ดาวโจนส์ร่วงจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรที่เพิ่มขึ้น ตลาดคาดการณ์การเคลื่อนไหวของเฟด
เมื่อวันจันทร์ ดัชนีดาวโจนส์ปรับตัวลดลง โดยส่วนใหญ่ได้รับอิทธิพลจากการปรับตัวลดลงของภาคพลังงานและสาธารณูปโภค ซึ่งมีสาเหตุมาจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง หลังจากมีการผ่านร่างกฎหมายอนุมัติเงินทุนชั่วคราวในนาทีสุดท้ายเพื่อหลีกเลี่ยงการชัตดาวน์ของรัฐบาลสหรัฐฯ โดยอารมณ์โดยรวมของตลาดยังคงอยู่ในระดับต่ำ เนื่องจากระยะที่ได้รับอนุมัตินั้นเป็นเพียงแค่ระยะเวลาสั้นๆ ส่งผลให้ดัชนีดาวโจนส์ร่วงลง 0.2% S&P 500 คงทรงตัว และดัชนี NASDAQ เพิ่มขึ้น 0.7%
ทั้งนี้ ในขณะที่บริษัทในกลุ่มดัชนี S&P 500 เตรียมรายงานผลประกอบการไตรมาสสาม ตลาดคาดการณ์ว่าจะพบกำไรเพิ่มขึ้น 1.6% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว โดยดัชนี Nasdaq ยังคงอยู่ในทิศทางที่ดี โดย Nvidia เพิ่มขึ้น 2.9% หลังจากการวิเคราะห์ของ Goldman Sachs ที่ช่วยเพิ่มความเชื่อมั่น และถึงแม้ภาคธุรกิจเทคโนโลยีขนาดใหญ่จะยังคงถูกกดดันจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรที่เพิ่มขึ้น แต่บริษัท Alphabet และ Meta ยังคงเป็นผู้นำในการสนับสนุนดัชนีโดยรวม
ทางด้านตลาดตราสารหนี้ อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯ 10 ปีแตะระดับสูงสุดในรอบ 16 ปี โดยได้แรงหนุนจากความคาดหวังว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ จะขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกครั้ง ซึ่งอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาล 2 ปีเพิ่มขึ้นเป็น 5.098% และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 10 ปีเพิ่มขึ้น 12 จุด มาอยู่ที่ 4.696%
ทั้งนี้ ภาคธุรกิจสาธารณูปโภคที่อ่อนไหวต่ออัตราดอกเบี้ยร่วงลงมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนเมษายน 2020 ถึง 4.7% นำโดยบริษัทสาธารณูปโภคเช่น Nextera Energy Inc และ The AES Corporation ที่กดดันภาคธุรกิจ ในขณะเดียวกันกับที่ภาคพลังงานเผชิญกับการลดลงอย่างหนักหลังจากราคาน้ำมันที่เริ่มผ่อนแรง
ทางด้านค่าเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้น โดยยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องติดต่อกันสี่สัปดาห์ โดยได้รับแรงหนุนจากร่างกฎหมายเงินทุนและข้อมูลเศรษฐกิจเชิงบวก รวมถึงอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ที่เพิ่มขึ้น
อย่างไรก็ดี นักลงทุนต่างรอคอยข้อมูลการจ้างงานและคำแถลงจากเจ้าหน้าที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ โดยข้อมูลเศรษฐกิจเดือนกันยายนเผยให้เห็นกิจกรรมการผลิตในสหรัฐฯ ลดลงน้อยกว่าที่คาดการณ์ไว้ พร้อมด้วยการใช้จ่ายด้านการก่อสร้างที่เพิ่มขึ้นในเดือนสิงหาคม ซึ่งตัวชี้วัดทางเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา ได้เพิ่มความคาดหวังที่อัตราดอกเบี้ยจะยังคงอยู่ในระดับสูงเป็นเวลานานขึ้น
ทั้งนี้ ความเชื่อมั่นของนักลงทุนยังคงได้รับอิทธิพลจากการคงอัตราดอกเบี้ย โดยแนวโน้มประมาณ 30% คาดว่าเฟดจะขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนหน้า เพิ่มขึ้นจาก 18% ในสัปดาห์ก่อน ซึ่งโดยรวมแล้ว ตลาดยังคงระมัดระวังและจับตาดูเกี่ยวกับตัวชี้วัดทางเศรษฐกิจ โดยเฉพาะรายงานการจ้างงานในสหรัฐฯ ที่กำลังจะเกิดขึ้น เนื่องจากคาดว่าจะเป็นตัวกำหนดความคาดหวังในการตัดสินใจนโยบายทางการเงินในอนาคตของธนาคารกลางสหรัฐฯ จึงคาดว่าจะยังส่งผลให้ตลาดหุ้นสหรัฐฯ โดยรวมยังคงถูกกดดันอยู่บ้าง จากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรระยะยาว และภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัว รวมถึงหนี้ภาครัฐที่พุ่งสูงขึ้น โดยอาจพบการปรับฐานขึ้นเล็กน้อยหลังย่อตัวลงแรงในช่วงที่ผ่านมา
ข้อมูลประกอบการวิเคราะห์ทางเทคนิค (5H) CFD US30 DJIA
แนวต้านสำคัญ : 33460.3, 33509.4, 33589
แนวรับสำคัญ : 33301.1, 33252, 33172.4
5H Outlook
ที่มา: Investing.com
Buy/Long 1 หากมีการแตะแนวรับที่ช่วงราคา 33156.1 - 33301.1 แต่ไม่สามารถเบรกแนวรับที่ 33301.1 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 33510.6 และ SL ที่ประมาณ 33084.0 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้
Buy/Long 2 หากสามารถเบรกแนวต้านที่ช่วงราคา 33460.3 - 33605.3 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 33710.0 และ SL ที่ประมาณ 33229.0 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้
Sell/Short 1 หากมีการแตะแนวต้านที่ช่วงราคา 33460.3 - 33605.3 แต่ไม่สามารถเบรกแนวต้านที่ 33460.3 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 33301.1 และ SL ที่ประมาณ 33678.0 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้
Sell/Short 2 หากสามารถเบรกแนวรับที่ช่วงราคา 33156.1 - 33301.1 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 33110.0 และ SL ที่ประมาณ 33533.0 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้
Pivot Points Oct 3, 2023 09:33AM GMT+7
Name
|
S3
|
S2
|
S1
|
Pivot Points
|
R1
|
R2
|
R3
|
---|---|---|---|---|---|---|---|
Classic | 33094 | 33172.4 | 33302.3 | 33380.7 | 33510.6 | 33589 | 33718.9 |
Fibonacci | 33172.4 | 33252 | 33301.1 | 33380.7 | 33460.3 | 33509.4 | 33589 |
Camarilla | 33374.8 | 33393.9 | 33413 | 33380.7 | 33451.2 | 33470.3 | 33489.4 |
Woodie's | 33119.6 | 33185.2 | 33327.9 | 33393.5 | 33536.2 | 33601.8 | 33744.5 |
DeMark's | - | - | 33341.4 | 33400.3 | 33549.7 | - | - |
Sources: Investing 1, Investing 2