เมื่อวันศุกร์ (24 กุมภาพันธ์ 66) ที่ผ่านมา ทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลบกว่า $13.20 เนื่องจากการแข็งค่าของเงินดอลลาร์และความวิตกกังวลที่นักลงทุนในตลาดต่างคาดการณ์ว่า ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อยับยั้งเงินเฟ้ออีกครั้ง ด้วยเหตุนี้ ราคาทองคำจึงปรับตัวลงมาเทส Low ที่ $1,808.50 ก่อนจะปิดตัวที่ $1,810.50 ส่วนกองทุน SPDR ถือครองทองคำที่ 917.32 ตัน ไม่เปลี่ยนแปลง
การปรับตัวลดลงของราคาทองคำในครั้งนี้มีสาเหตุมาจากตัวเลขดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อที่พุ่งสูงขึ้นแตะ 5.4% เกินจากการคาดการณ์และมากกว่าเดือนธันวาคม ส่งผลให้เป็นปัจจัยหนุนดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าแตะ High ในรอบกว่า 7 สัปดาห์ และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ดีดตัวสูงขึ้น ทำให้ฉุดทองร่วงเทส Low ในรอบ 2 เดือน
ดัชนีดอลลาร์มีการปรับตัวสูงขึ้น 0.7 จุด หรือ 0.67% มาอยู่ที่ระดับ 105.26 จุด ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ อายุ 10 ปี ปรับตัวขึ้น 0.06 % มาอยู่ที่ระดับ 3.936% ส่วนอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ อายุ 2 ปี ปรับตัวขึ้น 0.1 % มาอยู่ที่ระดับ 4.803% โดยที่ส่วนต่างอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ อายุ 10 ปี น้อยกว่า 2 ปี ที่ -0.87% ซึ่งบ่งชี้ว่า อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ในขณะนี้กำลังอยู่ในช่วง Inverted Yield Curve
อีกทั้ง ระดับเงินเฟ้อที่พุ่งสูงเกินคาดนี้ยังทำให้นักลงทุนในตลาดวิตกกังวลเกี่ยวกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟดที่จะจัดขึ้นในการประชุมวันที่ 21-22 มีนาคม 66 ซึ่งจากข้อมูล FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนักถึง 72.3% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% สู่ระดับ 4.75% – 5.00% ขณะที่นักลงทุนอีก 27.7% ให้น้ำหนักว่า เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยสูงถึง 0.50% สู่ระดับ 5.00% – 5.25%
ด้านหัวหน้ามหภาคระดับโลกของ Tastylive ระบุว่า จากภาพรวมตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ที่ออกมาแข็งแกร่ง ถือเป็นปัจจัยที่เพียงพอให้ตลาดรับรู้ว่า เฟดอาจพิจารณาการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้นในระยะยาว ซึ่งจะเป็นปัจจัยลบต่อราคาทองคำ
ส่วนเจพีมอร์แกน เชส แอนด์ โค กล่าวว่า เฟดได้จัดการกับเงินเฟ้อที่ควบคุมไม่อยู่โดยเร่งด่วนแล้ว และอาจจะหยุดอัตราดอกเบี้ยไว้ที่สูงกว่าระดับ 5% เล็กน้อย โดยมองว่าอัตราดอกเบี้ยอาจจะขึ้นไปสูงถึง 6%
ปัจจัยอื่น ๆ ที่น่าติดตามมีดังนี้
- ประธานาธิบดีโจ ไบเดน เสนอชื่อนายเอเจย์ บังกา อดีตประธานเจ้าหน้าที่บริหารของบริษัทมาสเตอร์การ์ด ให้ดำรงตำแหน่งประธานธนาคารโลกคนใหม่ เพราะเชื่อว่า ประสบการณ์อันยาวนานในภาคธุรกิจของนายบังกาจะสามารถแก้ไขปัญหาด้านการเงินโลกได้
