บทวิเคราะห์ USD/JPY วันที่ 14 มิถุนายน 2566

บทวิเคราะห์ USD/JPY วันที่ 14 มิถุนายน 2566
Create at 1 year ago (Jun 14, 2023 10:15)

BOJ ยังคงนโยบายแบบผ่อนคลาย

ธนาคารแห่งประเทศญี่ปุ่น (BOJ) มีแนวโน้มที่จะคงนโยบายการเงินแบบผ่อนคลายเป็นพิเศษ รวมถึงนโยบายการควบคุมเส้นอัตราผลตอบแทนในสัปดาห์นี้ เช่นเดียวกับการคาดการณ์การฟื้นตัวของเศรษฐกิจในระดับปานกลาง เนื่องจากการใช้จ่ายที่แข็งแกร่งของภาคธุรกิจและครัวเรือนซึ่งช่วยชดเชยผลกระทบของอุปสงค์ในต่างประเทศที่ชะลอตัว

นอกจากนี้ BOJ อาจปรับเพิ่มการคาดการณ์ราคาในเดือนกรกฎาคม หากพบอัตราเงินเฟ้อสูงกว่าที่คาดการณ์ไว้ โดยคาซูโอะ อุเอดะ ผู้ว่าการ BOJ ได้ชี้แจงว่าการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมการตั้งราคาขององค์กร อาจส่งผลให้อัตราเงินเฟ้อเพิ่มขึ้นสูงกว่าที่คาดไว้ และย้ำถึงความมุ่งมั่นของธนาคารกลางเพื่อให้แน่ใจว่าบริษัทต่างๆได้มีการปรับขึ้นค่าจ้างอย่างเพียงพอ ในการถ่วงดุลอัตราเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้นและอาจส่งผลกระทบต่อภาคครัวเรือน

อย่างไรก็ดี BOJ ได้ให้ความสำคัญกับการสนับสนุนการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจเพื่อให้บรรลุเป้าหมายด้านราคาอย่างยั่งยืน ซึ่งบ่งชี้ว่าอาจมีการคงนโยบายที่แบบผ่อนคลายเป็นพิเศษไว้อย่างต่อเนื่องในระยะเวลาอันใกล้นี้ โดยคาดว่า BOJ มีแนวโน้มที่จะรอหลักฐานที่แสดงถึงความสามารถในการรักษาวงจรเชิงบวกของญี่ปุ่นได้ จากการปรับขึ้นของราคาที่จะนำไปสู่ค่าจ้างที่สูงขึ้น และกำลังซื้อที่มากขึ้นสำหรับภาคครัวเรือน ก่อนที่จะพิจารณาปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในระยะสั้น

นอกจากนี้ เนื่องจากความต้องการที่ลดลงของสหรัฐฯ และจีน BOJ คาดว่าจะปรับมุมมองเชิงบวกลดลงเล็กน้อยเกี่ยวกับการส่งออกและผลผลิต เมื่อเทียบกับการประชุมครั้งก่อนในเดือนเมษายน

โดยจากการประมาณการเบื้องต้น การส่งออกสุทธิคาดว่าจะอยู่ที่  -0.3% แม้ว่าจะพบการเกินดุลบัญชีเดินสะพัดเป็นเดือนที่สามติดต่อกันในเดือนเมษายน ซึ่งเป็นผลมาจากการเติบโตของการส่งออกแตะระดับต่ำสุดในรอบสองปี จากตลาดจีนซึ่งเป็นตลาดสำคัญสำหรับผู้ผลิตญี่ปุ่นอ่อนแอลง ทำให้เกิดความกังวลเกี่ยวกับความสามารถในการสร้างผลกำไรที่เพียงพอ ในการรองรับการปรับขึ้นค่าจ้างในปีหน้า

อย่างไรก็ตาม การส่งออกรถยนต์ที่ดีขึ้น ซึ่งเป็นผลมาจากการบรรเทาปัญหาคอขวดของอุปทาน คาดว่าจะช่วยชดเชยการลดลงของการส่งออกสินค้าอื่นๆ เช่น ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ได้บางส่วน

ทั้งนี้ ในไตรมาสแรก เศรษฐกิจของญี่ปุ่นขยายตัวอย่างแข็งแกร่งเกินคาดที่ 2.7% โดยได้แรงหนุนจากอุปสงค์ในประเทศที่แข็งแกร่งและการลงทุนในภาคธุรกิจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มผู้ผลิตรถยนต์และบริษัทอุปกรณ์เซมิคอนดักเตอร์ โดย GDP ของญี่ปุ่นเติบโตมากกว่าที่คาดการณ์ไว้ครั้งแรกในเดือนมกราคมถึงมีนาคม ซึ่งบ่งชี้ถึงการฟื้นตัวหลังการแพร่ระบาดจากการใช้จ่ายภายในประเทศ และความพร้อมของสินค้าคงคลังของบริษัท ซึ่งช่วยชดเชยผลกระทบของอุปสงค์ทั่วโลกที่ชะลอตัวลง

