ค่าจ้างที่เพิ่มขึ้นในอังกฤษกระตุ้นความกังวลด้านเงินเฟ้อ
ล่าสุด เงินปอนด์ของอังกฤษแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐฯ ในวันอังคาร จากข้อมูลใหม่เปิดเผยถึงค่าจ้างของอังกฤษที่พุ่งสูงขึ้นอย่างมากในช่วงไตรมาสที่ 2 เพิ่มความกังวลเกี่ยวกับอัตราเงินเฟ้อให้กับธนาคารแห่งประเทศอังกฤษ อย่างไรก็ตาม โมเมนตัมในเชิงบวกนี้คาดว่าจะถูกจำกัดจากตลาดแรงงานที่เย็นลง
ทิศทางขาขึ้นของเงินอังกฤษล่าสุดได้รับแรงผลักดันจากการเปิดเผยค่าจ้างขั้นพื้นฐานของอังกฤษซึ่งไม่รวมโบนัส พุ่งสูงขึ้นถึง 7.8% เมื่อเทียบกับปีที่แล้วในช่วงไตรมาสที่ 2 นับเป็นอัตราการเติบโตประจำปีที่รวดเร็วที่สุดนับตั้งแต่ปี 2544 โดยการเพิ่มขึ้นของค่าจ้างนี้ได้สร้างความกังวลให้กับธนาคารแห่งประเทศอังกฤษจากวังวนเงินเฟ้อที่อาจเกิดขึ้น
ทั้งนี้ แม้จะมีการเติบโตของค่าจ้างที่แข็งแกร่ง แต่ก็ยังมีสัญญาณของการชะลอตัวของตลาดงาน โดยอัตราการว่างงานในสหราชอาณาจักรพุ่งขึ้นสูงอย่างไม่คาดคิดมาอยู่ที่ 4.2% เพิ่มขึ้นจาก 4.0% แตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่ช่วงเดือนตุลาคม 2564 โดยอัตราการว่างงานครั้งนี้เพิ่มขึ้นรวดเร็วกว่าที่ธนาคารแห่งประเทศอังกฤษคาดการณ์ไว้ กระตุ้นให้เกิดการคาดเดาเกี่ยวกับผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นกับอัตราเงินเฟ้อในอนาคต
ด้วยเหตุนี้ นักลงทุนในตลาดเงินจึงเชื่อว่าธนาคารแห่งประเทศอังกฤษจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 25 จุดพื้นฐานในระหว่างการประชุมในเดือนกันยายนที่จะถึงนี้ ในขณะที่มีความเป็นไปได้ 12% ที่อัตราจะเพิ่มขึ้น 50 จุด โดยการคาดการณ์การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเหล่านี้เกิดจากความกังวลของการเติบโตของค่าจ้างที่อาจก่อให้เกิดผลกระทบต่ออัตราเงินเฟ้อ และนำไปสู่การคาดการณ์ถึงการปรับอัตราดอกเบี้ยขึ้นรวม 75 จุดจาก BOE ภายในเดือนมีนาคมของปีถัดไป ซึ่งอาจผลักดันอัตราดอกเบี้ยมาอยู่ที่ 6 % ได้
อย่างไรก็ดี แม้จะมีการเติบโตของค่าจ้าง แต่ภาพรวมทางเศรษฐกิจโดยรวมยังอยู่ในทิศทางที่หลากหลาย โดยอัตราเงินเฟ้อจากราคาของชำในอังกฤษลดลงอย่างค่อยเป็นค่อยไปติดต่อกันเป็นเดือนที่ 5 ในเดือนสิงหาคม พร้อมกับการเติบโตของยอดขายที่ลดลงเนื่องจากสภาพอากาศที่ไม่เอื้ออำนวย อย่างไรก็ตาม ข้อมูลอย่างเป็นทางการจากเดือนก่อนหน้าระบุว่าอัตราเงินเฟ้อโดยรวมในสหราชอาณาจักรพุ่งขึ้นเป็น 7.9% ซึ่งสูงที่สุดในบรรดาประเทศเศรษฐกิจหลัก โดยอัตราเงินเฟ้อด้านอาหารสูงถึง 17.3% ในขณะที่ธนาคารแห่งประเทศอังกฤษคาดการณ์ว่าอัตราเงินเฟ้อของราคาอาหารจะลดลงเหลือประมาณ 10% ในปีนี้
ทางด้านสหรัฐฯ ดัชนีดอลลาร์ยังคงค่อนข้างคงที่หลังจากยอดค้าปลีกของสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นอย่างแข็งแกร่งเกินคาดในเดือนกรกฎาคม แม้ว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ จะได้ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเชิงรุกเพื่อควบคุมอัตราเงินเฟ้อที่ผ่านมา แต่อุปสงค์ที่แข็งแกร่งซึ่งได้รับแรงหนุนจากค่าจ้างที่เพิ่มขึ้นอย่างมากจากตลาดแรงงานที่ตึงตัวได้มีส่วนสนับสนุนการเติบโตที่ไม่คาดคิดนี้
