ ดอลลาร์สหรัฐยังอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดาที่ระดับ 1.3383 CAD จากระดับ 1.3446 CAD และอ่อนค่าเมื่อเทียบกับโครนาสวีเดนที่ระดับ 10.6440 SEK จากระดับ 10.7110 SEK ยูโรแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.0299 USD จากระดับ 1.0243 USD ขณะที่เงินปอนด์แข็งค่าขึ้นสู่ระดับ 1.1884 USD จากระดับ 1.1815 USD

2. คณะกรรมการ ECB ส่งสัญญาณขึ้น ดอกเบี้ย 0.75% ในการประชุมเดือนธันวาคม 

โรเบิร์ต โฮลซ์แมนน์ ซึ่งเป็นสมาชิกคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลางยุโรป (ECB) กล่าวว่า เขายังไม่ได้ตัดสินใจเกี่ยวกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนธันวาคม อย่างไรก็ดี โฮลซ์แมนน์ กล่าวว่า หากยังไม่มีความคืบหน้าอย่างมีนัยสำคัญทางด้านเศรษฐกิจและเงินเฟ้อ เขาก็เลือกที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.75% โฮลซ์แมนน์กล่าวเสริมว่า เขายังไม่ตัดสินใจว่าจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.50% หรือ 0.75% แต่จากสภาวะในขณะนี้ เขามีแนวโน้มที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.75%

3. ดัชนีความเชื่อ มั่นผู้บริโภคยูโรโซนสูงกว่าคาดในเดือนพฤศจิกายน

คณะกรรมาธิการยุโรป (EC) ซึ่งเป็นองค์กรบริหารของสหภาพยุโรป (EU) ระบุว่า ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคในยูโรโซนปรับตัวขึ้นสู่ระดับ -23.9 ในเดือนพฤศจิกายน จากระดับ -27.5 ในเดือนตุลาคม และสูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ -26.0

4. ธนาคารกลางสหรัฐฯ แห่งริชมอนด์ เผยดัชนีภาคการผลิตต่ำกว่าคาดในเดือนพฤศจิกายน

ธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) แห่งริชมอนด์ เปิดเผยในวันนี้ว่า ดัชนีภาคการผลิตปรับตัวขึ้นสู่ระดับ -9 ในเดือนพฤศจิกายน และต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ -8 จากระดับ -10 ในเดือนตุลาคม

5. บิตคอยน์หลุด $16,000 ต่ำสุดในรอบ 2 ปี มาร์เก็ตแคปคริปโทวูบ หวั่นโดมิโนจากพิษ FTX

บิตคอยน์ยังคงปรับตัวต่ำกว่าระดับ 16,000 ดอลลาร์แตะระดับต่ำสุดในรอบ 2 ปี ขณะที่สกุลเงินดิจิทัลอื่น ๆ ร่วงลงเช่นกัน โดยได้รับผลกระทบจากการประกาศล้มละลายของ FTX แพลตฟอร์มซื้อขาย Cryptocurrency ใหญ่อันดับ 2 ของโลก ทั้งนี้ บิตคอยน์ร่วงลงแตะระดับ 15,480 ดอลลาร์ในวันนี้ ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 11 พฤศจิกายน 2563

6. "บลิงเกน" ชี้สหรัฐฯ ยังคงดำเนินการทบทวนความสัมพันธ์กับซาอุฯ

แอนโทนี บลิงเกน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ กล่าวว่า สหรัฐฯ ยังคงดำเนินการทบทวนความสัมพันธ์กับซาอุดีอาระเบีย แม้รัฐบาลสหรัฐฯ มีความเห็นว่า เจ้าชายมูฮัมหมัด บิน ซัลมาน มกุฏราชกุมารซาอุดีอาระเบีย ควรได้รับเอกสิทธิ์คุ้มครองจากการถูกดำเนินคดีในสหรัฐฯ กรณีมีส่วนพัวพันกับการสังหาร จามาล คาชอกกี นักข่าวชาวซาอุดีอาระเบีย