ราคาถั่วเหลืองปรับตัวขึ้นท่ามกลางความกังวลด้านคุณภาพและการเปลี่ยนแปลงของอุปทาน
ราคาถั่วเหลืองเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด เนื่องจากความกังวลอย่างต่อเนื่องเกี่ยวกับขนาดและคุณภาพของผลผลิตถั่วเหลืองสหรัฐฯ ในปีนี้ รายงานความคืบหน้าและสภาพของพืชผลล่าสุดที่เผยแพร่เมื่อวันจันทร์เผยให้เห็นการลดลงของผลผลิตถั่วเหลืองเกรดดีถึงดีเยี่ยมเหลือเพียง 53% ซึ่งถือเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ปี 2012 ส่งผลให้นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าผลผลิตถั่วเหลืองขั้นสุดท้ายอาจลดลงต่ำกว่า 50 บุชเชลต่อเอเคอร์ สร้างความกังวลเกี่ยวกับปริมาณสต็อกคงเหลือที่อาจลดลง
ทั้งนี้ ในช่วงครึ่งหลังของเดือนสิงหาคม แถบเพาะปลูกคอร์นเบลท์ของสหรัฐฯ พบสภาวะแห้งแล้งผิดปกติ ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อผลผลิตถั่วเหลืองเนื่องจากการพึ่งพาความชื้นในช่วงปลายฤดู จึงส่งผลให้นักลงทุนวางเพิ่มคำสั่งซื้อ (Long position) ในตลาดซื้อขายถั่วเหลืองล่วงหน้าของชิคาโก
ด้วยเหตุนี้ ราคาถั่วเหลืองล่วงหน้าชิคาโก (CBOT) จึงได้พุ่งขึ้นในช่วงสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 29 สิงหาคม แตะระดับสูงสุดในรอบ 1 เดือน ซึ่งความแข็งแกร่งของถั่วเหลืองนี้เห็นได้ชัดจากการจัดวางตำแหน่งของกองทุน โดยผู้จัดการเงินหลายรายได้เพิ่มสถานะคำสั่งซื้อสัญญาถั่วเหลืองเกือบ 33,000 สัญญา ส่งผลให้สัญญาซื้อขายล่วงหน้าและออปชั่นแตะ 90,985 สัญญาเมื่อวันที่ 29 สิงหาคม และถือเป็นสัปดาห์การซื้อที่สำคัญที่สุดนับตั้งแต่กลางเดือนมิถุนายน
นอกจากนี้ สถานะคำสั่งซื้อน้ำมันถั่วเหลือง CBOT ยังเพิ่มขึ้นสู่ระดับสูงสุดในรอบแปดเดือนมาอยู่ที่ปริมาณรวมสัญญาซื้อขายล่วงหน้าและสัญญาออปชั่นที่ 58,317 เมื่อวันที่ 29 สิงหาคม โดยเพิ่มขึ้นจาก 55,077 ในสัปดาห์ก่อน ซึ่งสัญญาซื้อขายน้ำมันถั่วเหลืองล่วงหน้าที่มีการเคลื่อนไหวมากที่สุดยังคงรักษาราคาไว้เหนือ 60 เซนต์ต่อปอนด์ตั้งแต่กลางเดือนสิงหาคม ถือเป็นการทรงตัวของราคาที่ต่อเนื่องยาวนานที่สุดนับตั้งแต่เดือนมกราคม
อย่างไรก็ดี USDA ได้รายงานยอดขายถั่วเหลืองของสหรัฐฯ ต่อเนื่องติดต่อกันเป็นเวลา 6 วัน ท่ามกลางความกังวลอันเนื่องมาจากบราซิลที่อนุญาตให้มีการเริ่มปลูกถั่วเหลืองต้นฤดูในเมือง Mato Grosso ซึ่งเป็นรัฐเพาะปลูกรายใหญ่ที่สุดของประเทศ จากกำหนดการเดิมในวันที่ 15 กันยายน นอกจากนี้ รายงานรายไตรมาสของ USDA ยังคาดการณ์ว่าการส่งออกสินค้าเกษตรของสหรัฐฯ จะลดลงในปีงบประมาณ 2024 เมื่อเทียบกับการคาดการณ์ในปีงบประมาณ 2023 ที่ปรับปรุงใหม่ โดยการปรับลดลงนี้มีสาเหตุหลักมาจากการส่งออกถั่วเหลือง และกากถั่วเหลืองที่ลดลง โดยคาดว่าการส่งออกถั่วเหลืองจะได้รับผลกระทบเนื่องจากผลผลิตในสหรัฐฯ ที่ลดลง การแข่งขันที่รุนแรงจากอเมริกาใต้ และความต้องการภายในประเทศที่แข็งแกร่ง
นอกจากนี้ รายงานของรัฐบาลสหรัฐฯ ยังได้ยืนยันถึงสภาพอากาศแห้งแล้งที่อาจส่งผลกระทบต่อพืชผล ในขณะที่ระดับความเสียหายที่อาจเกิดขึ้น อยู่เหนือความคาดหมายของนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ ส่งผลให้ราคาถั่วเหลืองชิคาโกสูงขึ้นหลังจากที่มีการรายงานนี้เมื่อวันพุธ และสร้างความกังวลเกี่ยวกับอุปทาน
