เศรษฐกิจแคนาดาหดตัว การสูญเสียในภาคแรงงานท้าทายแผนขึ้นดอกเบี้ย
ในเดือนกรกฎาคม กิจกรรมทางเศรษฐกิจของแคนาดาหดตัวครั้งแรกในรอบ 7 เดือน สาเหตุหลักมาจากการจ้างงานที่ลดลง ตามข้อมูลดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ของ Ivey ที่เปิดเผยเมื่อวันศุกร์
ทั้งนี้ เศรษฐกิจแคนาดาเผชิญกับจำนวนงานที่ลดลงรวม 6,400 ตำแหน่งในเดือนกรกฎาคมอย่างไม่คาดคิด ทำให้อัตราการว่างงานเพิ่มขึ้นเล็กน้อยเป็น 5.5% ตรงกันข้ามกับการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ และตอกย้ำความคาดหวังว่าธนาคารแห่งประเทศแคนาดาจะยุติการปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ย โดยจำนวนงานที่ลดลงนี้ถือเป็นครั้งที่สองในรอบสามเดือน ตามรายงานโดยสำนักงานสถิติแคนาดา
อย่างไรก็ดี ตลาดแรงงานของแคนาดายังคงแสดงให้เห็นถึงความยืดหยุ่น ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากจำนวนผู้อพยพที่แข็งแกร่ง แม้ว่าธนาคารกลางจะมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยมาแล้วกว่าสิบครั้งตั้งแต่เดือนมีนาคม 2565
โดยธนาคารแห่งประเทศแคนาดาซึ่งกังวลเกี่ยวกับอัตราเงินเฟ้อที่ยังคงอยู่เหนือกรอบเป้าหมาย 2% ได้ดำเนินการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเมื่อเร็ว ๆ นี้ทั้งในเดือนมิถุนายนและกรกฎาคม อย่างไรก็ตาม ธนาคารกลางได้ระบุถึงทิศทางต่อจากนี้ที่จะใช้ความระมัดระวังมากขึ้น ตามการวิเคราะห์ข้อมูลที่จะเผยแพร่อย่างใกล้ชิด โดยการประกาศนโยบายครั้งต่อไปจากธนาคารแห่งประเทศแคนาดามีกำหนดในวันที่ 6 กันยายน
ทั้งนี้ ความเชื่อมั่นของตลาดได้เปลี่ยนไปเล็กน้อยหลังจากการเปิดเผยข้อมูลที่ผ่านมา โดยความน่าจะเป็นของการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนกันยายนซึ่งสะท้อนให้เห็นในตลาดเงิน ลดลงจาก 32% เป็น 28% ในขณะที่ความเป็นไปได้ที่จะมีการขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพิ่มเติมภายในสิ้นปีได้ลดลงจาก 80% เป็น 60% บ่งชี้ถึงแนวโน้มที่ผ่อนคลายมากขึ้น
อย่างไรก็ดี แม้ว่าตัวเลขดัชนีเศรษฐกิจต่างๆ จะชี้ให้เห็นถึงความซบเซาทางเศรษฐกิจ แต่ค่าจ้างเฉลี่ยต่อชั่วโมงสำหรับพนักงานประจำ ซึ่งเป็นตัวบ่งชี้หลักที่ธนาคารแห่งประเทศแคนาดาติดตามอย่างใกล้ชิดนั้น พบว่าเพิ่มขึ้น 5.0% จากเดือนกรกฎาคม 2565 เมื่อเทียบเป็นรายปี โดยแม้ว่าการเติบโตนี้จะมากกว่าการเพิ่มขึ้น 3.9 % ในเดือนมิถุนายน แต่ยังคงต่ำกว่าการเพิ่มขึ้นที่ 5.1% ในเดือนพฤษภาคมและ 5.2% ในเดือนเมษายน
ทางด้านการค้า การขาดดุลการค้าของแคนาดาขยายตัวในเดือนมิถุนายน นับเป็นการขาดดุลที่มากที่สุดในรอบเกือบสามปี โดยได้รับแรงกดดันจากการส่งออกที่ลดลง 2.2% แซงหน้าการนำเข้าที่ลดลง 0.5% ซึ่งความไม่สมดุลทางการค้านี้ได้รับอิทธิพลจากความท้าทายต่างๆ เช่น อัตราเงินเฟ้อที่สูงขึ้น ราคาต้นทุนที่ไม่เอื้ออำนวยและสภาวะเครดิตที่ผู้ส่งออกต้องเผชิญ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การขาดดุลการค้าของแคนาดากับประเทศอื่นๆ นอกเหนือจากสหรัฐอเมริกาซึ่งเป็นคู่ค้าหลัก พุ่งสูงสุดเป็นประวัติการณ์ เนื่องจากการส่งออกที่ลดลง 5.5% เมื่อเทียบเดือนต่อเดือน ร่วมด้วยการนำเข้าที่ลดลงเพียงเล็กน้อย
