Bitcoin อาจมีการปรับฐานอีกครั้ง
Bitcoin ได้อยู่ในกรอบระหว่าง 29,000 - 30,000 ดอลลาร์มาอย่างยาวนาน และเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา ราคาของ Bitcoin ได้มีการพุ่งขึ้นอย่างรวดเร็วสู่จุดสูงสุดใหม่ในปีนี้ที่มีมูลค่ามากกว่า 31,800 ดอลลาร์ โดยได้แรงหนุนจากอัตราเงินเฟ้อที่ลดลงอย่างรวดเร็ว รวมถึงการอนุมัติ ETF ที่อาจเกิดขึ้นในสหรัฐ และการได้รับชัยชนะของ Ripple (XRP) จากการสู้คดีกับสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ของสหรัฐอเมริกาเกี่ยวกับการจัดประเภทของ XRP
เมื่อวานที่ผ่านมา Bitcoin ได้ปรับตัวลดลงต่ำกว่า 30,000 ดอลลาร์อีกครั้ง โดยมีการรายงานของ Glassnode แสดงให้เห็นว่าการเคลื่อนไหวของราคา Bitcoin ในช่วงครึ่งแรกของปี 2023 ส่วนใหญ่จะเป็นนักลงทุนระยะสั้น โดยมีตัวเลขถึง 88% ของนักลงทุนระยะสั้นที่มีกำไร และกำไรนั้นพุ่งขึ้นอย่างมากหลังจาก BTC หลุดจาก 25,000 ดอลลาร์ จากการยื่น ETF ของ BlackRock ซึ่งไม่ได้ผิดจากที่คาดว่าจะมีการขายเพื่อเอากำไรที่แนวต้านราคา 31,000 ดอลลาร์
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าราคาจะพุ่งสูงขึ้นในช่วงครึ่งแรกของปี 2566 และมีการเทขายจากนักลงทุนระยะสั้น แต่ก็ไม่ได้มีแรงเทขายจากนักลงทุนระยะยาวเลย ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่านักลงทุนระยะยาวยังมองตลาดอยู่ในช่วงขาขึ้น แต่การเทขายที่เกิดขึ้นสามารถบอกได้ถึงความเสี่ยงในการปรับฐานของ Bitcoin อีกครั้ง
ทั้งนี้ยังมีเรื่องของการ Halving ด้วยที่อาจเป็นอีกหนึ่งสัญญาณที่ดีที่จะทำให้ราคามีการพุ่งขึ้นอีกครั้งจากรางวัลที่ให้แก่นักขุดลดลงครึ่งนึง โดยที่มีโมเดล stock-to-flow (S2F) ของ PlanB ที่เชื่อว่าราคาของสินทรัพย์จะเพิ่มขึ้นเมื่อหายาก
ในปัจจัยระยะสั้น ยังคงมีนักวิเคราะห์เชื่อว่าราคาของ Bitcoin จะมีแนวโน้มซื้อแบบ Sideway หรืออาจจะเปลี่ยนเป็นขาลง โดยมีมุมมองว่าแนวต้านราคา Bitcoin ที่ 32,000 ดอลลาร์นั้นแข็งแกร่งมาก
Charles Edwards ผู้ก่อตั้ง Capriole Investments ได้แสดงความคิดเห็นว่า “Bitcoin กำลังซื้อขายในแนวต้านที่สำคัญ แม้จะมีข่าวเชิงบวกมากมายในช่วงเดือนที่แล้วสำหรับอุตสาหกรรมคริปโต จากการประกาศของ Blackrock ETF และการได้ชัยชนะทางกฎหมายของ XRP แต่ก็ไม่มีอะไรช่วยให้ Bitcoin รักษาโมเมนตัมเหนือ 31,000 ดอลลาร์ได้”
นอกจากนี้ยังพบอีกว่าปริมาณการซื้อขายของ Bitcoin เริ่มมีการลดลง นอกเหนือจากนักลงทุนระยะสั้นที่ได้มีการขายทำกำไร ก็สามารถบอกได้ว่าแทบจะไม่มีปริมาณการซื้อ Bitcoin เลย จากจุดนี้ก็ยังมีความกังวลเพิ่มขึ้นอีกว่าแนวต้านที่ 29,000 ดอลลาร์จะสามารถรับอยู่ได้หรือไม่ หรือว่าจะร่วงกลับไปที่ 27,500 ดอลลาร์อีกครั้ง
ข้อมูลประกอบการวิเคราะห์ทางเทคนิค (5H)
แนวต้านสำคัญ: 30342.0, 30454.0, 30648.0
แนวรับสำคัญ: 30036.0, 29842.0, 29730.0
ที่มา: Investing.com
จุดกลับตัว 20 กรกฎาคม 2566 15:36 น. GMT+7
ชื่อ | S3 | S2 | S1 | จุดกลับตัว | R1 | R2 | R3 |
Classic | 29730.0 | 29842.0 | 30036.0 | 30148.0 | 30342.0 | 30454.0 | 30648.0 |
Fibonacci | 29842.0 | 29958.9 | 30031.1 | 30148.0 | 30264.9 | 30337.1 | 30454.0 |
Camarilla | 30145.8 | 30173.9 | 30202.0 | 30148.0 | 30258.0 | 30286.1 | 30314.2 |
Woodie's | 29771.0 | 29862.5 | 30077.0 | 30168.5 | 30383.0 | 30474.5 | 30689.0 |
DeMark's | - | - | 30092.0 | 30176.0 | 30398.0 | - | - |
Buy/Long 1: หากมีการแตะแนวรับที่ช่วงราคา 29842.0 - 30036.0 แต่ไม่สามารถเบรกแนวรับที่ 30036.0 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 30454.0 และ SL ที่ประมาณ 29730.0 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้
Buy/Long 2: หากสามารถเบรกแนวต้านที่ช่วงราคา 30342.0 - 30454.0 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 30648.0 และ SL ที่ประมาณ 29842.0 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้
Sell/Short 1: หากมีการแตะแนวต้านที่ช่วงราคา 30342.0 - 30454.0 แต่ไม่สามารถเบรกแนวต้านที่ 30342.0 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 29842.0 และ SL ที่ประมาณ 30648.0 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้
Sell/Short 2: หากสามารถเบรกแนวรับที่ช่วงราคา 29842.0 - 30036.0 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 29730.0 และ SL ที่ประมาณ 30454.0 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้
ตัวชี้วัดทางเทคนิค 20 กรกฎาคม 2566 15:36 น. GMT+7
ชื่อ | มูลค่า | Action |
RSI(14) | 50.594 | ถือหุ้นไว้ |
STOCH(9,6) | 98.949 | ซื้อมากเกินไป |
STOCHRSI(14) | 96.766 | ซื้อมากเกินไป |
MACD(12,26) | -89.400 | ขาย |
ADX(14) | 41.930 | ขาย |
Williams %R | -0.517 | ซื้อมากเกินไป |
CCI(14) | 148.2231 | ซื้อ |
ATR(14) | 282.7857 | ผันผวนสูง |
Highs/Lows(14) | 41.5714 | ซื้อ |
Ultimate Oscillator | 52.564 | ซื้อ |
ROC | -0.327 | ขาย |
Bull/Bear Power(13) | 264.6500 | ซื้อ |
ซื้อ:4 ขาย:3 ถือหุ้นไว้:1 สรุป:ซื้อ |