เมื่อวันพฤหัสบดี (8 ธันวาคม 65) ที่ผ่านมา ทองคำได้รับแรงหนุนจากการอ่อนค่าของดอลลาร์สหรัฐ ประกอบกับตัวเลขอัตราการว่างงานที่เพิ่มสูงขึ้น แตะระดับสูงสุดในรอบ 10 เดือน ทำให้คาดการณ์ว่า เฟดอาจชะลอการปรับขึ้นดอกเบี้ย หนุนทองพุ่งแตะระดับสูงสุดที่ $1,794.76 ก่อนจะปิดบวกในที่สุด ด้านกองทุน SPDR ถือทองไม่เปลี่ยนแปลง

การปรับตัวขึ้นของทองคำในครั้งนี้ ได้รับ “ปัจจัยหนุน” มาจากสาเหตุดังต่อไปนี้

1) ดัชนีดอลลาร์อ่อนค่าลง 0.31% แตะระดับ 104.7760  หลังชาวอเมริกันขอรับสวัสดิการว่างงานเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องสู่ระดับ 1.67 ล้านราย ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 10 เดือน อันเป็นการบ่งชี้ว่า ตลาดแรงงานเริ่มชะลอตัวลง ทำให้สนับสนุนการชะลอตัวการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟด

2) นักวิเคราะห์จากบริษัทแอลพีแอล ไฟแนนเชียล กล่าวว่า ตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงาน ถือเป็นปัจจัยขับเคลื่อนตลาด เนื่องจากนักลงทุนมองว่า การเพิ่มขึ้นของตัวเลขการว่างงาน แสดงถึงภาวะเศรษฐกิจและแรงกดดันด้านเงินเฟ้อในสหรัฐฯ ที่เริ่มคลายความร้อนแรงลง

3) ผลสำรวจของนักเศรษฐศาสตร์ สำนักข่าวรอยเตอร์ ชี้ว่า เศรษฐกิจสหรัฐฯ กำลังเข้าสู่ภาวะถดถอยในระยะสั้นและตื้นในปีหน้า พร้อมคาดการณ์ว่า เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 50 bps ในการประชุมวันที่ 14 ธันวาคม ที่จะถึงนี้

4) สถาบันการเงินระหว่างประเทศ (IIF) เปิดเผยว่า นักลงทุนต่างชาติเข้าลงทุนในตลาดเกิดใหม่ในเดือนพฤศจิกายน โดยมีวงเงินสูงสุด นับตั้งแต่เดือนมิถุนายน 64

อย่างไรก็ดี ตลาดยังคงมี “ปัจจัยกดดัน” อยู่บ้างเช่นกัน ดังนี้

1) ดัชนี Dow Jones ปิดเพิ่มขึ้น 183.56 จุด หรือ +0.55%, ดัชนี S&P500 ปิด +0.75% และดัชนี Nasdaq ปิด + 1.13% โดยได้แรงหนุนจากการที่นักลงทุนมองว่า การเพิ่มขึ้นของตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานในสหรัฐฯ อาจเป็นสัญญาณบ่งชี้ว่า เฟดจะชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในไม่ช้านี้

2) รัฐมนตรีคลังสหรัฐฯ กล่าวเมื่อวันพฤหัสบดีว่า สหรัฐฯ อาจสามารถหลีกเลี่ยงภาวะเศรษฐกิจถดถอยได้ เนื่องจากไม่มีความผันผวนของค่าจ้าง อีกทั้ง ปัญหาคอขวดของห่วงโซ่อุปทานก็เริ่มผ่อนคลายลง

3) โฆษกทำเนียบเครมลิน กล่าวว่า สงครามในยูเครนสามารถยุติลงได้ในทันที หากยูเครนมีเจตนารมณ์ที่จะดำเนินการ

จากปัจจัยข้างต้น เราจะเห็นได้ว่า ปัจจัยอาทิตย์นี้ส่วนมากจะขึ้นอยู่กับตัวเลขการว่างงานของสหรัฐฯ ที่ชี้ถึงสภาวะเศรษฐกิจโดยรวม และการคาดการณ์การขึ้นดอกเบี้ยของเฟดในการประชุมเดือนธันวาคม แต่อย่างไรก็ดี เรายังต้องติดตามปัจจัยอื่น ๆ ที่อาจเกิดขึ้นต่อไป รวมทั้งการประชุมของเฟดที่กำลังจะเกิดขึ้นด้วยเช่นกัน