ทางด้านอัตราเงินเฟ้อพื้นฐาน ซึ่งไม่รวมราคาอาหารสดและเชื้อเพลิง เพิ่มขึ้น 4.1% ในเดือนเมษายนเมื่อเทียบกับปีที่แล้ว ซึ่งเป็นอัตราที่เร็วที่สุดในรอบ 40 ปี

ในขณะเดียวกัน การปรับขึ้นของค่าจ้างอย่างต่อเนื่องได้มีความสำคัญต่อการเติบโตของเศรษฐกิจญี่ปุ่นในอนาคต หลังจากอัตราเงินเฟ้อที่พุ่งขึ้นสูงในรอบสี่ทศวรรษ ส่งผลให้ทั้งธนาคารแห่งประเทศญี่ปุ่นและรัฐบาลมุ่งมั่นและยึดการปรับขึ้นของค่าจ้างเป็นวัตถุประสงค์หลักของนโยบาย แม้อัตราค่าจ้างจริงที่ไม่รวมอัตราเงินเฟ้อจะมีการลดลง 3.0% ในเดือนเมษายน ซึ่งนับเป็นการลดลงติดต่อกันเป็นเดือนที่ 13 และตอกย้ำถึงกำลังซื้อของครัวเรือนที่ลดลงเรื่อยๆ

ทางด้านการบริโภคภาคเอกชน ซึ่งมีสัดส่วนมากกว่าครึ่งหนึ่งของ GDP ของญี่ปุ่น ขยายตัว 0.5% ต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้ที่ +0.6% เล็กน้อย ในขณะที่การใช้จ่ายด้านบริการต่างๆ เช่น ร้านอาหารและโรงแรมยังคงส่งผลดีต่อการขยายตัวของ GDP ในช่วงเดือนมกราคมถึงมีนาคม

ในทางกลับกัน อัตราเงินเฟ้อของสหรัฐฯล่าสุดที่ลดลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 2 ปี ส่งผลให้นักลงทุนเชื่อว่าธนาคารกลางสหรัฐฯจะหยุดการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยชั่วคราว ซึ่งส่งผลให้ตลาดหุ้นพุ่งสูงขึ้นและเงินดอลลาร์อ่อนค่าลง

นอกจากนี้ การผ่อนคลายนโยบายของจีนได้มีส่วนทำให้สินทรัพย์เสี่ยงพุ่งขึ้นอย่างรวดเร็ว หลังจากที่ธนาคารกลางลดอัตราดอกเบี้ยซื้อคืนสำรองเป็นครั้งแรกในรอบ 10 เดือน ซึ่งอาจตามมาด้วยอัตราดอกเบี้ยมาตรฐานที่ลดลงในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า

อย่างไรก็ตาม คาดว่าสกุลเงินเอเชีย รวมถึงเงินเยนญี่ปุ่นจะยังคงอยู่ภายใต้แรงกดดัน เนื่องจากการคาดการณ์ของอัตราดอกเบี้ยสหรัฐฯที่จะยังคงอยู่ในระดับที่สูงต่อไปในปีนี้ ในขณะที่แน้วโน้มระยะสั้นอาจพบการปรับตัวขึ้นลงได้ตามความแข็งแกร่งของมตินโยบายและข้อมูลเศรษฐกิจที่เผยแพร่

ข้อมูลประกอบการวิเคราะห์ทางเทคนิค (5H) CFD USD/JPY

แนวต้านสำคัญ : 140.22, 140.30, 140.43

แนวรับสำคัญ : 139.96, 139.88, 139.75        

5H Outlook

วิเคราะห์ USD/JPY ที่มา: Investing.com

Buy/Long 1 หากมีการแตะแนวรับที่ช่วงราคา 139.86 – 139.96 แต่ไม่สามารถเบรกแนวรับที่ 139.96 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 140.24 และ SL ที่ประมาณ 139.81 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้

Buy/Long 2 หากสามารถเบรกแนวต้านที่ช่วงราคา 140.22 – 140.32 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 140.48 และ SL ที่ประมาณ 139.88 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้                 

Sell/Short 1 หากมีการแตะแนวต้านที่ช่วงราคา 140.22 – 140.32 แต่ไม่สามารถเบรกแนวต้านที่ 140.22 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 139.90 และ SL ที่ประมาณ 140.37 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้

Sell/Short 2 หากสามารถเบรกแนวรับที่ช่วงราคา 139.86 – 139.96 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 139.68 และ SL ที่ประมาณ 140.30 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้

Pivot Points Jun 14, 2023 09:54AM GMT+7

Name S3 S2 S1 Pivot Points R1 R2 R3
Classic 139.56 139.75 139.90 140.09 140.24 140.43 140.58
Fibonacci 139.75 139.88 139.96 140.09 140.22 140.30 140.43
Camarilla 139.97 140.00 140.03 140.09 140.09 140.12 140.15
Woodie's 139.54 139.74 139.88 140.08 140.22 140.42 140.56
DeMark's - - 139.83 140.06 140.17 - -

Sources: Investing 1Investing 2

______________________________
อัพเกรดความรู้เพิ่มเติม: Blog
รู้เท่าทันข่าว&สถานการณ์โลก: News
บทวิเคราะห์เชิงเทคนิคขั้นสูง: Analysis
Tags:

TECHNICAL ANALYSIS

ARTICLES