วันศุกร์ (16 ธันวาคม 65) ที่ผ่านมา หลังตัวเลข PMI สหรัฐฯ ออกมาต่ำกว่าคาด ทำให้ทองคำฟื้นจาก Low $1,774.00 เทส High $1,794.20 แม้ว่าจะได้รับแรงกดดันจากถ้อยแถลงเชิงรุกของเจ้าหน้าที่เฟดก็ไม่อาจหยุดยั้งได้ และปิดบวกในที่สุด ขณะที่ดอลลาร์แข็งค่า จากความต้องการถือสกุลเงินปลอดภัยของนักลงทุน ด้านกองทุน SPDR ถือทองลดลง -3.48 ตัน

การปรับตัวขึ้นของราคาทองคำได้รับ “ปัจจัยหนุน” ดังนี้

1) ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) สาขาแอตแลนตา เปิดเผยว่า แบบจำลองคาดการณ์ GDPNow ล่าสุด แสดงให้เห็นว่า เศรษฐกิจสหรัฐฯ ขยายตัว 2.8% ในไตรมาสที่ 4 ต่ำกว่าระดับที่มีการเปิดเผยก่อนหน้านี้

2) เอสแอนด์พี โกลบอล เปิดเผยว่า ดัชนี PMI ภาคการผลิตเบื้องต้นอยู่ที่ 46.2 ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 31 เดือน จากระดับ 47.7 ในเดือนพฤศจิกายน ขณะที่ดัชนี PMI ภาคบริการเบื้องต้นอยู่ที่ 44.1 ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 4 เดือน จากระดับ 46.2 ในเดือนพฤศจิกายน โดยตัวเลขทั้ง 2 อยู่ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้

3) สำนักข่าวซีเอ็นบีซี รายงานว่า โกลด์แมนแซคส์ วาณิชธนกิจรายใหญ่ของสหรัฐฯ วางแผนปรับลดจำนวนพนักงานถึง 8% เพื่อรับมือเศรษฐกิจที่ยากลำบากในปีหน้า

4) รัฐบาลญี่ปุ่นรายงานว่า เกาหลีเหนือได้ยิงขีปนาวุธพิสัยไกล 2 ลูก หลังดำเนินโครงการพัฒนาขีปนาวุธและอาวุธยุโธปกรณ์ เพื่อตอบโต้การคว่ำบาตรจากนานาชาติที่เข้มข้นขึ้น

5) เจ้าหน้าที่ยูเครนเปิดเผยว่า รัสเซียได้ระดมยิงขีปนาวุธใส่ยูเครนกว่า 70 ลูก ซึ่งเป็นการโจมตีที่ใหญ่ที่สุดครั้งหนึ่ง นับตั้งแต่เริ่มทำสงคราม

ขณะที่ “ปัจจัยกดดัน” ก็ยังมีอยู่ในตลาดเช่นกัน ดังนี้

1) ดัชนีดอลลาร์เพิ่มขึ้น 0.15% แตะที่ระดับ 104.7030 หลังเฟดและธนาคารกลางอื่น ๆ ส่งสัญญาณการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อสกัดเงินเฟ้อต่อไป ขณะที่ความต้องการหลีกเลี่ยงความเสี่ยงหนุนดอลลาร์ในฐานะสกุลเงินปลอดภัยเพิ่มขึ้น

2) ประธานเฟดนิวยอร์ก เปิดเผยว่า ยังคงมีความเป็นไปได้ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยมากกว่าที่คาดการณ์ไว้ในปีหน้า และไม่คาดว่า เศรษฐกิจจะถดถอยจากการที่เฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเชิงรุก

3) ประธานเฟดซานฟรานซิสโก กล่าวว่า มีเหตุผลที่จะเชื่อว่า ทันทีที่อัตราดอกเบี้ยของเฟดแตะระดับสูงสุด อัตราดอกเบี้ยอาจจะอยู่ที่ระดับนั้นยาวไปจนถึงปี 67

4) ประธานเฟดคลีฟแลนด์ เชื่อว่า เฟดจะต้องขึ้นอัตราดอกเบี้ยสูงกว่าระดับค่ากลางที่ผู้กำหนดนโยบายส่วนใหญ่คาดการณ์

5) สถาบันเพื่อการวัดและประเมินผลด้านสุขภาพ (IHME) ศูนย์วิจัยสุขภาพอิสระระดับโลก เปิดเผยการคาดการณ์ครั้งใหม่ว่า การที่จีนยกเลิกมาตรการควบคุมโรคโควิด-19 ที่เข้มงวดลง อาจทำให้มีผู้ติดเชื้อพุ่งสูงขึ้น และมีผู้เสียชีวิตมากกว่า 1 ล้านรายในปีหน้า

จากข้างต้น จะเห็นได้ว่า แม้ทองคำจะได้รับปัจจัยกดดันจากถ้อยแถลงเชิงรุกของเฟด แต่ก็ไม่อาจหยุดยั้งการพุ่งขึ้นของราคาทองคำได้ ทำให้ปิดบวกในที่สุดจากปัจจัยหนุนต่าง ๆ ทั้งตัวเลข PMI ที่ต่ำกว่าคาด และข่าวที่เกี่ยวกับสงครามอื่น ๆ อย่างไรก็ดี นักลงทุนอาจต้องติดตามข่าวสารต่าง ๆ และการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟดต่อไป เพื่อวางแผนการลงทุนในระยะยาว หากอัตราดอกเบี้ยคงอยู่ในจุดนั้นตามที่ประธานเฟดสาขาต่าง ๆ คาดการณ์