ตลาดหุ้นยุโรปถูกจำกัด นักลงทุนจับตาดูคำแถลง ECB และเฟด
ตลาดหุ้นยุโรปปิดตลาดขยับขึ้นเล็กน้อยเมื่อวันจันทร์ โดยได้แรงหนุนจากราคาผู้ผลิตในเยอรมนีที่ลดลงอย่างมาก แม้ว่าจีนจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงเพียงเล็กน้อยก็ตาม หุ้นยุโรปสามารถทำลายสถิติติดลบติดต่อกันสี่วันได้ นำโดยกลุ่มธุรกิจพลังงานและเหมืองแร่จากราคาสินค้าโภคภัณฑ์ทั่วโลกที่พุ่งสูงขึ้น
อย่างไรก็ตาม การเพิ่มขึ้นของมูลค่าหุ้นยุโรปยังคงถูกจำกัดด้วยอัตราผลตอบแทนพันธบัตรที่เพิ่มขึ้นในเขตยูโร พร้อมกับอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ อายุ 10 ปี ที่แตะระดับสูงสุดในรอบ 15 ปี นำไปสู่การคาดการณ์ว่าอัตราดอกเบี้ยจะยังคงสูงขึ้นเป็นระยะเวลานานกว่าที่คาดไว้ในตอนแรก ขณะเดียวกัน จีน ซึ่งเป็นผู้อุปโภคโลหะและน้ำมันรายใหญ่ ดำเนินการปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 10 จุด น้อยกว่าที่คาดไว้ในการกระตุ้นความต้องการเงินลงทุน และขณะเดียวกันก็สร้างความประหลาดใจให้กับตลาดด้วยการรักษาอัตราดอกเบี้ย 5 ปีไว้เท่าเดิม
ทั้งนี้ ในภาคส่วนธุรกิจต่างๆ พลังงานและเหมืองแร่เพิ่มขึ้น 0.6% และ 0.4% ตามลำดับ สะท้อนถึงเส้นทางขาขึ้นของราคาน้ำมันดิบและโลหะ ทางด้านดัชนีกลุ่มสุขภาพในยุโรปเพิ่มขึ้น 0.3% โดยได้แรงหนุนจากการเพิ่มขึ้น 0.8% ของ Novo Nordisk หลังจากที่ Morgan Stanley ปรับเพิ่มการคาดการณ์มูลค่าบริษัท ในขณะที่แบรนด์หรูรายใหญ่ LVMH และ Kering ดีดตัวขึ้น 0.9% และ 1.2% ตามลำดับ สิ้นสุดการติดลบติดต่อกัน 6 วัน จากความกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มอุปสงค์ของจีน ในขณะเดียวกัน Continental ซัพพลายเออร์ด้านยานยนต์ของเยอรมนี พุ่งขึ้น 5.9% ส่งผลให้หุ้นขึ้นสู่อันดับต้นๆ ของดัชนี STOXX 600 หลังจากที่มีรายงานถึงความเป็นไปได้ในการปรับโครงสร้างองค์กรจากการขายสินทรัพย์ ส่งผลให้ดัชนีรถยนต์เพิ่มขึ้น 1.1%
อย่างไรก็ตาม หุ้นอสังหาริมทรัพย์ในยุโรปมีการลดลงอย่างมีนัยสำคัญถึง 2% ซึ่งถือเป็นการลดลงที่สูงที่สุดในบรรดาดัชนีภาคส่วนต่างๆ ในขณะที่ดัชนี DAX ของเยอรมนีเพิ่มขึ้น 0.2% แม้ว่าข้อมูลอย่างเป็นทางการจะบ่งชี้ว่าราคาผู้ผลิตของเยอรมนีลดลงเกินคาดในเดือนกรกฎาคม โดยรายงานเศรษฐกิจรายเดือนของ Bundesbank ชี้ให้เห็นว่า แม้ว่าอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานอาจถึงจุดสูงสุดไปแล้ว แต่แรงกดดันด้านราคากลับค่อยๆ ลดลงอย่างช้าๆ ส่งผลให้มีความเสี่ยงที่อัตราเงินเฟ้อจะยังคงอยู่สูงกว่า 2% อย่างต่อเนื่อง
ทั้งนี้ ล่าสุด เยอรมนีเผชิญกับราคาผู้ผลิตที่ลดลงอย่างไม่คาดคิด ซึ่งถือเป็นการลดลงรายปีครั้งแรกในรอบสองปีครึ่ง บ่งชี้ถึงแรงกดดันเงินเฟ้อที่ลดลง ในขณะเดียวกัน ภาคอสังหาริมทรัพย์ของประเทศยังคงเผชิญกับความท้าทาย อย่างเช่น จำนวนใบอนุญาตการก่อสร้างอพาร์ทเมนท์ที่ลดลงอย่างมาก เนื่องจากต้นทุนการก่อสร้างที่สูงและปัญหาต้นทุนการกู้ยืมในช่วงครึ่งแรกของปี
