ราคาถั่วเหลืองคาดทรงตัวในกรอบขาลง

บราซิลคาดว่าจะเก็บเกี่ยวถั่วเหลืองได้มากเป็นประวัติการณ์เนื่องจากสภาพอากาศที่เอื้ออำนวย ขณะที่สหรัฐฯ เผชิญกับความท้าทายในการส่งออก รวมถึงความกังวลเกี่ยวกับการยุติข้อตกลงธัญพืชในทะเลดำที่อาจเกิดขึ้น ได้ส่งผลกระทบต่อราคาถั่วเหลืองในอนาคต ในขณะที่การนำเข้าถั่วเหลืองของสหภาพยุโรปที่ลดลง และสภาวะภัยแล้งในแถบมิดเวสต์ของสหรัฐฯได้เพิ่มความซับซ้อนให้กับตลาดถั่วเหลือง

CONAB หรือหน่วยงานการเกษตรของบราซิล ได้เพิ่มประมาณการผลผลิตถั่วเหลือง ซึ่งปัจจุบันอยู่ในระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ หรือเพิ่มขึ้นถึง 24% จากปีที่แล้ว โดยผลผลิตที่เพิ่มขึ้นเป็นผลมาจากสภาพอากาศที่เอื้ออำนวยและการเพาะปลูกที่ดีขึ้น ส่งผลกระทบต่อความต้องการถั่วเหลืองของสหรัฐฯในตลาดส่งออก

ในทางกลับกัน กระทรวงเกษตรของสหรัฐฯ (USDA) ได้รายงานการตรวจสอบการส่งออกของสหรัฐฯที่บ่งชี้ถึงภาวะขาลงอีกครั้ง โดยการแข่งขันด้านการส่งออกที่ร้อนแรงสำหรับสินค้าโภคภัณฑ์หลักนั้น ได้รับแรงหนุนจากแนวโน้มอุปสงค์และอุปทานตามฤดูกาล รวมถึงความแข็งแกร่งของเงินดอลลาร์สหรัฐฯ เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักอื่นๆ

ประมาณการอุปทานและการใช้ถั่วเหลืองสำหรับช่วงปี 2023/24 ในสหรัฐอเมริกา มีการคาดการณ์สต็อกเริ่มต้นและคงเหลือที่สูงขึ้น โดยการเพิ่มขึ้นของสต็อคเริ่มต้นสะท้อนถึงการส่งออกที่ลดลงในช่วงปี 2022/23 ซึ่งเป็นผลมาจากการส่งออกที่ต่ำกว่าที่คาดไว้ในเดือนพฤษภาคม และการแข่งขันทางการค้าจากอเมริกาใต้ และด้วยอุปทานที่เพิ่มขึ้นสำหรับปี 2023/24 รวมถึงปริมาณการนำไปใช้ที่ไม่เปลี่ยนแปลง ส่งผลให้สต็อกถั่วเหลืองคงเหลือคาดว่าจะเพิ่มขึ้น 15 ล้านบุชเชล ในขณะที่ราคาถั่วเหลืองถูกคาดการณ์ว่าจะยังคงไม่เปลี่ยนแปลงที่ 12.10 ดอลลาร์ต่อบุชเชล

อย่างไรก็ตาม เมื่อพิจารณาแนวโน้มถั่วเหลืองทั่วโลกในปี 2023/24 พบสต็อกเริ่มต้นและคงเหลือที่สูงขึ้น โดยการเพิ่มขึ้นของสต็อคเริ่มต้นในสหรัฐอเมริกาและบราซิล ได้ถูกชดเชยบางส่วนจากสต็อคที่ลดลงในอาร์เจนตินา ในขณะที่สต็อกคงเหลือในปี 2023/24 คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 0.8 ล้านตัน มาอยู่ที่ 123.3 ล้านตัน โดยสต็อกคงเหลือที่สูงขึ้นในสหรัฐอเมริกา บราซิล และสหภาพยุโรป คาดว่าจะถูกชดเชยบางส่วนด้วยสต็อกที่ลดลงในอาร์เจนตินาและเวียดนาม

ทางด้านสัญญาซื้อขายถั่วเหลืองล่วงหน้าของสหรัฐฯได้แตะระดับสูงสุดในรอบ 1 เดือน เนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับสภาพอากาศที่แห้งแล้งในแถบมิดเวสต์ของสหรัฐฯ ซึ่งอาจส่งผลเสียต่อแนวโน้มการเพาะปลูก ในขณะที่ความแข็งแกร่งของราคาน้ำมันดิบยังส่งผลต่อการเพิ่มขึ้นของราคาถั่วเหลือง ก่อนที่จะปรับลดลงเนื่องจากนักลงทุนเทขายทำกำไรในช่วงก่อนหน้า

ทั้งนี้ ความต้องการถั่วเหลืองยังคงเผชิญกับผลกระทบเชิงลบ จากการนำเข้าถั่วเหลืองของสหภาพยุโรปที่ลดลง 1.6 ล้านตัน โดยจากข้อมูลที่เผยแพร่โดยคณะกรรมาธิการยุโรประบุว่าการนำเข้าถั่วเหลืองของสหภาพยุโรปสำหรับฤดูกาล 2022/23 ลดลงถึง 12% เมื่อเทียบกับปริมาณการนำเข้าของปีที่แล้ว ณ วันที่ 11 มิถุนายน

อีกด้าน ตลาดสินค้าเกษตรยังคงได้รับอิทธิพลจากการหารือของประธานาธิบดีปูตินของรัสเซียเกี่ยวกับการยุติข้อตกลงการส่งออกธัญพืชในทะเลดำที่อาจเกิดขึ้น แม้ว่าถั่วเหลืองอาจไม่ได้รับผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญ แต่ความต้องการถั่วเหลืองในประเทศที่อาจได้รับผลกระทบจากการยุติข้อตกลงอาจเพิ่มขึ้นได้ ในขณะที่ราคาน้ำมันดิบของสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นมากกว่า 3% ซึ่งส่งผลต่อถั่วเหลืองเนื่องจากนำถั่วเหลืองไปใช้ในการผลิตเชื้อเพลิงชีวภาพ

ข้อมูลประกอบการวิเคราะห์ทางเทคนิค (5H)

แนวต้านสำคัญ : 1394.35, 1396.85, 1400.91

แนวรับสำคัญ : 1386.23, 1383.73, 1379.67              

5H Outlook

ที่มา: Investing.com                              

Buy/Long 1 หากมีการแตะแนวรับที่ช่วงราคา 1383.23 - 1386.23 แต่ไม่สามารถเบรกแนวรับที่ 1386.23 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 1395.58 และ SL ที่ประมาณ 1382.00 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้

Buy/Long 2 หากสามารถเบรกแนวต้านที่ช่วงราคา 1394.35 - 1397.35 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 1403.00 และ SL ที่ประมาณ 1385.00 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้                 

Sell/Short 1 หากมีการแตะแนวต้านที่ช่วงราคา 1394.35 - 1397.35 แต่ไม่สามารถเบรกแนวต้านที่ 1394.35 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 1384.96 และ SL ที่ประมาณ 1399.00 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้

Sell/Short 2 หากสามารถเบรกแนวรับที่ช่วงราคา 1383.23 - 1386.23 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 1376.00 และ SL ที่ประมาณ 1397.00 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้

Pivot Points Jun 15, 2023 09:52AM GMT+7

Sources: Reuters, Tastylive