จีนจะมีการกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งใหญ่
เงินหยวนได้อ่อนค่าลงต่อเนื่อง เนื่องจากข้อมูลทางเศรษฐกิจที่ได้ประกาศออกมาทำได้ไม่ดีมากนัก โดยล่าสุดนี้มีแหล่งข่าวได้มีการเปิดเผยว่ามีธนาคารชั้นนำของจีนได้ได้มีการขาดสกุลเงินดอลลาร์ในตลาดออกไปด้วยเพื่อพยุงไม่ให้ค่าเงินหยวนอ่อนค่าไปมากกว่านี้
ถึงอย่างนั้น GDP ในไตรมาสแรกของจีนถือว่าทำได้ดีกว่าที่คาดโดยมีการเติบโตถึง 2.2% จากที่คาดไว้เพียงแค่ 1.7% แต่จีนได้คาดการณ์แล้วว่าในปีนี้ GDP จะมีการเติบโตเพียงแค่ 5% เท่านั้นโดยมีการปรับลดจากที่คาดการณืไว้ที่ 5.5%
ตัวเลขการนำเข้าและการส่งออกก็ถือได้ว่าเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่สามารถบอกแน้วโน้มในอนาคตของเศรษฐกิจจีนได้ดี โดยตัวเลขการนำเข้าสินค้าได้เพิ่มขึนเป็น 218 พันล้านดอลลาร์แต่ด้านการส่งออกปรับตัวลดลงเหลือ 284 พันล้านดอลาร์ ถึงแม้ว่าจะยังมีส่วนต่างระหว่างตัวเลขการนำเข้าสินค้าและการส่งออกสินค้าอยู่ แต่ตัวเลขการนำเข้านั้นมีแนวโน้มที่มีการเพิ่มขึ้นต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2016 ซึ่งอาจจะบอกได้ว่าเศรษฐกิจจีนอาจจะยังคงเติบโตได้ในระดับนึง แต่จะเติบโตไม่เท่าในอดีตอีกแล้ว อาจจะมาจากจำนวนแรงงานเริ่มมีจำนวนลดลงและผู้สูงอายุที่้เพิ่มมากขึ้นจากนโยบายลูกคนเดียวของจีน
การกระตุ้นเศรษฐกิจของจีนรวมถึงตัวเลขทางเศรษฐกิจที่ได้ประกาศมาในช่วงก่อนหน้ารวมถึงข่าวความขัดแย้งที่เกิดขึ้นจะมีผลกระทบต่อการลงทุนของนักลงทุนอย่างแน่นอน โดยนักลงทุนมีความคาดหวังว่าจะมีมาตรการที่ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจออกมามากขึ้น และมาตรการดังกล่าวจะต้องเพียงพอที่จะฟื้นฟูความเชื่อมั่นที่ลดลงด้วย โดยมีนายตง เฉิน หัวหน้าฝ่ายวิจัยเศรษฐกิจมหภาคเอเชียจากพิคเทท เวลธ์ แมเนจเมนต์กล่าวถึงการลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ระยะสั้น และอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ระยะกลางว่า "การลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.10% ไม่ได้ช่วยอะไรมาก แต่ประเด็นก็คือสัญญาณนโยบาย ด้วยมาตรการที่จะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจมากขึ้นและหวังว่าจะสามารถเปลี่ยนมุมมองต่อจีนได้"
ทั้งนี้ เมื่อดูทางฝั้งของรัฐบาล พบว่ามีการขาดดุลทางด้านงบประมาณของรัฐอย่างต่อเนื่องและมีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้นในทุกๆ ปี หรือสามารถบอกได้ว่ารายจ่ายของทางรัฐมีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้นต่อเนื่องอีกด้วย และรายจ่ายที่เพิ่มสูงมากขึ้นจะต้องส่งผลต่อหนี้สินที่รัฐได้สร้างขึ้นด้วยเช่นกัน โดยพบว่ามีหนี้สินต่อ GDP เพิ่มขึ้นต่อเนื่องเช่นเดียวกันและในปีที่ผ่านมาพบว่ามีหนี้สินต่อ GDP สูงถึง 76.9%
นายคริสโตเฟอร์ หว่อง ที่ปรึกษาด้านสกุลเงินจากโอซีบีซีกล่าวว่า "ค่ากลางที่สูงขึ้นอาจจะเป็นการส่งสัญญาณให้ตลาดว่า ธนาคารกลางและผู้กำหนดนโยบายกำลังจับตาการเคลื่อนไหวของอัตราแลกเปลี่ยน โดยเฉพาะเมื่อหยวนจะใกล้ทะลุระดับ 7.2 ต่อดอลลาร์"
รวมถึงข้อมูลการอุปโภคบริโภค, การผลิต และตลาดอสังหาริมทรัพย์ที่ชะลอตัวกว่าคาดหลายเดือนติดต่อกันแสดงให้เห็นว่า การฟื้นตัวของเศรษฐกิจจีนกำลังต่ำกว่าที่ตั้งความหวังไว้สูง ขณะที่การฟื้นคืนความเชื่อมั่นก็ดูเหมือนว่าจะเป็นโครงการระยะยาว และนักลงทุนก็กำลังเตรียมตัวรับเกมที่นานขึ้น และการฟื้นตัวที่ช้าลง
ข้อมูลประกอบการวิเคราะห์ทางเทคนิค (5H)
แนวต้านสำคัญ: 7.2510, 7.2578, 7.2697
แนวรับสำคัญ: 7.2323, 7.2204, 7.2136
ที่มา: Investing.com
ชื่อ | S3 | S2 | S1 | จุดกลับตัว | R1 | R2 | R3 |
Classic | 7.2136 | 7.2204 | 7.2323 | 7.2391 | 7.2510 | 7.2578 | 7.2697 |
Fibonacci | 7.2204 | 7.2275 | 7.2320 | 7.2391 | 7.2462 | 7.2507 | 7.2578 |
Camarilla | 7.2392 | 7.2409 | 7.2426 | 7.2391 | 7.2460 | 7.2477 | 7.2494 |
Woodie's | 7.2162 | 7.2217 | 7.2349 | 7.2404 | 7.2536 | 7.2591 | 7.2723 |
DeMark's | - | - | 7.2357 | 7.2408 | 7.2544 | - | - |
ชื่อ | มูลค่า | Action |
RSI(14) | 74.397 | ซื้อ |
STOCH(9,6) | 74.039 | ซื้อ |
STOCHRSI(14) | 62.130 | ซื้อ |
MACD(12,26) | 0.018 | ซื้อ |
ADX(14) | 40.093 | ซื้อ |
Williams %R | -2.410 | ซื้อมากเกินไป |
CCI(14) | 116.7209 | ซื้อ |
ATR(14) | 0.0117 | ผันผวนสูง |
Highs/Lows(14) | 0.0243 | ซื้อ |
Ultimate Oscillator | 70.028 | ซื้อมากเกินไป |
ROC | 0.897 | ซื้อ |
Bull/Bear Power(13) | 0.0446 | ซื้อ |
ซื้อ:9 ขาย:0 ถือหุ้นไว้:0 สรุป:ซื้อทันที |