ตลาดข้าวโพดคาดยังคงถูกกดดัน หลังปัญหาต่างๆ เริ่มคลี่คลาย
แนวโน้มตลาดข้าวโพดล่าสุดได้รับอิทธิพลจากการเข้าซื้อราคาต่ำและการซื้อทางเทคนิค ส่งผลให้ราคาข้าวโพดดีดตัวขึ้น โดยคาดว่ามีสาเหตุจากปัจจัยหลายประการ รวมถึงสภาพอากาศที่เอื้ออำนวยและความสามารถในการแข่งขันการส่งออกของข้าวโพดสหรัฐฯ ท่ามกลางคู่แข่งจากประเทศต่างๆ เช่น บราซิลและยูเครน ซึ่งอัตรากำไรจากการผลิตเอทานอลได้มีส่วนช่วยชดเชยความซบเซาของตลาด โดยพบว่ามีการผลิตเอทานอลลดลงจากสัปดาห์ก่อน แต่มีการเพิ่มขึ้นอย่างมากเมื่อเทียบกับปีที่แล้ว ในขณะที่สต็อกเอธานอลที่ลดลงช่วยหนุนตลาด
เมื่อพิจารณาแนวโน้มข้าวโพดของสหรัฐฯ ในปี 2023/24 มีการคาดการณ์ปริมาณอุปทานที่ลดลง การใช้ในประเทศที่ลดลง การส่งออกที่ลดลง และสต็อกสินค้าคงเหลือที่ลดน้อยลง โดยแนวโน้มนี้ขึ้นอยู่กับปัจจัยต่างๆ รวมถึงการปรับเปลี่ยนการใช้ข้าวโพดเพื่อการส่งออก การใช้เป็นกลูโคส เดกซ์โทรส และแป้ง ในขณะที่รายงานชี้ให้เห็นถึงการใช้ข้าวโพดเพื่อเป็นอาหารสัตว์และกากอาหารลดลงเนื่องจากมีการเพาะปลูกที่น้อยลง
สำหรับแนวโน้มข้าวโพดในต่างประเทศในช่วงเวลาเดียวกัน คาดว่าจะมีผลผลิตลดลง การค้าลดลง และสต็อกคงเหลือที่ลดน้อยลงเมื่อเทียบกับเดือนก่อน โดยผลผลิตข้าวโพดลดลงในสหภาพยุโรป จีน และรัสเซีย แต่เพิ่มขึ้นในยูเครนและแคนาดา ในขณะที่ปัจจัยต่างๆ เช่น พื้นที่เพาะปลูกที่ชุ่มน้ำมากเกินไป ส่งผลต่อผลผลิตข้าวโพดในภูมิภาคต่างๆ
ทั้งนี้ แม้รายงานผลผลิตธัญพืชเดือนสิงหาคมโดยกระทรวงเกษตรของสหรัฐอเมริกา (USDA) จะระบุว่าการคาดการณ์ผลผลิตข้าวโพดลดลงเมื่อเทียบกับเดือนกรกฎาคม แต่อารมณ์ของตลาดกลับไม่ค่อยได้รับผลกระทบมากนัก โดยนักวิเคราะห์ตั้งข้อสังเกตว่าผลผลิตฤดูใบไม้ผลิที่น่ากังวลก่อนหน้านี้ ได้ส่งผลดีต่อการเพาะปลูกฤดูใบไม้ร่วง เนื่องจากสภาพอากาศที่ดีขึ้นและผลกระทบจากความขัดแย้งในยูเครนที่ลดลง
อย่างไรก็ดี แนวโน้มจากการสำรวจเบื้องต้นของ USDA คาดการณ์ว่าการผลิตข้าวโพดของสหรัฐฯ ในปี 2023 จะเพิ่มขึ้น 10% เมื่อเทียบกับปี 2022 ซึ่งจะสูงเป็นอันดับสองเป็นประวัติการณ์ แม้ว่าจะยังคงต่ำกว่าการคาดการณ์ในแง่การส่งออกเล็กน้อย โดยแม้ว่าเม็กซิโกจะวางแผนห้ามการนำเข้าข้าวโพดดัดแปลงพันธุกรรมภายในปี 2024 แต่ประเทศยังคงซื้อข้าวโพดสหรัฐฯจำนวนมากอย่างต่อเนื่อง ในขณะที่ความต้องการข้าวโพดในประเทศที่ชะลอตัวในสหรัฐฯ จากปริมาณปศุสัตว์ที่ลดลงและสต็อกข้าวโพดที่ยังคงมีเพียงพอ คาดว่าจะยังกดดันราคา
ทางด้านการส่งออกข้าวโพดของบราซิลกำลังเป็นที่จับตามองเนื่องจากการขาดดุลการส่งออกที่ลดลง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง บราซิลได้เพิ่มการส่งออกข้าวโพดอย่างมีนัยสำคัญในช่วงสัปดาห์แรกของเดือนสิงหาคม ซึ่งบ่งบอกถึงการเติบโตในตลาดข้าวโพด อย่างไรก็ตาม ผลผลิตข้าวโพดจำนวนมากของบราซิลก็ได้ส่งผลกระทบต่อการส่งออกของสหรัฐฯ โดยคาดว่าผลผลิตข้าวโพดในปี 2022-23 จะเพิ่มขึ้น 16% แม้ว่าระดับการส่งออกในครั้งต่อๆ ไปอาจจะเทียบเคียงปริมาณการส่งออกก่อนหน้านี้ไม่ได้ แต่ยังคงพบสัญญาณที่บ่งชี้ถึงโอกาสในการส่งออกที่ดีขึ้น
ในขณะเดียวกัน การตัดสินใจของอินเดียในการห้ามการส่งออกน้ำตาลเนื่องจากพืชไร่อ้อยที่ให้ผลผลิตต่ำจากฝนตกไม่เพียงพอ ได้รวมไปถึงข้าวโพด ที่ได้รับผลกระทบจากสภาพอากาศที่รุนแรง ซึ่งมีส่วนสร้างภูมิทัศน์ทางการเกษตรที่ท้าทายในอินเดีย
