เยนอ่อนค่าหนุนอัตราเงินเฟ้อญี่ปุ่น กดดัน BOJ
ในเดือนกรกฎาคม อัตราเงินเฟ้อผู้บริโภคของญี่ปุ่นสูงเกินความคาดหมาย เนื่องจากเงินเยนที่อ่อนค่า ส่งผลให้ต้นทุนการนำเข้าสูงขึ้น เพิ่มแรงกดดันให้ธนาคารแห่งประเทศญี่ปุ่น (BOJ) ในการเริ่มใช้นโยบายแบบเข้มงวด ในทางกลับกัน ราคาผู้บริโภคทั่วไปพบว่าชะลอตัวลงเล็กน้อย ซึ่งอาจส่งผลให้ BOJ ไม่รีบเร่งที่จะยุติมาตรการผ่อนคลายทางการเงิน โดยเพิ่มขึ้น 3.1% ตรงกับการคาดการณ์ของตลาดและรักษาระดับเหนือกรอบเป้าหมาย BOJ ที่ 2% ติดต่อกันเป็นเดือนที่ 16 ในขณะที่ดัชนีเงินเฟ้อพื้นฐานซึ่งไม่รวมราคาอาหารสดและพลังงานเร่งตัวขึ้นเป็น 4.3% เมื่อเทียบเป็นรายปีในเดือนกรกฎาคม
ทั้งนี้ อัตราเงินเฟ้อในเดือนกรกฎาคมได้รับแรงหนุนจากการใช้จ่ายของผู้บริโภคที่คงที่สำหรับสินค้าไม่คงทน การพักผ่อน และการท่องเที่ยวที่ฟื้นตัว ในการสนับสนุนเศรษฐกิจ โดยการใช้จ่ายนี้มีส่วนทำให้ GDP ไตรมาสสองแข็งแกร่งเกินคาด อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์คาดว่าการเพิ่มขึ้นนี้อาจเกิดขึ้นเพียงชั่วคราว เนื่องจากอุปสงค์ที่ชะลอตัวในจีน ซึ่งส่งผลกระทบต่อผู้ส่งออกในญี่ปุ่น
นอกจากนี้ แม้ว่ามาตรการเงินอุดหนุนจากรัฐบาลจะช่วยควบคุมราคาไฟฟ้าและอัตราเงินเฟ้อลงได้บ้าง แต่แรงกดดันด้านราคาคาดว่าจะเพิ่มขึ้นเนื่องจากผลกระทบของมาตรการช่วยเหลือที่เริ่มส่งผลต่อระบบเศรษฐกิจ ในขณะที่การอ่อนค่าของเงินเยนเมื่อเทียบกับดอลลาร์ทำให้ต้นทุนการนำเข้าเพิ่มขึ้น และสร้างแรงกดดันด้านเงินเฟ้อทวีความรุนแรงขึ้น รวมถึงแรงกดดันให้ BOJ เลิกใช้นโยบายผ่อนคลายแบบพิเศษ แม้ว่าจะมีการขยายนโยบายควบคุมเส้นอัตราผลตอบแทนในเดือนกรกฎาคมบ้างแล้วก็ตาม
อย่างไรก็ดี ผู้ว่าการ BOJ ยังคงเน้นย้ำถึงการคงนโยบายผ่อนคลายจนกว่าอุปสงค์ในประเทศและการเติบโตของค่าจ้างจะผลักดันอัตราเงินเฟ้อได้ แม้ว่าจะมีสัญญาณของการเร่งตัวของอัตราเงินเฟ้อจากภาคบริการก็ตาม ในขณะที่ต้นทุนอาหารซึ่งได้แรงกดดันจากราคาวัตถุดิบที่สูงมีส่วนสำคัญต่ออัตราเงินเฟ้อโดยรวม
ทางด้านการส่งออกของญี่ปุ่นลดลงเป็นครั้งแรกในรอบเกือบ 2.5 ปี ซึ่งสะท้อนถึงความต้องการน้ำมันและอุปกรณ์การผลิตชิปที่ลดลง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในจีน สร้างความกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจถดถอยทั่วโลก แม้จะพบการใช้จ่ายและการลงทุนของบริษัทต่างๆ เพิ่มขึ้นในเดือนมิถุนายน ในขณะที่ยอดคำสั่งซื้อสินค้าคงทนคาดว่าจะลดลงเนื่องจากอุปสงค์นอกชายฝั่งที่อ่อนแอ
ในขณะเดียวกัน บริษัทญี่ปุ่นประมาณ 40% คาดว่าการปรับนโยบายล่าสุดของ BOJ จะส่งผลกระทบต่อการระดมทุน โดยเน้นย้ำถึงความเปราะบางต่อการเปลี่ยนแปลงหลังจากมีการใช้นโยบายแบบผ่อนคลายมาหลายปี โดยอาจสร้างความกังวลเกี่ยวกับต้นทุนการกู้ยืมที่สูงขึ้น จากการเปลี่ยนจากอัตราดอกเบี้ยที่ต่ำมายาวนานหลายทศวรรษ
ทั้งนี้ การอ่อนค่าของเงินเยนในขณะเดียวกันแม้จะช่วยการส่งออก แต่ก็ได้ทำให้เกิดความกังวลเกี่ยวกับการแทรกแซงของทางการญี่ปุ่น หลังจากที่มีการเข้าแทรกแซงอย่างหนักในปีที่ผ่านมา
