ข่าวราคาทองคำวันนี้ 20 ธันวาคม 2022

ราคาทองคำวานนี้ปิดปรับตัวลดลง 5.33 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ทั้งนี้ ราคาทองคำดีดขึ้นตัวในช่วงเช้าของตลาดเอเชียและช่วงต้นของตลาดยุโรป โดยได้รับแรงหนุนจาก 2 ปัจจัย ได้แก่ การแข็งค่าของเงินเยน หลังจากสื่อรายงานว่า ในปีหน้ารัฐบาลญี่ปุ่นเตรียมหารือกับธนาคารกลางญี่ปุ่น (BoJ) เพื่อปรับเป้าหมายอัตราเงินเฟ้อที่ระดับ 2% ให้มีความยืดหยุ่นมากขึ้น หลังจากมีการกำหนดเป้าหมายเงินเฟ้อที่ระดับ 2% เป็นเวลานานเกือบ 10 ปี ซึ่งการแข็งค่าของเยน ถือเป็นปัจจัยหลักที่กดดันดัชนีดอลลาร์ให้เริ่มอ่อนค่าลงในช่วงเช้าของวานนี้ รวมถึง เงินยูโรที่แข็งค่าขึ้น หลัง Ifo ซึ่งเป็นสถาบันวิจัยเศรษฐกิจของเยอรมนีระบุว่า ดัชนีความเชื่อมั่นภาคธุรกิจเพิ่มขึ้นเกินคาดสู่ระดับ 88.6 ในเดือนธันวาคม สะท้อนว่า เยอรมนีซึ่งเป็นประเทศเศรษฐกิจขนาดใหญ่ที่สุดของยุโรป มีแนวโน้มเศรษฐกิจที่ดีขึ้น สถานการณ์ดังกล่าวกดดันดัชนีดอลลาร์เพิ่ม จนเป็นปัจจัยหนุนราคาทองคำให้ปรับตัวขึ้นทดสอบระดับสูงสุดบริเวณ 1,794.20 ดอลลาร์ต่อออนซ์ นอกจากนี้ นักวิเคราะห์ระบุว่า ปรากฎการณ์ "ซานต้า แรลลี่" อาจไม่เกิดขึ้นในตลาดหุ้นวอลล์สตรีทปีนี้ ท่ามกลางความกังวลว่าการที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) เดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยจะฉุดเศรษฐกิจสหรัฐฯ เข้าสู่ภาวะถดถอย ตลาดหุ้นวอลล์สตรีทดิ่งลงอย่างหนักในสัปดาห์ที่แล้ว และปรับตัวลงเป็นสัปดาห์ที่ 2 ติดต่อกัน ซึ่งถือเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนกันยายน

อย่างไรก็ตาม ราคาทองคำไม่สามารถรักษาช่วงบวกไว้ได้ และปรับตัวลดลงในช่วงตลาดสหรัฐฯ โดยกลับมาได้รับแรงกดดันจากการฟื้นตัวของดัชนีดอลลาร์ ท่ามกลางการคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) จะเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีหน้า และมีแนวโน้มคงอัตราดอกเบี้ยไว้ในระดับสูงตลอดปี 2023 โดยไม่เร่งรีบผ่อนคลายนโยบายการเงินก่อนเวลาอันควร สถานการณ์ดังกล่าว หนุนดัชนีดอลลาร์ และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ให้ฟื้นตัวขึ้น จนกดดันราคาทองคำในที่สุด ด้านกองทุน SPDR ถือครองทองคำเพิ่มขึ้น +1.74 ตัน สำหรับวันนี้ติดตามผลการประชุม BoJ รวมถึงการเปิดเผยตัวเลขการอนุญาตก่อสร้าง และตัวเลขการเริ่มสร้างบ้านของสหรัฐฯ

การวิเคราะห์แนวโน้มทองคำ

วันก่อนหน้าราคาอ่อนตัวลง หากราคาฟื้นตัวขึ้น แต่ไม่สามารถผ่านแนวต้านที่ 1,799-1,808 ดอลลาร์ต่อออนซ์ (1,799 ระดับสูงสุดของวันก่อนหน้า) อาจมีแรงขายออกมาเพิ่ม อย่างไรก็ตาม หากการอ่อนลงของราคาไม่หลุดโซนแนวรับระยะสั้นอยู่ที่ 1,774-1,765 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ซึ่งแรงขายอาจชะลอตัว หรืออาจเกิดการดีดตัวขึ้นช่วงสั้น ราคาจะแกว่งตัวออกด้านข้าง