การค้ายูโรโซนฟื้นตัว ท่ามกลางการล้มละลายที่เพิ่มขึ้น และดัชนีชี้วัดทางเศรษฐกิจที่ผันผวน
ในเดือนมิถุนายน เศรษฐกิจยูโรโซนมีการเปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสำคัญจากการขาดดุลการค้าไปสู่การเกินดุลการค้าเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยการฟื้นตัวนี้ได้รับแรงหนุนจากการนำเข้าจากทั้งรัสเซียและจีนที่ลดลงอย่างมาก ตามข้อมูลที่เผยแพร่เมื่อวันพฤหัสบดีโดยสำนักงานสถิติของสหภาพยุโรป Eurostat ในขณะที่การส่งออกเพิ่มขึ้นเล็กน้อย 0.3% ในช่วง 12 เดือนที่ผ่านมา การนำเข้าลดลงอย่างมากถึง 17.7%
ในขณะเดียวกัน สหภาพยุโรปเผชิญกับการประกาศล้มละลายที่เพิ่มขึ้นในช่วงไตรมาสที่สองของปีปัจจุบัน โดยการเพิ่มขึ้นนี้มาจากภาคธุรกิจโรงแรมที่พักและบริการอาหาร ในขณะที่จากข้อมูลของ Eurostat จำนวนบริษัทที่เลิกกิจการในช่วงเดือนเมษายนถึงมิถุนายนนั้นสูงกว่าไตรมาสก่อนหน้า 8% และนับเป็นการเพิ่มขึ้นเป็นครั้งที่หกติดต่อกัน
ทั้งนี้ ในขณะที่ภาคส่วนต่าง ๆ พบจำนวนธุรกิจที่การประกาศล้มละลายมากขึ้น ภาคธุรกิจโรงแรมที่พักและบริการอาหารได้รับผลกระทบมากที่สุดโดยเพิ่มขึ้นถึง 24% โดยภาคธุรกิจการขนส่งและคลังสินค้ามีการปิดกิจการเพิ่มขึ้น 15% ส่วนธุรกิจการศึกษา สุขภาพ และกิจกรรมทางสังคมเพิ่มขึ้น 10% และยิ่งไปกว่านั้น การประกาศล้มละลายดังกล่าวในภาคธุรกิจส่วนใหญ่ได้พุ่งสูงเกินระดับก่อนโควิด ยกเว้นธุรกิจอุตสาหกรรมและการก่อสร้าง ซึ่งลดลง 12% และ 3% ตามลำดับ จากไตรมาสที่สี่ของปี 2019
ทางด้านภาคอุตสาหกรรมของยูโรโซน แสดงให้เห็นถึงการฟื้นตัวในเดือนมิถุนายน ส่งผลดีต่อการเติบโตของเศรษฐกิจโดยรวม แม้เศรษฐกิจของยูโรโซนจะซบเซาอย่างมากในช่วงสามไตรมาสที่ผ่านมา โดยมีสาเหตุหลักมาจากภาวะถดถอยของภาคการผลิตและต้นทุนอาหารและพลังงานที่สูงขึ้น
อย่างไรก็ดี ภาคการบริการและการจ้างงานยังคงช่วยเสริมความแข็งแกร่งให้กับเศรษฐกิจยูโรโซนได้ แม้จะมีสัญญาณของเศรษฐกิจซบเซาอย่างต่อเนื่องในไตรมาสต่อๆ ไป จึงคาดว่าธนาคารกลางยุโรปจะระมัดระวังในการปรับขึ้นต้นทุนการกู้ยืมเพิ่มเติม จากอัตราดอกเบี้ยที่สูงเป็นประวัติการณ์ ในขณะที่ตลาดแรงงานยังคงตึงตัว โดยอัตราการว่างงานต่ำเป็นประวัติการณ์และการจ้างงานมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเล็กน้อย โดยเฉพาะในเยอรมนี
ปัจจุบัน นักวิเคราะห์จึงคาดการณ์ว่าเศรษฐกิจยูโรโซนจะขยายตัวเล็กน้อยในช่วง 2-3 ไตรมาสข้างหน้า โดยจะได้รับแรงหนุนจากฤดูกาลท่องเที่ยวที่แข็งแกร่งและความต้องการแรงงานโดยเฉพาะในภาคบริการ ในขณะที่อัตราเงินเฟ้อมีแนวโน้มลดลง สร้างความมั่นใจให้กับ ECB มากขึ้นถึงการใช้นโยบายแบบเข้มงวดที่ให้ผลลัพธ์เป็นบวก
ทางด้านสหรัฐฯ ประสบกับความผันผวนทางเศรษฐกิจ โดยสะท้อนจากดัชนีดอลลาร์ที่ลอยตัวใกล้ระดับสูงสุดในรอบสองเดือน ในขณะที่ข้อมูลล่าสุดแสดงให้เห็นถึงความยืดหยุ่นของเศรษฐกิจสหรัฐฯ จากจำนวนใบอนุญาตก่อสร้างบ้านและโครงการก่อสร้างในอนาคตที่แข็งแกร่ง พร้อมกับการผลิตในภาคอุตสาหกรรมที่ดีดตัวขึ้น
