เศรษฐกิจออสเตรเลียทำได้ดีกว่าที่คาดไว้
ดอลลาร์ออสเตรเลียอ่อนค่าลง เนื่องจากธนาคารกลางออสเตรเลีย (RBA) ได้ตัดสินใจคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ 4.1% และได้รับแรงกดดันจากเงินดอลลาร์สหรัฐฯ จากข้อมูลที่แข็งแกร่งของเศรษฐกิจภายในประเทศ ทำให้นักลงทุนมีการคาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐจะคงอัตราดอกเบี้ยที่สูงนี้ต่อไปอีก
ธนาคารกลางออสเตรเลีย (RBA) คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 4.1% โดยมีผู้ว่าการคนใหม่ มิเคเล่ บุลล็อค ซึ่งเป็นการคงอัตราดอกเบี้ยเป็นเดือนที่ 4 ติดต่อกัน โดยผู้กำหนดนโยบายได้ให้ความคิดเห็นว่าอัตราเงินเฟ้อได้ผ่านจุดสูงสุดไปแล้ว แต่ก็ยังสูงเกินไป และจะยังคงเป็นเช่นนั้นต่อไปอีกระยะหนึ่ง
ผู้กำหนดนโยบายอาจจำเป็นต้องปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกครั้งเพื่อนำอัตราเงินเฟ้อกลับมาสู่ระดับเป้าหมายที่ 2 - 3% ภายในปี 2568 ทั้งนี้ การปรับอัตราดอกเบี้ยจะขึ้นอยู่กับสภาพของเศรษฐกิจในเวลานั้น ทั้งนี้ มีข้อมูลระบุว่าเศรษฐกิจของออสเตรเลียแข็งแกร่งเกินคาดในช่วงครึ่งแรกของปี 2566 แต่ก็ถือว่าเป็นการเติบโตที่ต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้ เนื่องจากได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัวลง
PMI ภาคการผลิตของออสเตรเลียเพิ่มสูงขึ้นเป็น 48.7 ในเดือนกันยายน โดยได้แรงสนับสนุนมาจากการจ้างงานที่เพิ่มขึ้น ถึงอย่างนั้น เศรษฐกิจที่ย่ำแย่ส่งผลให้คำสั่งซื้อใหม่มีการลดลงอย่างรวดเร็วทั้งในประเทศและต่างประเทศ อีกทั้งกำลังการผลิตได้มีการลดลงเล็กน้อย ทำให้ระดับความเชื่อมันโดยรวมลดลง
ยอดค้าปลีกในออสเตรเลียเพิ่มขึ้น 0.2% เมื่อเทียบเป็นรายเดือน (MoM) ในเดือนสิงหาคม การเพิ่มขึ้นเล็กน้อยนี้สามารถบอกให้เห็นว่าผู้บริโภคยังคงควบคุมการใช้จ่ายต่างๆ ของตนเองต่อไปเนื่องจากอัตราดอกเบี้ยยังคงอยู่ในระดับสูง โดยผลการสำรวจพบว่าคนส่วนใหญ่ลดค่าใช้จ่ายด้านอาหารเยอะที่สุด
แม้ว่าอัตราดอกเบี้ยจะยังคงสูงอยู่ พบว่ามูลค่าของสินเชื่อบ้านใหม่ในออสเตรเลียเพิ่มขึ้นถึง 2.6% เมื่อเทียบเป็นรายเดือน (MoM) คิดเป็น 16.07 พันล้านดอลลาร์ออสเตรเลียในเดือนสิงหาคม โดยที่การก่อสร้างที่อยู่อาศัยและการซื้อที่อยู่อาศัยมือสองดีดตัวขึ้นอย่างรวดเร็ว ซึ่งสอดคล้องกับจำนวนใบอนุญาตก่อสร้างอาคารโดยภาคเอกชนที่มีการเพิ่มขึ้นเช่นเดียวกัน ถึงแม้ว่าการก่อสร้างที่อยู่อาศัยใหม่จะเพิ่มมากขึ้นแต่พบว่าการซื้อที่อยู่อาศัยที่สร้างใหม่ยังคงลดลงอย่างต่อเนื่อง เนื่องราคาบ้านใหม่ที่อาจสูงมากเกินไปและต้นทุนการก่อสร้างที่สูงขึ้นด้วย
ข้อมูลประกอบการวิเคราะห์ทางเทคนิค (5H)
แนวต้านสำคัญ: 1.5792, 1.5818, 1.5862
แนวรับสำคัญ: 1.5723, 1.5680, 1.5653
ที่มา: Investing.com
จุดกลับตัว 3 ตุลาคม 2566 13:25 น. GMT+7
ชื่อ | S3 | S2 | S1 | จุดกลับตัว | R1 | R2 | R3 |
Classic | 1.5653 | 1.5680 | 1.5723 | 1.5749 | 1.5792 | 1.5818 | 1.5862 |
Fibonacci | 1.5680 | 1.5706 | 1.5722 | 1.5749 | 1.5776 | 1.5792 | 1.5818 |
Camarilla | 1.5748 | 1.5754 | 1.5761 | 1.5749 | 1.5774 | 1.5780 | 1.5786 |
Woodie's | 1.5663 | 1.5685 | 1.5733 | 1.5754 | 1.5802 | 1.5823 | 1.5872 |
DeMark's | - | - | 1.5737 | 1.5756 | 1.5806 | - | - |
Buy/Long 2: หากสามารถเบรกแนวต้านที่ช่วงราคา 1.5792 - 1.5818 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 1.5862 และ SL ที่ประมาณ 1.5680 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้
Sell/Short 1: หากมีการแตะแนวต้านที่ช่วงราคา 1.5792 - 1.5818 แต่ไม่สามารถเบรกแนวต้านที่ 1.5792 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 1.5680 และ SL ที่ประมาณ 1.5862 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้
Sell/Short 2: หากสามารถเบรกแนวรับที่ช่วงราคา 1.5680 - 1.5723 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 1.5653 และ SL ที่ประมาณ 1.5818 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้
ตัวชี้วัดทางเทคนิค 3 ตุลาคม 2566 13:25 น. GMT+7
ชื่อ | มูลค่า | Action |
RSI(14) | 71.494 | ซื้อ |
STOCH(9,6) | 68.306 | ซื้อ |
STOCHRSI(14) | 100.000 | ซื้อมากเกินไป |
MACD(12,26) | 0.005 | ซื้อ |
ADX(14) | 19.121 | ถือหุ้นไว้ |
Williams %R | -2.191 | ซื้อมากเกินไป |
CCI(14) | 183.7139 | ซื้อ |
ATR(14) | 0.0076 | ผันผวนน้อยลง |
Highs/Lows(14) | 0.0219 | ซื้อ |
Ultimate Oscillator | 70.037 | ซื้อมากเกินไป |
ROC | 1.247 | ซื้อ |
Bull/Bear Power(13) | 0.0264 | ซื้อ |
ซื้อ:7 ขาย:0 ถือหุ้นไว้:1 สรุป:ซื้อทันที |