บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นยุโรป วันที่ 19 กันยายน 2566

บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นยุโรป วันที่ 19 กันยายน 2566
Create at 1 year ago (Sep 19, 2023 10:04)

ตลาดหุ้นยุโรปปรับลดท่ามกลางการประชุมของธนาคารกลางที่กำลังจะมาถึง

เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ในขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ 10 ปี เข้าใกล้ระดับสูงสุดในรอบ 16 ปี ตลาดหุ้นทั่วโลกปรับตัวลดลง โดยได้รับแรงหนุนจากความกังวลที่เพิ่มขึ้นจากธนาคารกลางสหรัฐฯ ที่อาจคงอัตราดอกเบี้ยที่สูงเป็นระยะเวลานาน และอาจส่งผลกระทบต่อผู้บริโภคในสหรัฐฯ ขณะเดียวกัน ตลาดหุ้นยุโรปปรับตัวลดลงเล็กน้อย เนื่องจากนักลงทุนเตรียมพร้อมสำหรับสัปดาห์ท่ามกลางกำหนดการรายงานการประชุมจากธนาคารกลาง

ในเยอรมนี หุ้นส่วนใหญ่ได้รับผลกระทบ โดยเฉพาะหุ้นในกลุ่มเทคโนโลยี การก่อสร้าง และเคมีภัณฑ์ ส่งผลให้ราคาหุ้นปรับตัวลดลง ในขณะที่ข้อมูลในยูโรโซนเผยให้เห็นการเกินดุลการค้าของยูโรที่ 6.5 พันล้านยูโรในเดือนกรกฎาคม หลังจากที่ขาดดุลการค้า 36.3 พันล้านยูโรในปีก่อนหน้า โดยการเปลี่ยนแปลงนี้มีสาเหตุมาจากต้นทุนการนำเข้าพลังงานที่ลดลงและการส่งออกสินค้าอุตสาหกรรมที่เพิ่มขึ้น

ทั้งนี้ การขาดดุลการค้าของสหภาพยุโรปกับรัสเซียลดลงอย่างมากจาก 105 พันล้านยูโรเหลือ 9.2 พันล้านยูโรในช่วงครึ่งแรกของปี ในขณะที่ช่องว่างทางการค้ากับจีน ซึ่งเป็นคู่ค้ารายใหญ่อันดับสองของสหภาพยุโรปรองจากสหรัฐอเมริกา ลดลงจาก 220.3 พันล้านยูโรมาอยู่ที่ 174.7 พันล้านยูโรเมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปี 2565

ในส่วนของอัตราเงินเฟ้อ ECB คาดการณ์อัตราตลอดปีที่ 5.6% สำหรับยูโรโซน เพิ่มขึ้นจากการคาดการณ์ครั้งก่อนที่ 5.4% และสำหรับปี 2567 ธนาคารคาดการณ์อัตราเงินเฟ้อเฉลี่ยอยู่ที่ 3.2% เพิ่มขึ้นจากการคาดการณ์ก่อนหน้านี้ที่ 3.0% ขณะที่กรอบเป้าหมายระยะยาวของ ECB สำหรับอัตราเงินเฟ้อรายเดือนยังคงอยู่ที่ 2.0%

เริ่มต้นในสัปดาห์นี้ ตลาดยังคงใช้ความระมัดระวัง ในขณะที่นักลงทุนปรับลดคาดการณ์กำไรบางส่วน หลังจากที่ตลาดหุ้นดีดตัวสูงขึ้นในสัปดาห์ก่อน และพบสัญญาณที่บ่งบอกว่าธนาคารกลางยุโรปอาจยุติการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย หลังจากที่เมื่อเร็ว ๆ นี้ ECB ได้ขึ้นอัตราดอกเบี้ยสู่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ โดยจากแหล่งข่าวระบุว่าเป็นนัยว่าการปรับขึ้นครั้งล่าสุด อาจเป็นการปรับขึ้นครั้งสุดท้าย เมื่อพิจารณาถึงความท้าทายที่เศรษฐกิจยูโรโซนต้องเผชิญ อย่างไรก็ตาม ธนาคารกล่าวว่า การตัดสินใจเกี่ยวกับอัตราดอกเบี้ยในอนาคตจะยังคงขึ้นอยู่กับทิศทางของอัตราเงินเฟ้อต่อจากนี้

ก่อนหน้านี้ การประกาศของ ECB ก็ได้ส่งผลกระทบต่อภาคส่วนต่างๆ ตัวอย่างเช่น หุ้นในตลาดหลักทรัพย์ยุโรปพบว่ามีการปรับตัวสูงขึ้น โดยดัชนีบลูชิปของแฟรงก์เฟิร์ตเพิ่มขึ้น 1.2% ดัชนีของมาดริดเพิ่มขึ้น 1.3% และดัชนีในอัมสเตอร์ดัม มิลาน และปารีสต่างก็เพิ่มขึ้น 1.4% ขณะที่ดัชนี Europe Stoxx 600 เพิ่มขึ้น 1.6% อย่างไรก็ตาม เงินยูโรได้อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐฯ และสกุลเงินอื่นๆ เนื่องจากอัตราดอกเบี้ยที่ต่ำกว่าในยูโรโซน ทำให้ความน่าดึงดูดของสกุลเงินลดลง

