จีนเริ่มมีสัญญาณทางเศรษฐกิจที่ดีมากขึ้น
เงินหยวนกลับมาอ่อนค่าอีกครั้ง โดยที่ก่อนหน้านี่มีการแข็งค่าขึ้นเล็กน้อยหลังจากที่ธนาคารกลางจีน (PBoC) กล่าวว่าจะมีการปรับลดปริมาณการแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศที่ธนาคารต่างๆ จำเป็นต้องถือเป็นทุนสำรองเพื่อรองรับสกุลเงินของตน โดยทางธนาคารประชาชนจีนได้ปรับลดอัตราส่วนสำรองเงินตราต่างประเทศลงถึง 200 จุดเหลือเพียง 4% เท่านั้น โดยจะมีการเริ่มใช้การปรับลดครั้งนี้ตั้งแต่วันที่ 15 กันยายนเป็นต้นไป
การตัดสินใจของธนาคารกลางจีนว่าจะลดอัตราส่วนสำรองเงินตราต่างประเทศ (RRR) จะช่วยเพิ่มการแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศที่มีมูลค่า 16.4 พันล้านดอลลาร์ให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น โดยเงินฝากสกุลเงินต่างประเทศของจีนอยู่ที่ 821.8 พันล้านดอลลาร์ ณ สิ้นเดือนกรกฎาคม โดยเป้าหมายเพื่อหยุดยั้งการอ่อนค่าของเงินหยวน และช่วยให้เศรษฐกิจมีการฟื้นตัวเพิ่มมากขึ้นหลังจากเกิดการถดถอยของเศรษฐกิจภายในประเทศ
นอกจากนี้ ได้มีการสำรวจกิจกรรมที่เกิดขึ้นของภาคเอกชน ซึ่งได้แสดงให้เห็นว่ากิจกรรมการผลิตของจีนขยายตัวเพิ่มขึ้นอย่างมากในเดือนสิงหาคม โดยกิจกรรมการผลิตที่เพิ่มขึ้นนี้ยังช่วยหนุนค่าเงินหยวนให้มีการแข็งค่าขึ้นอีกด้วย อย่างไรก็ตาม แนวโน้มที่เกิดขึ้นของเงินหยวนในอนาคตก็สามารถอ่อนค่าลงได้อีก ท่ามกลางความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจในจีน และการปรับลดอัตราดอกเบี้ยหลายครั้งจากธนาคารกลางของประเทศ
PMI ภาคการผลิตของจีนมีการเพิ่มขึ้นเป็น 51.0 ในเดือนสิงหาคม จาก 49.2 ในเดือนก่อนหน้า ซึ่งสูงกว่าการคาดการณ์ของตลาดที่ 49.3 นี่เป็นการเติบโตที่แข็งแกร่งและรวดเร็วที่สุดนับตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ โดยที่ผลผลิตและคำสั่งซื้อใหม่กลับมาเพิ่มขึ้นอีกครั้ง ซึ่งสอดคล้องกับการจ้างงานก็มีการเพิ่มขึ้นเช่นเดียวกันและถือว่าเป็นการเพิ่มขึ้นครั้งแรกในรอบ 6 เดือน โดยที่ปริมาณการซื้อสินค้าก็มีการเพิ่มขึ้นเช่นกันแต่ยังอยู่ในระดับที่ไม่มากนัก แต่ด้านยอดขายจากต่างประเทศยังคงถือว่าอ่อนแออยู่ แม้ว่าต้นทุนวัตถุดิบจะเพิ่มขึ้นแต่บริษัทต่างๆ ยังคงลดราคาขายอย่างต่อเนื่องท่ามกลางการแข่งขันที่รุนแรง ทำให้ความเชื่อมั่นก็ลดลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 11 เดือนแต่สัญญาณยังคงเป็นบวก
PMI ภาคการบริการจะมีการประกาศในวันพรุ่งนี้ และมีการคาดการณ์ว่าการขยายตัวในภาคบริการจะชะลอตัวลงเล็กน้อยในเดือนสิงหาคม และข้อมูลการค้าในวันพฤหัสบดีที่จะถึงนี้ คาดว่าการส่งออกและการนำเข้าจะมีการหดตัวอีกครั้งในเดือนสิงหาคมจากปีก่อนหน้า ซึ่งถือว่าเป็นสัญญาณที่ไม่ดีต่อค่าเงินหยวนและจะเพิ่มความกังวลของนักลงทุนให้สูงขึ้นอีก
ข้อมูลประกอบการวิเคราะห์ทางเทคนิค (5H)
แนวต้านสำคัญ: 7.2733, 7.2822, 7.2902
แนวรับสำคัญ: 7.2565, 7.2486, 7.2396
ที่มา: Investing.com
จุดกลับตัว 4 กันยายน 2566 15:55 น. GMT+7
ชื่อ | S3 | S2 | S1 | จุดกลับตัว | R1 | R2 | R3 |
Classic | 7.2396 | 7.2486 | 7.2565 | 7.2654 | 7.2733 | 7.2822 | 7.2902 |
Fibonacci | 7.2486 | 7.2550 | 7.2590 | 7.2654 | 7.2718 | 7.2758 | 7.2822 |
Camarilla | 7.2598 | 7.2613 | 7.2629 | 7.2654 | 7.2659 | 7.2675 | 7.2690 |
Woodie's | 7.2390 | 7.2483 | 7.2559 | 7.2651 | 7.2727 | 7.2819 | 7.2896 |
DeMark's | - | - | 7.2609 | 7.2676 | 7.2778 | - | - |
Buy/Long 2: หากสามารถเบรกแนวต้านที่ช่วงราคา 7.2733 - 7.2822 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 7.2902และ SL ที่ประมาณ 7.2486 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้
Sell/Short 1: หากมีการแตะแนวต้านที่ช่วงราคา 7.2733 - 7.2822 แต่ไม่สามารถเบรกแนวต้านที่ 7.2733 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 7.2486 และ SL ที่ประมาณ 7.2902 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้
Sell/Short 2: หากสามารถเบรกแนวรับที่ช่วงราคา 7.2486 - 7.2565 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 7.2396 และ SL ที่ประมาณ 7.2822 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้
ตัวชี้วัดทางเทคนิค 4 กันยายน 2566 15:55 น. GMT+7
ชื่อ | มูลค่า | Action |
RSI(14) | 48.580 | ถือหุ้นไว้ |
STOCH(9,6) | 37.824 | ขาย |
STOCHRSI(14) | 56.149 | ซื้อ |
MACD(12,26) | -0.003 | ขาย |
ADX(14) | 17.959 | ถือหุ้นไว้ |
Williams %R | -44.343 | ซื้อ |
CCI(14) | -35.9575 | ถือหุ้นไว้ |
ATR(14) | 0.0104 | ผันผวนสูง |
Highs/Lows(14) | 0.0000 | ถือหุ้นไว้ |
Ultimate Oscillator | 51.650 | ซื้อ |
ROC | -0.117 | ขาย |
Bull/Bear Power(13) | -0.0089 | ขาย |
ซื้อ:3 ขาย:4 ถือหุ้นไว้:4 สรุป:ขาย |