BoE คงอัตราดอกเบี้ย ท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจ
ธนาคารแห่งประเทศอังกฤษ (BoE) ล่าสุด สร้างความประหลาดใจให้กับตลาดด้วยการตัดสินใจคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ 5.25% ยุติการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยหลายครั้งติดต่อกันตั้งแต่เดือนธันวาคม 2021 โดยได้รับแรงหนุนจากตัวเลขเงินเฟ้อที่ต่ำอย่างไม่คาดคิดในเดือนสิงหาคม ท่ามกลางราคาน้ำมันที่สูงขึ้นและตลาดงานที่เริ่มผ่อนคลาย ซึ่งการตัดสินใจของ BoE สอดคล้องกับจุดยืนล่าสุดของธนาคารกลางสหรัฐฯ ในการระงับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยชั่วคราว
นอกจากนี้ ข้อมูลที่เผยแพร่เมื่อวันพฤหัสบดีระบุว่าการกู้ยืมสาธารณะเพิ่มขึ้นในช่วงห้าเดือนแรกของปีภาษี และจำกัดขอบเขตในการลดภาษีอย่างมีนัยสำคัญในช่วงปลายปี โดยในช่วงเดือนเมษายนถึงสิงหาคม การกู้ยืมสุทธิของภาครัฐแซงหน้าตัวเลขของปีที่แล้ว แต่ยังคงต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้
โดยแม้ว่าข้อมูลนี้จะบ่งบอกถึงการชะลอตัวทางเศรษฐกิจที่อาจเกิดขึ้น แต่ก็อาจส่งผลกระทบต่อรายได้จากภาษีที่ลดลงเช่นกัน ซึ่งสำนักงานงบประมาณคาดว่าจะปรับตัวเลขประเมินค่าใช้จ่ายดอกเบี้ยในการประกาศงบประมาณที่จะมีขึ้นในเดือนพฤศจิกายน
นอกจากนี้ การตัดสินใจของธนาคารแห่งอังกฤษในการรักษาอัตราดอกเบี้ยยังคงมีผลกระทบต่อผู้กู้ยืมปัจจุบันและผู้ซื้อครั้งแรก โดยแม้ว่าอัตราจะปรับลดลงเล็กน้อย แต่ทว่าอัตราดอกเบี้ยสินเชื่อที่อยู่อาศัยแบบคงที่สองปีโดยเฉลี่ยลดลงเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ในขณะที่อัตราดอกเบี้ยคงที่เฉลี่ยห้าปีลดลงจาก 6.07% เป็น 6.06%
ทั้งนี้ การตัดสินใจคงอัตราดอกเบี้ยได้รับอิทธิพลหลักจากรายงานอัตราเงินเฟ้อหนึ่งวันก่อนการประกาศของ BoE ที่ลดลงเหลือ 6.7% ท่ามกลางระดับอัตราเงินเฟ้อที่ยังคงสูงในสหราชอาณาจักร และแม้ว่าอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานซึ่งไม่รวมราคาอาหารและพลังงานที่ผันผวน จะลดลงมาอยู่ที่ 6.2% ในขณะที่อัตราเงินเฟ้อภาคบริการชะลอตัวลงที่ 6.8%
โดย BoE ยังคงเปิดโอกาสการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในอนาคต โดยให้คำมั่นที่จะนำอัตราเงินเฟ้อกลับมาอยู่ที่ระดับ 2% ในขณะที่นักเศรษฐศาสตร์และธุรกิจการให้สินเชื่อคาดว่าการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพิ่มเติมไม่น่าจะเป็นไปได้ และอัตราดังกล่าวคาดว่าได้ถึงจุดสูงสุดแล้ว
อย่างไรก็ดี หลังจากการตัดสินใจของ BoE เศรษฐกิจของสหราชอาณาจักรได้แสดงสัญญาณภาวะถดถอย โดยการสำรวจทางธุรกิจซึ่งพิจารณาถึงการตัดสินใจของธนาคารกลางในการรักษาอัตราดอกเบี้ย เผยให้เห็นถึงความท้าทายในเดือนกันยายนสำหรับบริษัทต่างๆ โดยมีสาเหตุมาจากการว่างงานที่เพิ่มขึ้น ในขณะที่ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อทั่วโลกสำหรับภาคบริการจาก S&P ของสหราชอาณาจักรแตะระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนมกราคม 2021 พร้อมกันกับที่ดัชนีชี้วัดการจ้างงานที่ลดลงอย่างมาก
อีกด้าน การสำรวจโดยสมาพันธ์อุตสาหกรรมแห่งอังกฤษ (CBI) ระบุว่าผลผลิตของโรงงานลดลง และคาดว่าจะซบเซาในช่วงที่เหลือของปี 2023 ในขณะที่แม้ว่าอาจมีผลกระทบจากการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของ BoE และตลาดงานที่เริ่มอ่อนแอลงในอนาคต แต่ทว่าอัตราเงินเฟ้อที่ลดลงและความเชื่อที่ว่าต้นทุนการกู้ยืมอาจถึงจุดสูงสุด ได้ชี้ให้เห็นว่าเศรษฐกิจอังกฤษอาจสามารถหลีกเลี่ยงภาวะถดถอยที่รุนแรงได้