ทั้งนี้ การลดลงของการส่งออกได้ขยายกว้างในหลายธุรกิจ นำโดยผลิตภัณฑ์แร่โลหะและอโลหะ ในขณะที่การนำเข้าที่ลดลง 0.5% ส่วนใหญ่เป็นผลมาจากการนำเข้าที่ลดลงของผลิตภัณฑ์พลังงานและเวชภัณฑ์ อย่างไรก็ตาม พบการนำเข้าทองคำที่ไม่ได้ขึ้นรูปเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ซึ่งช่วยชดเชยการลดลงของสินค้านำเข้าประเภทอื่นๆ
อย่างไรก็ตาม ธนาคารแห่งประเทศแคนาดาจะมีข้อมูลที่สำคัญ 2 ชุดที่ต้องพิจารณาก่อนประกาศอัตราดอกเบี้ยในวันที่ 6 กันยายน ได้แก่ ข้อมูลเงินเฟ้อในเดือนกรกฎาคมที่จะเผยแพร่ในวันที่ 15 สิงหาคม และตัวเลขการเติบโตในไตรมาสที่ 2 ในวันที่ 1 กันยายน
ในขณะเดียวกัน ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ แข็งค่าขึ้นในตลาดโลกเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา โดยได้แรงหนุนจากความต้องการสินทรัพย์ปลอดภัย รวมถึงการปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือของ Moody's ของธนาคารขนาดเล็กถึงขนาดกลางหลายแห่งของสหรัฐฯ พร้อมกับความกังวลเกี่ยวกับความเสี่ยงด้านเงินทุนและความสามารถในการทำกำไรที่ลดลงในภาคการธนาคาร ส่งผงให้ดอลลาร์สหรัฐฯ ปรับตัวเพิ่มขึ้นในช่วงการซื้อขายทั้งในยุโรปและอเมริกาเหนือ โดยได้แรงหนุนจากการเปลี่ยนแปลงของอารมณ์ตลาดและการขายหุ้นในวอลล์สตรีท
ปัจจุบัน นักลงทุนจะให้ความสนใจไปที่ข้อมูลเงินเฟ้อของสหรัฐฯ ที่กำลังจะมาถึง ซึ่งคาดว่าจะเปิดเผยราคาผู้บริโภคหลักที่เพิ่มขึ้น 4.8% ต่อปีในเดือนกรกฎาคม ซึ่งจะได้รับการจับตามองอย่างใกล้ชิดและอาจมีผลกระทบต่อตลาดการเงินทั่วโลก จึงคาดว่าจะส่งผลให้เงินดอลลาร์สหรัฐฯ มีแนวโน้มทรงตัวไปจนถึงแข็งค่ากว่าค่าเงินดอลลาร์แคนาดาได้ในช่วงนี้
ข้อมูลประกอบการวิเคราะห์ทางเทคนิค (5H) CFD USD/CAD
แนวต้านสำคัญ : 1.3438, 1.3446, 1.3460
แนวรับสำคัญ : 1.3410, 1.3402 , 1.3388
5H Outlook
ที่มา: Investing.com
Buy/Long 1 หากมีการแตะแนวรับที่ช่วงราคา 1.3400 - 1.3410 แต่ไม่สามารถเบรกแนวรับที่ 1.3410 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 1.3438 และ SL ที่ประมาณ 1.3395 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้
Buy/Long 2 หากสามารถเบรกแนวต้านที่ช่วงราคา 1.3438 - 1.3448 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 1.3460 และ SL ที่ประมาณ 1.3405 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้
Sell/Short 1 หากมีการแตะแนวต้านที่ช่วงราคา 1.3438 - 1.3448 แต่ไม่สามารถเบรกแนวต้านที่ 1.3438 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 1.3401 และ SL ที่ประมาณ 1.3453 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้
Sell/Short 2 หากสามารถเบรกแนวรับที่ช่วงราคา 1.3400 - 1.3410 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 1.3388 และ SL ที่ประมาณ 1.3443 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้
Pivot Points Aug 09, 2023 09:14AM GMT+7
Name | S3 | S2 | S1 | Pivot Points | R1 | R2 | R3 |
---|---|---|---|---|---|---|---|
Classic | 1.3366 | 1.3388 | 1.3401 | 1.3424 | 1.3437 | 1.3460 | 1.3473 |
Fibonacci | 1.3388 | 1.3402 | 1.3410 | 1.3424 | 1.3438 | 1.3446 | 1.3460 |
Camarilla | 1.3405 | 1.3408 | 1.3412 | 1.3424 | 1.3418 | 1.3422 | 1.3425 |
Woodie's | 1.3362 | 1.3386 | 1.3397 | 1.3422 | 1.3433 | 1.3458 | 1.3469 |
DeMark's | - | - | 1.3395 | 1.3421 | 1.3431 | - | - |
Sources: Investing 1, Investing 2