ดอลลาร์อ่อนค่าเทียบสกุลเงินหลักในวันพุธโดยเฉพาะต่อปอนด์ หลังมีข่าวว่าอังกฤษและสหภาพยุโรป (อียู) ใกล้ที่จะบรรลุข้อตกลงการค้า
เมื่อเวลา 00.43 น.ตามเวลาไทย ดอลลาร์ดิ่งลง 0.94% สู่ระดับ 1.349 เทียบปอนด์ และอ่อนค่า 0.03% สู่ระดับ 103.60 เยน ขณะที่ยูโรปรับตัวขึ้น 0.17% สู่ระดับ 126.23 เยน และดีดตัวขึ้น 0.19% สู่ระดับ 1.218 ดอลลาร์ ส่วนดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ลบ 0.31% สู่ระดับ 90.37 แหล่งข่าวจากวงการทูตระบุว่า สมาชิก 27 ชาติของอียูเริ่มเตรียมการสำหรับกระบวนการบังคับใช้ข้อตกลงการค้าฉบับใหม่กับอังกฤษเริ่มตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.2564 ซึ่งข่าวนี้บ่งชี้ว่า ทั้งสองฝ่ายใกล้ที่จะบรรลุข้อตกลงการค้าที่จะมีการบังคับใช้หลังจากอังกฤษแยกตัวจากอียู (เบร็กซิท) ในช่วงสิ้นปีนี้
นอกจากนี้ นักการทูตจากชาติสมาชิกของอียูยังได้รับแจ้งจากคณะกรรมาธิการยุโรป (อีซี) ซึ่งเป็นองค์กรบริหารของอียูเพื่อให้เตรียมพร้อมสำหรับการเข้าประชุมในวันพรุ่งนี้ หากอังกฤษและ อียูสามารถบรรลุข้อตกลง “ดูเหมือนว่าทั้งสองฝ่ายใกล้บรรลุข้อตกลงแล้ว โดยอยู่ที่ว่าจะมีการประกาศในวันนี้หรือพรุ่งนี้” นักการทูตรายหนึ่งกล่าว
ก่อนหน้านี้ นายมิเชล มาร์ติน นายกรัฐมนตรีไอร์แลนด์ กล่าวว่า อังกฤษและอียูยังคงมีช่องว่างในการเจรจาเรื่องการประมง แต่เขาเชื่อว่าการเจรจามีความคืบหน้าเพียงพอที่จะทำให้ทั้งสองฝ่ายบรรลุข้อตกลงการค้า “ถ้าทั้งสองฝ่ายบรรลุข้อตกลงในวันนี้หรือพรุ่งนี้ เจ้าหน้าที่ยุโรปก็จะทำการร่างข้อตกลงในช่วงคริสต์มาส โดยผมคิดว่าการเจรจามีความคืบหน้าเพียงพอที่จะทำให้ทั้งสองฝ่ายบรรลุข้อตกลง ซึ่งหากการเจรจาประสบความล้มเหลว ก็จะส่งผลกระทบรุนแรงต่อเศรษฐกิจ และซ้ำเติมวิกฤตการณ์โควิด-19” นายมาร์ตินกล่าว
นอกจากนี้ ดัชนีดอลลาร์อ่อนค่าลงมากกว่า 6% ในปีนี้ หลังนักลงทุนคาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะยังคงดำเนินนโยบายผ่อนคลายทางการเงินต่อไปเพื่อพยุงเศรษฐกิจสหรัฐ ท่ามกลางการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19