ทั้งนี้ ความต้องการของผู้บริโภคในอังกฤษยังคงฟื้นตัว โดยปริมาณการขายเพิ่มขึ้นเดือนต่อเดือนถึงหกเท่าในปี 2023 โดยความเชื่อมั่นของผู้บริโภคอยู่ในระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนมกราคมของปีที่แล้ว ท่ามกลางผลกระทบจากการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยติดต่อกันของ BoE ที่ยังไม่ส่งผลชัดเจน และอาจส่งผลกระทบต่อการใช้จ่ายของผู้บริโภคในช่วงปลายปี
ทางด้านสหรัฐอเมริกา กิจกรรมทางธุรกิจมีการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อยในเดือนกันยายน โดยภาคบริการเติบโตช้าที่สุดนับตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ ในขณะที่กิจกรรมคำสั่งซื้อใหม่แตะระดับต่ำสุดของปี อย่างไรก็ตาม การเติบโตของเศรษฐกิจสหรัฐฯ ยังคงขัดแย้งกับการคาดการณ์ที่คาดว่าจะเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอย จากการเติบโตของภาคแรงงานที่แข็งแกร่ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในภาคบริการ การใช้จ่ายของผู้บริโภคที่เพิ่มขึ้น และอัตราเงินเฟ้อที่ลดลง แม้ว่าทิศทางของธนาคารกลางสหรัฐที่จะคงอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้นในปีต่อไปอาจขัดขวางความก้าวหน้าทางเศรษฐกิจได้ จึงอาจส่งผลให้เงินปอนด์มีแนวโน้มทรงตัว ปรับตัวขึ้นลงในกรอบเนื่องจากผลตอบแทนของอังกฤษที่ตามสหรัฐฯ มาติดๆ ในขณะที่อาจพบแนวโน้มการแข็งค่าของดอลลาร์สหรัฐฯ ได้เล็กน้อย เนื่องจากความแข็งแกร่งของเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่ยังคงมากกว่าสหราชอาณาจักร
ข้อมูลประกอบการวิเคราะห์ทางเทคนิค (5H) CFD GBP/USD
แนวต้านสำคัญ : 1.2258, 1.2265, 1.2275
แนวรับสำคัญ : 1.2238, 1.2231, 1.2221
5H Outlook
ที่มา: Investing.com
Buy/Long 1 หากมีการแตะแนวรับที่ช่วงราคา 1.2228 - 1.2238 แต่ไม่สามารถเบรกแนวรับที่ 1.2238 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 1.2258 และ SL ที่ประมาณ 1.2223 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้
Buy/Long 2 หากสามารถเบรกแนวต้านที่ช่วงราคา 1.2258 - 1.2268 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 1.2280 และ SL ที่ประมาณ 1.2233 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้
Sell/Short 1 หากมีการแตะแนวต้านที่ช่วงราคา 1.2258 - 1.2268 แต่ไม่สามารถเบรกแนวต้าน 1.2258 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 1.2231 และ SL ที่ประมาณ 1.2273 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้
Sell/Short 2 หากสามารถเบรกแนวรับที่ช่วงราคา 1.2228 - 1.2238 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 1.2210 และ SL ที่ประมาณ 1.2253 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้
Pivot Points Sep 25, 2023 09:46AM GMT+7
Name | S3 | S2 | S1 | Pivot Points | R1 | R2 | R3 |
---|---|---|---|---|---|---|---|
Classic | 1.2204 | 1.2221 | 1.2231 | 1.2248 | 1.2258 | 1.2275 | 1.2285 |
Fibonacci | 1.2221 | 1.2231 | 1.2238 | 1.2248 | 1.2258 | 1.2265 | 1.2275 |
Camarilla | 1.2234 | 1.2237 | 1.2239 | 1.2248 | 1.2244 | 1.2246 | 1.2249 |
Woodie's | 1.2200 | 1.2219 | 1.2227 | 1.2246 | 1.2254 | 1.2273 | 1.2281 |
DeMark's | - | - | 1.2226 | 1.2246 | 1.2253 | - | - |
Sources: Investing 1, Investing 2