ดอลลาร์แคนาดาพุ่งจากตัวเลขเงินเฟ้อ ดอลลาร์สหรัฐฯ เผชิญความไม่แน่นอน

เงินดอลลาร์แคนาดาล่าสุดดีดตัวสูงขึ้น แตะระดับสูงสุดในรอบหกสัปดาห์เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐฯ โดยได้แรงหนุนจากความคาดหวังที่เพิ่มขึ้นเกี่ยวกับการขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพิ่มเติมของธนาคารแห่งประเทศแคนาดา หลังจากการเปิดเผยข้อมูลเงินเฟ้อที่เกินความคาดหมาย

ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ในแคนาดาขยายตัว 0.4% ในเดือนสิงหาคม สูงกว่าที่คาดการณ์ไว้ที่ 0.2% ในขณะที่อัตราเงินเฟ้อทั่วไปประจำปีเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วมาอยู่ที่ 4% เกินการคาดการณ์ที่ 3.8% และ 3.3% ของเดือนก่อนหน้า โดยCPI พื้นฐานที่ไม่รวมราคาน้ำมันและอาหารที่มีความผันผวน เพิ่มขึ้นเพียงเล็กน้อยที่ 0.1% บ่งชี้ถึงความต้องการสินค้าและบริการที่ไม่คงทนลดลง

ทั้งนี้ ธนาคารแห่งประเทศแคนาดาได้รับทราบถึงความผันผวนของอัตราเงินเฟ้อทั่วไปเมื่อเร็วๆ นี้ แต่เน้นย้ำถึงอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานที่ไม่สอดคล้องกับเป้าหมายในการลดอัตราเงินเฟ้อลงสู่กรอบ 2%

โดยปัจจัยหนึ่งที่ส่งผลให้อัตราเงินเฟ้อเพิ่มขึ้น มาจากราคาน้ำมันดิบที่พุ่งสูงขึ้น ส่งผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อ CPI ในทุกรัฐ อย่างไรก็ตาม นักกฎหมายและนักเศรษฐศาสตร์ได้ออกมาเตือนถึงมาตรการลดราคาอาหารของแคนาดาผ่านการบังคับใช้กฎระเบียบที่เข้มงวดขึ้น ที่อาจเผชิญกับความล้มเหลวและอาจเป็นการเพิ่มต้นทุนทางธุรกิจโดยไม่เกิดประโยชน์ต่อผู้บริโภค

โดยกฎหมายการแข่งขันทางการค้าที่อ่อนแอของประเทศแคนาดา ทำให้บริษัทไม่กี่แห่งมีอำนาจเหนือภาคส่วนต่างๆ ตั้งแต่ธุรกิจการธนาคารไปจนถึงร้านขายของชำ ส่งผลให้นายกรัฐมนตรีจัสติน ทรูโดได้ให้คำมั่นที่จะแก้ไขกฎหมายดังกล่าวเพื่อแก้ไขปัญหานี้

ซึ่งการเปลี่ยนแปลงนี้ จะเป็นการให้อำนาจแก่สำนักงานกำกับดูแลการแข่งขันทางการค้าในการกีดกันข้อตกลงที่อาจเป็นการเพิ่มอำนาจผูกขาดในตลาด โดยความเคลื่อนไหวของทรูโดนี้ เกิดขึ้นในขณะที่ชาวแคนาดาต้องเผชิญกับราคาอาหารที่เพิ่มขึ้นถึง 25% นับตั้งแต่เริ่มมีการระบาดของโควิด-19 ในปี 2020 ท่ามกลางความพยายามในการต่อสู้กับภาวะเงินเฟ้อผ่านการเพิ่มอัตราดอกเบี้ย ที่ได้ผลักดันให้ต้นทุนการกู้ยืมสูงขึ้นและทำให้ความสามารถในการซื้อที่อยู่อาศัยของประชาชนแย่ลง

