ตลาดหุ้นสหรัฐฯอาจได้แรงบวกจากเฟดในช่วงนี้
หุ้นทั่วโลกแตะระดับสูงสุดในรอบปี ขณะที่อัตราผลตอบแทนของตั๋วคลังสหรัฐฯ รวมถึงเงินดอลลาร์ยังคงทรงตัวก่อนการรายงานเงินเฟ้อของสหรัฐฯ และการประชุมเกี่ยวกับอัตราดอกเบี้ยจากธนาคารกลางสหรัฐฯและธนาคารกลางอื่น ๆ
หุ้นสหรัฐฯปิดสูงขึ้นโดยได้แรงหนุนจากกำไรในภาคเทคโนโลยี การบริการผู้บริโภค และอุตสาหกรรม โดยเงินดอลลาร์เคลื่อนไหวเพียงเล็กน้อย เนื่องจากนักลงทุนเริ่มหันไปมองหาสินทรัพย์เสี่ยง โดยตลาดคาดการณ์ว่าเฟดอาจจะไม่ขึ้นอัตราดอกเบี้ยเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนมกราคม 2565
อย่างไรก็ตาม ราคาน้ำมันลดลงประมาณ 4% แตะระดับต่ำสุดตั้งแต่เดือนธันวาคม 2564 เนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับอุปสงค์ที่อ่อนแอและอุปทานทั่วโลกที่เพิ่มขึ้น ประกอบกับความไม่แน่นอนเกี่ยวกับอัตราดอกเบี้ยและอัตราเงินเฟ้อ ส่งผลให้ตลาดระมัดระวังในการลงทุน โดยเฝ้าจับตามติการประชุมของธนาคารกลาง และความกังวลเกี่ยวกับอุปสงค์ของจีนที่อ่อนแอ รวมถึงอุปทานของรัสเซียที่เพิ่มขึ้น
ทางด้านดัชนี S&P 500 และ Nasdaq ปิดเซสชั่นพุ่งขึ้นสู่ระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนเมษายน 2565 โดยตลาดบางส่วนคาดว่า S&P 500 ซึ่งเพิ่มขึ้น 20% นับตั้งแต่ระดับต่ำสุดในวันที่ 12 ตุลาคม ได้ส่งสัญญาณถึงการเริ่มต้นของแนวโน้มขาขึ้นอีกครั้ง
ทั้งนี้ การเพิ่มขึ้นของหุ้นในกลุ่ม mega-cap ล่าสุด รวมถึงรายงานผลประกอบการรายไตรมาสที่เป็นบวก และความคาดหวังว่าเฟดอาจใกล้ถึงจุดสิ้นสุดของวงจรการคุมเข้มนโยบายการเงิน ได้มีส่วนทำให้ดัชนีปรับตัวสูงขึ้น และได้ขยายไปสู่ตลาดในภาคส่วนธุรกิจที่มีความอ่อนไหวทางเศรษฐกิจมากขึ้น เช่น ในภาคพลังงานและอุตสาหกรรม ตลอดจนหุ้นในกลุ่ม small-cap ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความยืดหยุ่นของเศรษฐกิจสหรัฐฯ แม้ว่าอัตราดอกเบี้ยจะยังคงอยู่ในระดับที่สูงก็ตาม
อย่างไรก็ดี การเพิ่มขึ้นของดัชนีหุ้นซึ่งได้รับแรงหนุนส่วนหนึ่งจากความคาดหวังจากเฟด ยังได้รวมไปถึงดัชนีราคาผู้บริโภคและผู้ผลิตที่ลดลงเมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า หลังจากที่ก่อนหน้านี้ หุ้นขนาดเล็กในสหรัฐอเมริการ่วงลงต่ำและกดดันดัชนี S&P 500 แต่ทว่าล่าสุด มูลค่าพื้นฐานของหุ้นเหล่านี้กลับได้รับความนิยมมากขึ้นเมื่อเทียบกับหุ้นรายใหญ่อื่นๆ
ทั้งนี้ ตามเครื่องมือ CME Fedwatch มีความเป็นไปได้มากกว่า 70% ที่เฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยอยู่ในช่วง 5%-5.25% ในวันพุธที่จะถึงนี้ ในขณะที่มีโอกาส 71% ที่เฟดอาจจะขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนกรกฎาคม
ความสนใจของตลาดและนักลงทุนปัจจุบันจึงอยู่ที่ข้อมูลเงินเฟ้อที่และการตัดสินใจเกี่ยวกับอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ โดยเฟดจะจัดการประชุมเป็นเวลา 2 วัน ซึ่งตรงกับการประกาศดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ในเดือนพฤษภาคม ซึ่งดัชนี CPI คาดว่าจะบ่งชี้ถึงอัตราเงินเฟ้อที่ลดลงเล็กน้อย ในขณะที่อัตราเงินเฟ้อพื้นฐานจะยังคงทรงตัว และแม้ว่าข้อมูลเงินเฟ้ออาจไม่ส่งผลต่อการตัดสินใจของเฟดมากนัก แต่ก็อาจเพิ่มความหวังที่เฟดอาจพักใช้นโยบายการเงินแบบเข้มงวดชั่วคราว หากข้อมูลที่ประกาศสอดคล้องกับการคาดการณ์และสะท้อนถึงแรงกดดันด้านราคาที่ลดลง ซึ่งตลาดคาดว่าอัตราเงินเฟ้อประจำปีอาจจะลดลงเหลือ 4.1% เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้าที่ 4.9%
ข้อมูลประกอบการวิเคราะห์ทางเทคนิค (5H) CFD US30 DJIA
แนวต้านสำคัญ : 34066.8, 34076.1, 34091.0
แนวรับสำคัญ : 34037.0, 34027.7, 34012.8
5H Outlook
ที่มา: Investing.com
Buy/Long 1 หากมีการแตะแนวรับที่ช่วงราคา 34030.0 - 34037.0 แต่ไม่สามารถเบรกแนวรับที่ 34037.0 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 34066.8 และ SL ที่ประมาณ 34026.0 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้
Buy/Long 2 หากสามารถเบรกแนวต้านที่ช่วงราคา 34066.8 - 34073.8 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 34091.0 และ SL ที่ประมาณ 34032.0 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้
Sell/Short 1 หากมีการแตะแนวต้านที่ช่วงราคา 34066.8 - 34073.8 แต่ไม่สามารถเบรกแนวต้านที่ 34066.8 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 34026.0 และ SL ที่ประมาณ 34077.0 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้
Sell/Short 2 หากสามารถเบรกแนวรับที่ช่วงราคา 34030.0 - 34037.0 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 34012.8 และ SL ที่ประมาณ 34071.0 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้
Pivot Points Jun 13, 2023 09:42AM GMT+7
Name | S3 | S2 | S1 | Pivot Points | R1 | R2 | R3 |
---|---|---|---|---|---|---|---|
Classic | 33986.9 | 34012.8 | 34026.0 | 34051.9 | 34065.1 | 34091.0 | 34104.2 |
Fibonacci | 34012.8 | 34027.7 | 34037.0 | 34051.9 | 34066.8 | 34076.1 | 34091.0 |
Camarilla | 34028.4 | 34032.0 | 34035.6 | 34051.9 | 34042.8 | 34046.4 | 34050.0 |
Woodie's | 33980.5 | 34009.6 | 34019.6 | 34048.7 | 34058.7 | 34087.8 | 34097.8 |
DeMark's | - | - | 34019.4 | 34048.6 | 34058.5 | - | - |
Sources: Investing 1, Investing 2