ในขณะเดียวกัน ภาคกลาง-ตะวันออกของสหรัฐฯ พบกิจกรรมการผลิตดีดตัวขึ้นในเดือนสิงหาคม บ่งชี้ถึงการหดตัวเป็นเวลานานหนึ่งปีที่สิ้นสุดลง โดยกิจกรรมในโรงงานเติบโตในอัตราที่แข็งแกร่งที่สุดนับตั้งแต่เดือนเมษายน 2022 โดยได้แรงหนุนจากคำสั่งซื้อใหม่ที่เพิ่มขึ้นและความต้องการของผู้บริโภคที่แข็งแกร่ง ในขณะที่ความยืดหยุ่นในการใช้จ่ายและกิจกรรมการผลิตนี้สามารถช่วยให้เศรษฐกิจสหรัฐฯ หลีกเลี่ยงภาวะถดถอยได้
ทั้งนี้ แม้ว่าการเติบโตของงานในสหรัฐฯ จะชะลอตัวลง แต่ข้อมูลการขอรับสวัสดิการการว่างงานใหม่ล่าสุดที่ลดลงก็บ่งชี้ถึงภาวะตึงตัวอย่างต่อเนื่องในตลาดแรงงาน โดยความแข็งแกร่งของตลาดแรงงานนี้มีส่วนช่วยสนับสนุนเศรษฐกิจสหรัฐฯ ซึ่งเห็นได้จากยอดค้าปลีกและความต้องการของผู้บริโภคที่สูงขึ้น อย่างไรก็ตาม สัญญาณเชิงบวกเหล่านี้ยังคงสร้างความกังวลให้กับธนาคารกลางสหรัฐฯ ที่อาจจำเป็นต้องปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพิ่มเติมอีกในอนาคต จึงส่งผลให้แนวโน้มค่าเงินยูโรจะยังคงอ่อนค่ากว่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ได้อยู่ เนื่องจากความเปราะบางของหลายประเทศในกลุ่มเศรษฐกิจที่มีมากกว่าสหรัฐฯ รวมถึงผลตอบแทนที่ยังคงต่างกันมาก โดยอาจมีการดีดตัวสูงขึ้นได้บ้างตามข้อมูลเศรษฐกิจที่เผยแพร่
ข้อมูลประกอบการวิเคราะห์ทางเทคนิค (5H) CFD EUR/USD
แนวต้านสำคัญ : 1.0894, 1.0900, 1.0910
แนวรับสำคัญ : 1.0872, 1.0866, 1.0856
5H Outlook
ที่มา: Investing.com
Buy/Long 1 หากมีการแตะแนวรับที่ช่วงราคา 1.0862 - 1.0872 แต่ไม่สามารถเบรกแนวรับที่ 1.0872 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 1.0901 และ SL ที่ประมาณ 1.0857 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้
Buy/Long 2 หากสามารถเบรกแนวต้านที่ช่วงราคา 1.0894 - 1.0904 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 1.0920 และ SL ที่ประมาณ 1.0867 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้
Sell/Short 1 หากมีการแตะแนวต้านที่ช่วงราคา 1.0894 - 1.0904 แต่ไม่สามารถเบรกแนวต้านที่ 1.0894 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 1.0874 และ SL ที่ประมาณ 1.0909 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้
Sell/Short 2 หากสามารถเบรกแนวรับที่ช่วงราคา 1.0862 - 1.0872 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 1.0850 และ SL ที่ประมาณ 1.0899 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้
Pivot Points Aug 18, 2023 09:31AM GMT+7
Name | S3 | S2 | S1 | Pivot Points | R1 | R2 | R3 |
---|---|---|---|---|---|---|---|
Classic | 1.0846 | 1.0856 | 1.0874 | 1.0883 | 1.0901 | 1.0910 | 1.0928 |
Fibonacci | 1.0856 | 1.0866 | 1.0872 | 1.0883 | 1.0894 | 1.0900 | 1.0910 |
Camarilla | 1.0883 | 1.0886 | 1.0888 | 1.0883 | 1.0894 | 1.0896 | 1.0899 |
Woodie's | 1.0850 | 1.0858 | 1.0878 | 1.0885 | 1.0905 | 1.0912 | 1.0932 |
DeMark's | - | - | 1.0878 | 1.0885 | 1.0905 | - | - |
Sources: Investing 1, Investing 2