ทางด้านแนวโน้มเศรษฐกิจเยอรมนียังคงมีความท้าทาย โดย Bundesbank ระบุว่าเศรษฐกิจมีแนวโน้มที่จะหดตัวในไตรมาสปัจจุบัน ภาคอุตสาหกรรมของประเทศยังคงอยู่ในภาวะถดถอย และการบริโภคภาคเอกชนมีส่วนกระตุ้นการเติบโตเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ขณะที่ อุตสาหกรรมของเยอรมนีซึ่งพึ่งพาการส่งออกสูง ได้รับผลกระทบอย่างหนักจากอุปสงค์ที่อ่อนแอจากจีน และโอกาสในการฟื้นตัวที่ยังคงมีจำกัด

ในฝรั่งเศส ธนาคารกลางได้ปรับการคาดการณ์การเติบโตทางเศรษฐกิจ โดยเศรษฐกิจฝรั่งเศสคาดว่าจะขยายตัว 0.9% ในปี 2566 เพิ่มขึ้นจากประมาณการครั้งก่อนที่ 0.7% อย่างไรก็ตาม ความไม่แน่นอนในคู่ค้าหลักของฝรั่งเศส โดยเฉพาะอย่างยิ่งแนวโน้มเศรษฐกิจเยอรมนีที่อ่อนแอและการเติบโตที่ซบเซาในจีน คาดว่าจะจำกัดการเติบโต โดยอัตราเงินเฟ้อในฝรั่งเศสคาดว่าจะลดลง ซึ่งมีการคาดการณ์ไว้ที่ 5.8% ในปีนี้ 2.6% ในปีหน้า และ 1.8% ในปี 2568 ต่ำกว่าเป้าหมาย 2% ของธนาคารกลางยุโรปเพียงเล็กน้อย

ตลาดหุ้นยุโรปในช่วงนี้ จึงคาดว่าจะมีความผันผวนไปจนถึงทรงตัวก่อนรายการประชุมจากธนาคารกลางสหรัฐฯ และธนาคารแห่งประเทศญี่ปุ่นในอีกไม่กี่วันข้างหน้า โดยคาดการณ์ว่าอาจปรับตัวสูงขึ้นได้เล็กน้อย หลังจากที่แนวโน้มมตินนโยบายทางการเงินจากธนาคารกลางหลายแห่งเริ่มชะลอความเข้มงวดลง

ข้อมูลประกอบการวิเคราะห์ทางเทคนิค (5H) CFD EU50 (Euro Stoxx 50 Futures - Dec 23)

แนวต้านสำคัญ : 4278, 4280, 4283

แนวรับสำคัญ : 4272, 4270, 4267                                

5H Outlook  

วิเคราะห์ตลาดหุ้นยุโรปที่มา: Investing.com 

Buy/Long 1 หากมีการแตะแนวรับที่ช่วงราคา 4257 – 4272 แต่ไม่สามารถเบรกแนวรับที่ 4272 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 4280 และ SL ที่ประมาณ 4250 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้

Buy/Long 2 หากสามารถเบรกแนวต้านที่ช่วงราคา 4278 – 4293 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 4310 และ SL ที่ประมาณ 4265 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้                 

Sell/Short 1 หากมีการแตะแนวต้านที่ช่วงราคา 4278 – 4293 แต่ไม่สามารถเบรกแนวต้านที่ 4278 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 4272 และ SL ที่ประมาณ 4300 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้

Sell/Short 2 หากสามารถเบรกแนวรับที่ช่วงราคา 4257 – 4272 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 4252 และ SL ที่ประมาณ 4285 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้

Pivot Points Sep 19, 2023 09:32AM GMT+7

Name
S3
S2
S1
Pivot Points
R1
R2
R3
Classic 4264 4267 4272 4275 4280 4283 4288
Fibonacci 4267 4270 4272 4275 4278 4280 4283
Camarilla 4276 4277 4277 4275 4279 4279 4280
Woodie's 4266 4268 4274 4276 4282 4284 4290
DeMark's - - 4274 4276 4282 - -

Sources: Investing 1Investing 2

______________________________
อัพเกรดความรู้เพิ่มเติม: Blog
รู้เท่าทันข่าว&สถานการณ์โลก: News
บทวิเคราะห์เชิงเทคนิคขั้นสูง: Analysis
Tags:

TECHNICAL ANALYSIS

ARTICLES