ด้วยเหตุนี้ แม้ราคาผู้ผลิตจะปรับตัวลดลง แต่ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ที่ซบเซาจึงอาจเป็นอุปสรรคสำคัญต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจในวงกว้างของยูโรโซน และอาจนำไปสู่ภาวะถดถอย ในขณะที่รัฐมนตรีกระทรวงเศรษฐกิจของเยอรมนี โรเบิร์ต ฮาเบค เสนอให้มีกฎระเบียบที่เข้มงวดเกี่ยวกับการลงทุนจากต่างประเทศเพื่อหนุนความมั่นคงทางเศรษฐกิจ โดยพยายามลดการพึ่งพาจีน ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับการพึ่งพาเชิงกลยุทธ์และการหยุดชะงักของห่วงโซ่อุปทานในภูมิภาคอินโดแปซิฟิก
อย่างไรก็ตาม ฟิลิป เลน หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของธนาคารกลางยุโรป ยืนยันว่าเศรษฐกิจยูโรโซนจะยังคงเติบโตในปีต่อๆ ไป และไม่น่าจะเกิดภาวะถดถอยที่รุนแรง แม้ว่าเศรษฐกิจของประเทศในกลุ่มจะเผชิญกับภาวะซบเซาที่ผ่านมา โดยเลนแย้งว่าการเติบโตจะได้รับแรงหนุนหลังจากเศรษฐกิจกลับเข้าสู่แนวโน้มก่อนการแพร่ระบาด และตั้งข้อสังเกตว่าราคาพลังงานที่ลดลงอันเป็นผลมาจากความขัดแย้งของรัสเซียในยูเครน จะนำไปสู่รายได้ที่เพิ่มขึ้นสำหรับครัวเรือนในท้ายที่สุด
ทั้งนี้ ตลาดยังคงคาดการณ์ถึงทิศทางต่อไปของธนาคารกลางยุโรป โดยคำปราศรัยที่กำลังจะมีขึ้นจากประธาน ECB คริสติน ลาการ์ด ที่การประชุม Jackson Hole Symposium คาดว่าจะให้ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับความเคลื่อนไหวในอนาคตของธนาคารได้ และในทำนองเดียวกัน นักลงทุนต่างรอคอยคำกล่าวของประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ เจอโรม พาวเวลล์ ซึ่งจะให้ความกระจ่างเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจและการเปลี่ยนแปลงอัตราดอกเบี้ยที่อาจเกิดขึ้น
ข้อมูลประกอบการวิเคราะห์ทางเทคนิค (1H) CFD EU50 (Euro Stoxx 50 Futures - Sep 23)
แนวต้านสำคัญ : 4257, 4259, 4263
แนวรับสำคัญ : 4249, 4247, 4243
1H Outlook ที่มา: Investing.com
Buy/Long 1 หากมีการแตะแนวรับที่ช่วงราคา 4246 – 4249 แต่ไม่สามารถเบรกแนวรับที่ 4249 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 4258 และ SL ที่ประมาณ 4243 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้
Buy/Long 2 หากสามารถเบรกแนวต้านที่ช่วงราคา 4257 – 4260 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 4268 และ SL ที่ประมาณ 4246 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้
Sell/Short 1 หากมีการแตะแนวต้านที่ช่วงราคา 4257 – 4260 แต่ไม่สามารถเบรกแนวต้านที่ 4257 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 4248 และ SL ที่ประมาณ 4263 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้
Sell/Short 2 หากสามารถเบรกแนวรับที่ช่วงราคา 4246 – 4249 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 4238 และ SL ที่ประมาณ 4260 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้
Pivot Points Aug 22, 2023 09:43AM GMT+7
Name | S3 | S2 | S1 | Pivot Points | R1 | R2 | R3 |
---|---|---|---|---|---|---|---|
Classic | 4238 | 4243 | 4248 | 4253 | 4258 | 4263 | 4268 |
Fibonacci | 4243 | 4247 | 4249 | 4253 | 4257 | 4259 | 4263 |
Camarilla | 4251 | 4252 | 4253 | 4253 | 4255 | 4256 | 4257 |
Woodie's | 4240 | 4244 | 4250 | 4254 | 4260 | 4264 | 4270 |
DeMark's | - | - | 4251 | 4254 | 4261 | - | - |
Sources: Investing 1, Investing 2