อย่างไรก็ดี ตลาดเงินได้ตอบสนองต่อข้อมูลอัตราเงินเฟ้อโดยคาดการณ์ถึงการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยโดยธนาคารแห่งประเทศแคนาดาในเดือนตุลาคม โดยพบความเป็นไปได้ที่จะมีการขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกครั้ง เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 42% เมื่อเทียบกับ 23% ก่อนหน้าการประกาศตัวเลขเงินเฟ้อ ส่งผลให้เงินดอลลาร์แคนาดาซื้อขายสูงขึ้น 0.6% ที่ 1.34 ต่อดอลลาร์สหรัฐฯ แตะระดับที่แข็งแกร่งที่สุดนับตั้งแต่วันที่ 10 สิงหาคม

ทั้งนี้ ท่ามกลางการคาดการณ์ที่เกิดขึ้น ผู้เชี่ยวชาญบางคนเชื่อว่า ธนาคารแห่งแคนาดาอาจคงระดับอัตราดอกเบี้ยในปัจจุบัน หากเศรษฐกิจยังคงแสดงสัญญาณซบเซา โดยธนาคารแห่งประเทศแคนาดามีกำหนดการประชุมมติอัตราดอกเบี้ยครั้งต่อไปในวันที่ 26 ตุลาคมนี้ หลังมติครั้งล่าสุดในการคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ 5%

ขณะเดียวกัน ในสหรัฐอเมริกา ดัชนีดอลลาร์สหรัฐ (DXY) ร่วงติดต่อกันสองวัน เนื่องจากธนาคารกลางสหรัฐฯ คาดว่าจะคงอัตราดอกเบี้ยในระหว่างการประชุมนโยบายการเงินในเดือนกันยายน โดยนักลงทุนคาดการณ์ว่าเฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ 5.25%-5.50% ในช่วงนี้

อย่างไรก็ตาม ค่าเงินดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้นเมื่อเร็วๆ นี้เป็นผลมาจากการเติบโตของสหรัฐฯ ที่แข็งแกร่ง ท่ามกลางการฟื้นตัวของค่าเงินดอลลาร์ที่ยังคงเผชิญกับความท้าทายที่อาจเกิดขึ้นจากข้อมูลเศรษฐกิจและการตัดสินใจเกี่ยวกับอัตราดอกเบี้ยจากเฟด จึงอาจส่งผลให้แนวโน้มของดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อจากนี้ อาจจำต้องอาศัยตัวแปรใหม่เพื่อสร้างแรงผลักดันเพิ่มเติมให้กับสกุลเงิน

ข้อมูลประกอบการวิเคราะห์ทางเทคนิค (30 Min) CFD USD/CAD

แนวต้านสำคัญ : 1.3458, 1.3461, 1.3465

แนวรับสำคัญ : 1.3450, 1.3447 , 1.3443                   

30Min Outlook       

ที่มา: Investing.com                                             

Buy/Long 1 หากมีการแตะแนวรับที่ช่วงราคา 1.3445 - 1.3450 แต่ไม่สามารถเบรกแนวรับที่ 1.3450 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 1.3461 และ SL ที่ประมาณ 1.3441 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้

Buy/Long 2 หากสามารถเบรกแนวต้านที่ช่วงราคา 1.3458 - 1.3463 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 1.3472 และ SL ที่ประมาณ 1.3446 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้                 

Sell/Short 1 หากมีการแตะแนวต้านที่ช่วงราคา 1.3458 - 1.3463 แต่ไม่สามารถเบรกแนวต้านที่ 1.3458 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 1.3450 และ SL ที่ประมาณ 1.3467 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้

Sell/Short 2 หากสามารถเบรกแนวรับที่ช่วงราคา 1.3445 - 1.3450 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 1.3439 และ SL ที่ประมาณ 1.3462 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้

Pivot Points Sep 20, 2023 09:47AM GMT+7

Sources: Investing 1, Investing 2