ทั้งนี้ นอกเหนือจากสภาพพืชผลแล้ว ข้อมูลของ USDA ระบุว่า มีผู้ส่งออกทำการขายถั่วเหลืองสหรัฐฯ จำนวน 251,000 เมตริกตันไปยังจุดหมายปลายทางที่ไม่สามารถระบุได้ ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความต้องการที่แข็งแกร่ง โดยจากข้อมูลดังกล่าว ประกอบกับเกรดพืชผลที่ลดลง ได้กระตุ้นให้เกิดความคาดหวังว่า USDA อาจลดการคาดการณ์ผลผลิตในรายงานรายเดือนที่มีกำหนดเผยแพร่ในวันที่ 12 กันยายนนี้ หลังจากที่ USDA คาดการณ์ว่าสต็อกถั่วเหลืองในประเทศจะลดลงอย่างมีนัยสำคัญสำหรับปีการเกษตร 2023-24
นอกสหรัฐอเมริกา สำนักงานอุตุนิยมวิทยาของจีนเตือนถึงฝนตกหนักซึ่งอาจยืดเวลาการเพาะปลูกและการเก็บเกี่ยวพันธุ์พืชในมณฑลเฮยหลงเจียง ซึ่งเป็นผู้ผลิตถั่วเหลืองรายใหญ่ที่สุดของประเทศ ในขณะที่อาร์เจนตินาพยายามส่งเสริมการส่งออกถั่วเหลืองโดยอนุญาตให้ใช้สกุลเงินต่างประเทศในการซื้อถั่วเหลืองได้
ด้วยเหตุนี้ ราคาถั่วเหลืองในช่วงนี้จึงอาจมีแนวโน้มซื้อขายในกรอบไปจนถึงปรับตัวสูงขึ้นได้บ้าง เนื่องจากสภาพอากาศที่ยังคงไม่เอื้ออำนวย ความต้องการที่ยังคงมีอยู่ รวมถึงราคาน้ำมันที่เริ่มสูงขึ้นอีกครั้ง โดยอาจพบแรงกดดันจากบราซิล หากผลผลิตในประเทศสูงและสามารถชดเชยอุปทานที่น้อยลงในช่วงนี้ได้
ข้อมูลประกอบการวิเคราะห์ทางเทคนิค (1H) CFD US Soybeans Futures - Nov 23 (ZSX3)
1H Outlook
ที่มา: Investing.com
แนวต้านสำคัญ : 1375.05, 1375.94, 1377.37
แนวรับสำคัญ : 1372.19, 1371.30, 1369.87
Buy/Long 1 หากมีการแตะแนวรับที่ช่วงราคา 1370.19 - 1372.19 แต่ไม่สามารถเบรกแนวรับที่ 1372.19 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 1375.74 และ SL ที่ประมาณ 1369.00 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้
Buy/Long 2 หากสามารถเบรกแนวต้านที่ช่วงราคา 1375.05 - 1377.05 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 1379.00 และ SL ที่ประมาณ 1371.00 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้
Sell/Short 1 หากมีการแตะแนวต้านที่ช่วงราคา 1375.05 - 1377.05 แต่ไม่สามารถเบรกแนวต้านที่ 1375.05 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 1371.99 และ SL ที่ประมาณ 1378.50 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้
Sell/Short 2 หากสามารถเบรกแนวรับที่ช่วงราคา 1370.19 - 1372.19 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 1368.90 และ SL ที่ประมาณ 1376.00 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้
Pivot Points Sep 07, 2023 09:52AM GMT+7
Name | S3 | S2 | S1 | Pivot Points | R1 | R2 | R3 |
---|---|---|---|---|---|---|---|
Classic | 1368.24 | 1369.87 | 1371.99 | 1373.62 | 1375.74 | 1377.37 | 1379.49 |
Fibonacci | 1369.87 | 1371.30 | 1372.19 | 1373.62 | 1375.05 | 1375.94 | 1377.37 |
Camarilla | 1373.09 | 1373.43 | 1373.78 | 1373.62 | 1374.46 | 1374.81 | 1375.15 |
Woodie's | 1368.50 | 1370.00 | 1372.25 | 1373.75 | 1376.00 | 1377.50 | 1379.75 |
DeMark's | - | - | 1372.81 | 1374.03 | 1376.56 | - | - |
Sources: Farm Policy News, Hellenic Shipping News