ทางด้านดอลลาร์ปิดตลาดทรงตัวในวันศุกร์ที่ผ่านมา ส่งสัญญาณแนวโน้มขาขึ้นติดต่อกันเป็นสัปดาห์ที่ห้า ยาวนานที่สุดในรอบ 15 เดือน โดยการเพิ่มขึ้นนี้ได้รับแรงหนุนจากความนิยมในสินทรัพย์ที่ปลอดภัยเนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับเศรษฐกิจของจีนและการคาดการณ์ว่าอัตราดอกเบี้ยของสหรัฐฯ จะอยู่ในระดับสูงอย่างต่อเนื่อง
ความสนใจของตลาดจึงมุ่งเน้นไปที่คำแถลงของประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ เจอโรม เพาเวลล์ โดยนักวิเคราะห์ให้ความสนใจเป็นพิเศษถึงความจำเป็นในการใช้นโยบายเข้มงวดเพิ่มเติมเพื่อจัดการกับอัตราเงินเฟ้อ หรือความเพียงพอที่จะคงระดับอัตราดอกเบี้ยในปัจจุบัน รวมถึงการคาดการณ์ถึงสัญญาณเกี่ยวกับความเป็นไปได้ในการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในปี 2024 ในขณะที่จากเครื่องมือตรวจสอบอัตราดอกเบี้ยของเฟดจาก Investing.com ระบุว่ามีความเป็นไปได้ 89% ที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ จะคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับปัจจุบันในระหว่างการประชุมเดือนกันยายนที่จะถึงนี้ จึงคาดว่าจะส่งผลให้เงินเยนถูกกดันอย่างต่อเนื่องได้ในช่วงนี้หากยังไม่มีการเข้าแทรกแซงค่าเงินจากทางการญี่ปุ่น
ข้อมูลประกอบการวิเคราะห์ทางเทคนิค (1H) CFD USD/JPY
แนวต้านสำคัญ : 145.57, 145.67, 145.82
แนวรับสำคัญ : 145.27, 145.17, 145.02
1H Outlook
ที่มา: Investing.com
Buy/Long 1 หากมีการแตะแนวรับที่ช่วงราคา 145.17 – 145.27 แต่ไม่สามารถเบรกแนวรับที่ 145.27 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 145.69 และ SL ที่ประมาณ 145.12 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้
Buy/Long 2 หากสามารถเบรกแนวต้านที่ช่วงราคา 145.57 – 145.67 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 145.82 และ SL ที่ประมาณ 145.22 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้
Sell/Short 1 หากมีการแตะแนวต้านที่ช่วงราคา 145.57 – 145.67 แต่ไม่สามารถเบรกแนวต้านที่ 145.57 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 145.28 และ SL ที่ประมาณ 145.72 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้
Sell/Short 2 หากสามารถเบรกแนวรับที่ช่วงราคา 145.17 – 145.27 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 145.02 และ SL ที่ประมาณ 145.62 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้
Pivot Points Aug 21, 2023 09:26AM GMT+7
Name | S3 | S2 | S1 | Pivot Points | R1 | R2 | R3 |
---|---|---|---|---|---|---|---|
Classic | 144.88 | 145.02 | 145.28 | 145.42 | 145.69 | 145.82 | 146.09 |
Fibonacci | 145.02 | 145.17 | 145.27 | 145.42 | 145.57 | 145.67 | 145.82 |
Camarilla | 145.43 | 145.47 | 145.51 | 145.42 | 145.58 | 145.62 | 145.66 |
Woodie's | 144.94 | 145.05 | 145.34 | 145.45 | 145.75 | 145.85 | 146.15 |
DeMark's | - | - | 145.35 | 145.46 | 145.76 | - | - |
Sources: Investing 1, Investing 2