ทางด้านการค้าทั่วโลกยังเผชิญความผันผวน โดยประเทศต่างๆ เช่น เกาหลีใต้ ได้ซื้อข้าวโพดอาหารสัตว์จำนวนมากจากตลาดต่างประเทศ ส่วนหนึ่งได้รับแรงหนุนจากรายงานการตรวจสอบพืชผลเชิงบวกจากสหรัฐอเมริกา ซึ่งช่วยเพิ่มความเชื่อมั่นในสภาพผลผลิตข้าวโพด
อย่างไรก็ดี สถานการณ์ทางภูมิรัฐศาสตร์ในภูมิภาคทะเลดำ โดยเฉพาะอย่างยิ่งความตึงเครียดอย่างต่อเนื่องระหว่างยูเครนและรัสเซีย ยังคงส่งผลกระทบต่อเส้นทางเดินเรือและอาจส่งผลกระทบต่อการส่งออกข้าวโพด โดยนักลงทุนได้เฝ้าติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดเพื่อดูผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นกับการค้าข้าวโพด
ทางด้านสัญญาซื้อขายข้าวโพดล่วงหน้าล่าสุดเพิ่มขึ้นเล็กน้อยหลังจากร่วงลงก่อนหน้านี้ โดยมีปัจจัยต่างๆ เช่น ความเสียหายของพืชผลเนื่องจากความร้อนและความแล้งที่มีอิทธิพลต่อความเชื่อมั่นของตลาด ในขณะที่การเพิ่มขึ้นของดัชนีเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ได้สร้างแรงกดดันต่อสินค้าโภคภัณฑ์ ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่ออุปสงค์ในการส่งออก
ทั้งนี้ ราคาข้าวโพดล่วงหน้าโดยรวมที่อยู่ในกรอบขาลงนั้น ได้รับอิทธิพลจากผลผลิตข้าวโพดของสหรัฐฯ ที่ดีกว่าคาด การแข่งขันที่ดุเดือดจากปริมาณการเก็บเกี่ยวข้าวโพดที่สูงของบราซิล และความกังวลทางเศรษฐกิจทั่วโลก จึงได้ส่งผลให้ราคาข้าวโพดตกต่ำที่สุดนับตั้งแต่เดือนธันวาคม 2020 ในขณะที่ราคาข้าวโพดล่วงหน้าของเดือนธันวาคม ลดลง 24% ในเวลาเพียงหนึ่งเดือนกว่าๆ มาตั้งแต่วันที่ 21 มิถุนายนถึง 15 สิงหาคม และคาดว่าจะลดลงได้อีกหลังปีการเกษตรปัจจุบันสิ้นสุดลง
ข้อมูลประกอบการวิเคราะห์ทางเทคนิค (5H) CFD US Corn Futures - Dec 23 (ZCZ3)
แนวต้านสำคัญ : 494.08, 495.09, 496.71
แนวรับสำคัญ : 490.84, 489.83, 488.21
5H Outlook
ที่มา: Investing.com
Buy/Long 1 หากมีการแตะแนวรับที่ช่วงราคา 489.34 - 490.84 แต่ไม่สามารถเบรกแนวรับที่ 490.84 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 494.67 และ SL ที่ประมาณ 488.85 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้
Buy/Long 2 หากสามารถเบรกแนวต้านที่ช่วงราคา 494.08 - 496.58 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 498.00 และ SL ที่ประมาณ 490.34 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้
Sell/Short 1 หากมีการแตะแนวต้านที่ช่วงราคา 494.08 - 496.58 แต่ไม่สามารถเบรกแนวต้านที่ 494.08 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 490.42 และ SL ที่ประมาณ 497.08 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้
Sell/Short 2 หากสามารถเบรกแนวรับที่ช่วงราคา 489.34 - 490.84 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 487.00 และ SL ที่ประมาณ 494.58 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้
Pivot Points Aug 24, 2023 10:01AM GMT+7
Name | S3 | S2 | S1 | Pivot Points | R1 | R2 | R3 |
---|---|---|---|---|---|---|---|
Classic | 486.17 | 488.21 | 490.42 | 492.46 | 494.67 | 496.71 | 498.92 |
Fibonacci | 488.21 | 489.83 | 490.84 | 492.46 | 494.08 | 495.09 | 496.71 |
Camarilla | 491.45 | 491.84 | 492.23 | 492.46 | 493.01 | 493.40 | 493.79 |
Woodie's | 486.25 | 488.25 | 490.50 | 492.50 | 494.75 | 496.75 | 499.00 |
DeMark's | - | - | 491.43 | 492.97 | 495.68 | - | - |
Sources: Brownfield Ag News, Hellenic Shipping News