เศรษฐกิจของแคนาดาแย่กว่าที่คาดจาก GDP ที่หดตัว
ดอลลาร์แคนาดาอ่อนค่าลงเนื่องจากดอลลาร์สหรัฐแข็งค่ามากขึ้นในหลายวันที่ผานมา รวมถึงยังมีปัจจัยด้านอัตราดอกเบี้ยที่ธนาคารกลางแคนาดา (BoC) ตั้งใจคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ 5% เนื่องจากข้อมูลทางเศรษฐกิจที่อ่อนแอลงทำให้ต้องมีการจับตาดูสถานการณ์ต่อไปแต่ยังไม่มีแนวโน้มที่จะปรับลดดอกเบี้ยลงในเร็วๆ นี้
เศรษฐกิจที่อ่อนแอส่งผลต่อการเติบโตของ GDP ในแคนาดาพบว่ามีการหดตัวถึง 0.2% เมื่อเทียบเป็นรายปี (YoY) ในไตรมาสที่ 2 ที่ผ่านมา ซึ่งต่ำกว่าที่คาดการณ์การขยายตัวไว้ที่ 1.2% ถือว่าเป็นตัวตอกย้ำว่าเศรษฐกิจในแคนาดากำลังเข้าสู่ช่วงที่ย่ำแย่อย่างมาก นอกจากนี้ ข้อมูล PMI ระบุว่ากิจกรรมโรงงานในประเทศลดลงอย่างรวดเร็วที่สุดในรอบสามปี อย่างไรก็ตาม แคนาดายังได้รับแรงหนุนจากราคาน้ำมันดิบที่สูงขึ้นทำให้การส่งออกของแคนาดาเพิ่มขึ้นเล็กน้อย
ธนาคารแห่งแคนาดา (BoC) ได้มีการคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ 5% ในการประชุมที่ผ่านมา ซึ่งเป็นไปตามที่ตลาดส่วนใหญ่ได้คาดการณ์ไว้ แต่การหยุดขึ้นอัตราดอกเบี้ยในครั้งนี้เป็นการหยุดชั่วคราวเท่านั้น และ BoC ยังส่งสัญญาณว่าการตัดสินใจเรื่องอัตราดอกเบี้ยจะขึ้นอยู่กับสัญญาณเศรษฐกิจในอนาคต แต่ก็มีการคาดการณ์แล้วว่าจะ BoC จะคงอัตราดอกเบี้ยไว้อย่างแน่นอนเนื่องจากการเติบโตของสินเชื่อภาคครัวเรือนชะลอตัวลงและจะส่งผลกระทบต่อการใช้จ่ายในทุกภาคส่วนอย่างแน่นอน
ได้มีการประกาศดุลการค้าของแคนาดาพบว่ามีการขาดดุลการค้าเพียง 0.99 พันล้านดอลลาร์แคนาดา ในเดือนกรกฎาคม ซึ่งต่ำกว่าการคาดการณ์ของตลาดที่ 3.65 พันล้านดอลลาร์แคนาดา พบว่าการนำเข้าหดตัวถึง 5.4% คิดเป็น 61.4 พันล้านดอลลาร์แคนาดา โดยได้รับผลกระทบจากการซื้อทองคำ เงิน แพลทินัม และโลหะผสมจากต่างประเทศที่ลดลงอย่างมาก ส่วนการส่งออกมีการเพิ่มขึ้น 0.7% คิดเป็น 60.4 พันล้านดอลลาร์แคนาดา โดยการส่งออกที่ทำได้ดีที่สุดคือการส่งออกเครื่องบินและอุปกรณ์การขนส่ง
อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลแคนาดาอายุ 10 ปี เพิ่มขึ้นสูงกว่า 3.68% ซึ่งสอดคล้องกับอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ที่เพิ่มสูงขึ้น สะท้อนถึงความกังวลในตลาดว่าจะเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอย นอกจากนี้อัตราเงินเฟ้อที่ได้ประกาศออกมาล่าสุดได้มีการปรับตัวสูงขึ้นและมีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้นไปอีกจากราคาน้ำมันที่สูงขึ้นด้วยเช่นกัน ทั้งนี้ อัตราเงินเฟ้อล่าสุดยังคงสูงกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ที่ 2% จึงจำเป็นอย่างมากที่ BoC จะต้องชั่งน้ำหนักและรักษาสมดุลระหว่างเงินเฟ้อกับเศรษฐกิจให้ยังพอไปได้
ข้อมูลประกอบการวิเคราะห์ทางเทคนิค (5H)
แนวต้านสำคัญ: 1.3652, 1.3666, 1.3676
แนวรับสำคัญ: 1.3628, 1.3618, 1.3605
ที่มา: Investing.com
จุดกลับตัว 7 กันยายน 2566 14:39 น. GMT+7
ชื่อ | S3 | S2 | S1 | จุดกลับตัว | R1 | R2 | R3 |
Classic | 1.3605 | 1.3618 | 1.3628 | 1.3642 | 1.3652 | 1.3666 | 1.3676 |
Fibonacci | 1.3618 | 1.3627 | 1.3633 | 1.3642 | 1.3651 | 1.3657 | 1.3666 |
Camarilla | 1.3633 | 1.3635 | 1.3637 | 1.3642 | 1.3641 | 1.3643 | 1.3645 |
Woodie's | 1.3603 | 1.3617 | 1.3626 | 1.3641 | 1.3650 | 1.3665 | 1.3674 |
DeMark's | - | - | 1.3623 | 1.3639 | 1.3647 | - | - |
Buy/Long 2: หากสามารถเบรกแนวต้านที่ช่วงราคา 1.3652 - 1.3666 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 1.3676 และ SL ที่ประมาณ 1.3618 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้
Sell/Short 1: หากมีการแตะแนวต้านที่ช่วงราคา 1.3652 - 1.3666 แต่ไม่สามารถเบรกแนวต้านที่ 1.3652 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 1.3618 และ SL ที่ประมาณ 1.3676 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้
Sell/Short 2: หากสามารถเบรกแนวรับที่ช่วงราคา 1.3618 - 1.3628 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 1.3605 และ SL ที่ประมาณ 1.3666 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้
ตัวชี้วัดทางเทคนิค 7 กันยายน 2566 14:39 น. GMT+7
ชื่อ | มูลค่า | Action |
RSI(14) | 60.387 | ซื้อ |
STOCH(9,6) | 59.756 | ซื้อ |
STOCHRSI(14) | 22.294 | ขายมากเกินไป |
MACD(12,26) | 0.002 | ซื้อ |
ADX(14) | 48.902 | ซื้อ |
Williams %R | -33.334 | ซื้อ |
CCI(14) | 62.6940 | ซื้อ |
ATR(14) | 0.0032 | ผันผวนน้อยลง |
Highs/Lows(14) | 0.0000 | ถือหุ้นไว้ |
Ultimate Oscillator | 44.791 | ขาย |
ROC | 0.412 | ซื้อ |
Bull/Bear Power(13) | 0.0027 | ซื้อ |
ซื้อ:8 ขาย:1 ถือหุ้นไว้:1 สรุป:ซื้อทันที |