- นายคาซูโอะ อุเอดะ ว่าที่ผู้ว่าการธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ระบุว่า นโยบายการเงินในปัจจุบันของ BOJ ช่วยให้ญี่ปุ่นหลุดพ้นจากภาวะเงินฝืดได้ในที่สุด แม้นโยบายผ่อนคลายทางการเงินจะก่อให้เกิดผลข้างเคียงมากมาย แต่นโยบายการเงินในปัจจุบันของ BOJ นั้นถือเป็นเครื่องมือที่จำเป็นและเหมาะสมในการบรรลุเป้าหมายเงินเฟ้อ 2%
- ผลสำรวจรอยเตอร์ ระบุว่า นักเศรษฐศาสตร์ 2 ใน 3 คาดว่า BOJ จะเริ่มทยอยยกเลิกนโยบายการเงินแบบผ่อนคลายมากเป็นพิเศษในเดือนเมษายน หรือมิถุนายน รวมถึงคาดว่า ญี่ปุ่นมีแนวโน้มที่จะยังคงใช้นโยบายอัตราดอกเบี้ยติดลบต่อไปจนถึงครึ่งหลังของปี 2024 เป็นอย่างน้อย
- เลขาธิการองค์การเพื่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการพัฒนา (OECD) ระบุว่า แนวโน้มเศรษฐกิจโลกปีนี้ “สดใสขึ้นเล็กน้อย” ราคาพลังงานลดลงอย่างชัดเจน เพราะยุโรปประสบความสำเร็จในการสร้างความหลากหลายด้านแหล่งพลังงาน แต่อย่างไรก็ตาม ปัญหาด้านเงินเฟ้อยังคงอยู่
- สัญญาน้ำมันดิบ WTI ปิดบวกในวันศุกร์ เนื่องจากได้แรงหนุนจากการคาดการณ์ที่ว่า รัสเซียจะปรับลดการผลิตและการส่งออกน้ำมันในเดือนหน้า
- ที่ปรึกษาด้านความมั่นคงแห่งชาติของสหรัฐฯ เปิดเผยว่า รัฐบาลสหรัฐฯ จะให้ความช่วยเหลือด้านความมั่นคงแก่ยูเครนเพิ่มอีก 2 พันล้านดอลลาร์
- ประธานาธิบดีโจ ไบเดน เตรียมคว่ำบาตรภาคอุตสาหกรรมที่ให้การสนับสนุนสงครามรัสเซียในยูเครน ในระหว่างการประชุมออนไลน์กับผู้นำประเทศสมาชิกกลุ่ม G7
- กระทรวงการต่างประเทศจีน เปิดเผยแผน 12 จุด (12-point Plan) โดยเรียกร้องให้ยุติการสู้รบในยูเครน รวมทั้งปกป้องโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ รื้อฟื้นการเจรจาสันติภาพ และยกเลิกการคว่ำบาตร เพื่อแสดงตนว่า จีนมีความเป็นกลางและสามารถช่วยยุติสงครามที่ยาวนานกว่า 1 ปี ระหว่างรัสเซียและยูเครนได้
- นิตยสารเดอสปีเกล (Der Spiegel) ของเยอรมนี รายงานว่า รัสเซียกำลังเจรจากับบริษัทจีนเกี่ยวกับการซื้อโดรน 100 ลำ ซึ่งจะจัดส่งในเดือนเมษายน
- เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ ระบุว่า ทางการสหรัฐฯ มีแผนที่จะเพิ่มกำลังพลเพื่อช่วยฝึกฝนกองกำลังทหารของไต้หวัน ท่ามกลางสถานการณ์ที่กำลังตึงเครียดยิ่งขึ้นระหว่างสหรัฐฯ กับจีน
โดยสรุป การปรับตัวของราคาทองคำในวันศุกร์ที่ผ่านมา เกิดจากระดับเงินเฟ้อที่ยังคงพุ่งสูงเกินจากการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ ทำให้ดอลลาร์แข็งค่าขึ้น อีกทั้ง ตลาดยังแสดงความกังวลต่อการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟด ด้วยเหตุนี้ราคาทองคำจึงมีการปรับตัวลดลงต่ำสุดในรอบ 2 เดือน
อย่างไรก็ตาม ตลาดยังมีปัจจัยอื่น ๆ ที่น่าติดตาม ซึ่งส่วนมากเป็นปัจจัยหนุนราคาทองคำ ดังนั้น เราจึงหวังว่า นักลงทุนทุกท่านจะติดตามปัจจัยเหล่านั้นและวางแผนการเทรดร่วมด้วย
ที่มา: CNBC, CNN, SPDR, Kitco, Investing, Reuters, Bloomberg, Fxstreet