หยวนแข็งค่าขึ้นเล็กน้อยหลังจากอ่อนค่ามาอย่างยาวนาน
แม้เงินหยวนจะกลับตัวขึ้นมาแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์ แต่การเเข็งค่าในครั้งนี้ยังคงมีโอกาสที่จะเด้งกลับไปอ่อนค่าอยู่ แต่ถึงอย่างนั้นก็จำเป็นต้องมีการจับตาดูกันต่อไปว่าหยวนจะแข็งค่าขึ้นได้อีกหรือไม่ ทั้งนี้ก็ต้องคอยติดตามการอ่อนค่าของดอลลาร์ด้วยเช่นกัน โดยที่ DXY เริ่มปรับตัวลดลงมาแล้วหลังจากได้รับข่าวการปรับขึ้นดอกเบี้ยอีกครั้งของ FED และคาดว่าในปีนี้จะมีการปรับเพิ่มดอกเบี้ยอีก 2-3 ครั้งเท่านั้น
มุมมองที่นักลงทุนมองเกี่ยวกับจีนในตอนนี้คือเศรษฐกิจของจีนที่ชะลอตัวลงและความเสี่ยงจากภาวะเงินฝืดที่กำลังจะเกิดขึ้น โดยสามารถดูได้จากดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ที่ได้ประกาศเมื่อวันที่ผ่านมา โดยได้ประกาศออกมาที่ 0% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา และ -0.2% เมื่อเทียบกับเดือนที่แล้ว นอกจากนี้ Core CPI ที่ได้ประกาศก็มีตัวเลขที่ลดลงเช่นกัน โดยประกาศออกมาที่ 0.4% เมื่อเทียบกับปีที่แล้วในเดือนเดียวกัน
ทั้งนี้ พบว่าราคาหน้าโรงงานของจีนร่วงลงในอัตราที่เร็วที่สุดในรอบ 7 ปีครึ่งในเดือนมิถุนายน ซึ่งเกิดจากความคาดหวังว่าเศรษฐกิจจะดีมากกว่านี้ในขณะเดียวกันที่ CPI ได้มีการปรับตัวลดลงมาต่อเนื่อง เนื่องจากการฟื้นตัวหลังการระบาดยังไม่ได้แข็งแกร่งมากนักจึงส่งผลกระทบต่ออุปสงค์ที่เกิดขึ้นด้วย
นักวิเคราะห์ของ HSBC กล่าวว่า "สิ่งที่สำคัญที่สุดในตอนนี้ที่ต้องติดตามคือจะมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่ไม่ใช่ตัวเงินหรือไม่, เร็วเพียงใด, เป็นไปตามความคาดหวังของตลาดในแง่ของขนาดและความกว้างของผลกระทบที่คาดว่าจะมีผลต่อการเติบโตหรือไม่"
ผลสำรวจของรอยเตอร์ได้คาดว่า การให้สินเชื่อสกุลเงินหยวนใหม่ของจีนอาจเพิ่มขึ้นอีกในเดือนมิถุนายน หลังจากที่พุ่งขึ้นเกือบ 2 เท่าในเดือนพฤษภาคม ขณะที่ธนาคารกลางจีนยังดำเนินนโยบายเชิงผ่อนคลายต่อไปเพื่อหนุนการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจที่เปราะบาง นอกจากนี้มีการคาดว่าหนี้ค้างชำระสกุลเงินหยวนจะเพิ่มขึ้น 11.2% ในเดือนมิถุนายนจากช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ลดลงจาก 11.4% ในเดือนพฤษภาคม
การที่เร่งออกพันธบัตรรัฐบาลเร็วขึ้นอาจช่วยเพิ่มยอดระดมทุนรวมของจีน (TSF) ซึ่งเป็นมาตรวัดสินเชื่อและสภาพคล่องโดยรวม โดยคาดว่ายอด TSF จะเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 3.00 ล้านล้านหยวน จาก 1.56 ล้านล้านหยวนในเดือนพฤษภาคม แต่ถึงอย่างนั้นผลตอบแทนก็ยังคงเป็นปัจจัยหลักที่จะทำให้นักลงทุนหันมาสนใจหยวนมากขึ้น แต่เมื่อดูส่วนต่างระหว่างผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 2 ปีของสหรัฐและจีนกว้างที่สุดในรอบ 16 ปี ซึ่งทำให้สหรัฐมีผลตอบแทนที่เยอะกว่ามากและเมื่อดูความต้องการโดยรวมยังคงต่ำกว่าระดับก่อนเกิดโควิด และคาดว่าความสนใจที่พุ่งขึ้นมากนี้เกิดขึ้นพร้อมกับการเปิดประเทศของจีนซึ่งผ่านช่วงเวลานั้นไปนานมากแล้ว
ข้อมูลประกอบการวิเคราะห์ทางเทคนิค (5H)
แนวต้านสำคัญ: 7.2243, 7.2411, 7.2499
แนวรับสำคัญ: 7.1987, 7.1899, 7.1731
ที่มา: Investing.com
ชื่อ | S3 | S2 | S1 | จุดกลับตัว | R1 | R2 | R3 |
Classic | 7.1731 | 7.1899 | 7.1987 | 7.2155 | 7.2243 | 7.2411 | 7.2499 |
Fibonacci | 7.1899 | 7.1997 | 7.2057 | 7.2155 | 7.2253 | 7.2313 | 7.2411 |
Camarilla | 7.2005 | 7.2028 | 7.2052 | 7.2155 | 7.2098 | 7.2122 | 7.2145 |
Woodie's | 7.1691 | 7.1879 | 7.1947 | 7.2135 | 7.2203 | 7.2391 | 7.2459 |
DeMark's | - | - | 7.1943 | 7.2133 | 7.2199 | - | - |
ชื่อ | มูลค่า | Action |
RSI(14) | 32.172 | ขาย |
STOCH(9,6) | 52.954 | ถือหุ้นไว้ |
STOCHRSI(14) | 0.000 | ขายมากเกินไป |
MACD(12,26) | -0.006 | ขาย |
ADX(14) | 17.313 | ถือหุ้นไว้ |
Williams %R | -97.137 | ขายมากเกินไป |
CCI(14) | -209.1387 | ขายมากเกินไป |
ATR(14) | 0.0091 | ผันผวนน้อยลง |
Highs/Lows(14) | -0.0255 | ขาย |
Ultimate Oscillator | 32.694 | ขาย |
ROC | -0.695 | ขาย |
Bull/Bear Power(13) | -0.0430 | ขาย |
ซื้อ:0 ขาย:6 ถือหุ้นไว้:2 สรุป:ขายทันที |