ในขณะเดียวกันราคาผู้ผลิตในสหรัฐฯ สูงกว่าที่คาดการณ์ไว้เล็กน้อยในเดือนกรกฎาคม โดยต้นทุนบริการดีดตัวขึ้นอย่างรวดเร็วที่สุดในรอบเกือบปี อย่างไรก็ตาม แนวโน้มดังกล่าวสอดคล้องกับแรงกดดันด้านเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้นในระดับปานกลาง เสริมด้วยราคาสินค้านอกเหนือจากอาหารและพลังงานที่ไม่มีการเปลี่ยนแปลง ส่งสัญญาณถึงการลดลงของเงินเฟ้อราคาสินค้าที่ยังคงหนืด
นอกจากนี้ ผลสำรวจที่จัดทำโดยมหาวิทยาลัยมิชิแกนระบุว่าความเชื่อมั่นของผู้บริโภคสหรัฐฯ ได้ปรับตัวลดลงเล็กน้อยในเดือนสิงหาคม โดยชาวอเมริกันแสดงความคาดหวังว่าอัตราเงินเฟ้อจะค่อยๆ ลดลงในปีหน้าและปีต่อๆ ไป กอปรกับผลสำรวจโดย New York Federal Reserve ที่เน้นให้เห็นถึงการลดลงของอัตราเงินเฟ้อที่คาดการณ์ไว้สำหรับหมวดสินค้าต่างๆ รวมถึงน้ำมัน อาหาร ค่ารักษาพยาบาล และค่าเช่า ในขณะที่แรงกดดันด้านเงินเฟ้อที่อยู่ในระดับปานกลาง ทำให้เกิดคำถามเกี่ยวกับความจำเป็นในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ ในอนาคต จึงคาดว่าจะส่งผลให้เงินปอนด์มีการซื้อขายทรงตัวขึ้นลงในกรอบ ไปจนถึงอ่อนค่ากว่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ได้เล็กน้อย
ข้อมูลประกอบการวิเคราะห์ทางเทคนิค (5H) CFD GBP/USD
แนวต้านสำคัญ : 1.2706, 1.2710, 1.2715
แนวรับสำคัญ : 1.2696, 1.2692 , 1.2687
5H Outlook
ที่มา: Investing.com
Buy/Long 1 หากมีการแตะแนวรับที่ช่วงราคา 1.2686 - 1.2696 แต่ไม่สามารถเบรกแนวรับที่ 1.2696 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 1.2708 และ SL ที่ประมาณ 1.2681 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้
Buy/Long 2 หากสามารถเบรกแนวต้านที่ช่วงราคา 1.2706 - 1.2716 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 1.2722 และ SL ที่ประมาณ 1.2691 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้
Sell/Short 1 หากมีการแตะแนวต้านที่ช่วงราคา 1.2706 - 1.2716 แต่ไม่สามารถเบรกแนวต้าน 1.2706 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 1.2694 และ SL ที่ประมาณ 1.2721 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้
Sell/Short 2 หากสามารถเบรกแนวรับที่ช่วงราคา 1.2686 - 1.2696 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 1.2680 และ SL ที่ประมาณ 1.2711 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้
Pivot Points Aug 16, 2023 09:46AM GMT+7
Name | S3 | S2 | S1 | Pivot Points | R1 | R2 | R3 |
---|---|---|---|---|---|---|---|
Classic | 1.2680 | 1.2687 | 1.2694 | 1.2701 | 1.2708 | 1.2715 | 1.2722 |
Fibonacci | 1.2687 | 1.2692 | 1.2696 | 1.2701 | 1.2706 | 1.2710 | 1.2715 |
Camarilla | 1.2696 | 1.2697 | 1.2699 | 1.2701 | 1.2701 | 1.2703 | 1.2704 |
Woodie's | 1.2678 | 1.2686 | 1.2692 | 1.2700 | 1.2706 | 1.2714 | 1.2720 |
DeMark's | - | - | 1.2690 | 1.2699 | 1.2704 | - | - |
Sources: Investing 1, Investing 2