เศรษฐกิจสวิตเซอร์แลนด์ถูกกดดันจากอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้น
ฟรังก์สวิสอ่อนค่าลงอย่างต่อเนื่องและคาดว่าจะสามารถอ่อนค่าลงได้อีก ซึ่งเป็นการอ่อนค่ามากที่สุดนับตั้งแต่เดือนมีนาคม เนื่องจากอัตราเงินเฟ้อที่ลดลงทำให้ธนาคารแห่งชาติสวิส (SNB) ไม่สามารถปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ยนโยบายให้มากกว่านี้ได้ เพราะทำให้เกิดความเสี่ยงที่จะทำให้เกิดสภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวลงมากกว่าเดิมและฟื้นตัวได้ยากขึ้น
อัตราเงินเฟ้อในสวิตเซอร์แลนด์เพิ่มขึ้นมาเล็กน้อยที่ 1.7% เมื่อเทียบเป็นรายปีในเดือนกันยายน จาก 1.6% ในเดือนก่อนหน้า แต่เมื่อเทียบเป็นรายเดือนจะพบว่าอัตราเงินเฟ้อลดลง 0.1% หลังจากขยับจากที่เพิ่มขึ้น 0.2% ในเดือนก่อนหน้า โดยเงินเฟ้อภาคที่อยู่อาศัยและพลังงานเพิ่มขึ้นมามากที่สุด แต่ถึงอย่างนั้น แนวโน้มของอัตราเงินเฟ้อในสวิตเซอร์แลนด์ในไตรมาสที่ผ่านมาก็มีการลดลงมาอย่างต่อเนื่อง นี่ก็เป็นอีกหนึ่งเหตุผลที่ทำให้ SNB ตัดสินใจที่จะคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ในการประชุมครั้งล่าสุดที่ 1.75%
ความแตกต่างด้านอัตราดอกเบี้ยระหว่าง SNB และ Fed ทำให้นักลงทุนย้ายความเสี่ยงไปยังทรัพย์สินที่มีความเสี่ยงน้อยกว่าและให้ผลตอบแทนที่มากกว่า โดยผลตอบแทนพันฐบัตรรัฐบาลของสหรัฐฯ อายุ 10 ปี เพิ่มขึ้นมากกว่า 4.83% แต่ทางด้านผลตอบแทนพันฐบัตรรัฐบาลของสวิส อายุ 10 ปี อยู่เพียงแค่ 1.16% เท่านั้น นอกจากนี้ การเติบโตของเศรษฐกิจที่ไม่ดีมากนักส่งผลให้ GDP ของสวิสซบเซาลงอย่างมากในไตรมาสที่ 2 และอาจจะส่งผลกระทบต่อ GDP ในไตรมาสที่ 3 ด้วยเช่นเดียวกัน
PMI ภาคการผลิตของสวิสเพิ่มขึ้นเป็น 44.9 ในเดือนกันยายน จาก 39.9 ในเดือนก่อนหน้า แม้ว่าตัวเลขจะเพิ่มขึ้นอย่างมาก แต่ยังคงถือว่าเป็นการหดตัวลงเป็นเดือนที่ 9 ซึ่งการฟื้นตัวในครั้งนี้มาจากความกดดันด้านเงินเฟ้อที่ลดลง, คำสั่งซื้อที่เพิ่มมากขึ้นและกำลังการผลิตที่เพิ่มมากขึ้น ถึงอย่างนั้นการจ้างงานก็ไม่ได้เพิ่มขึ้นมามากนัก
ยอดค้าปลีกในสวิตเซอร์แลนด์ลดลง 1.8% เมื่อเทียบเป็นรายปีในเดือนสิงหาคม โดยที่ยอดขายสินค้ายังคงลดลงอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะอาหาร ซึ่งคาดว่าจะมาจากการนำเข้าวัตถุดิบบางส่วนจากต่างประเทศและเมื่อรวมกับการอ่อนค่าของฟรังก์สวิสทำให้ราคาอาหารสูงขึ้นแม้ว่าเงินเฟ้อจะลดลงแล้วก็ตาม
ตัวชี้วัดทิศทางของเศรษฐกิจในสวิตเซอร์แลนด์ลดลงเหลือ 95.9 โดยสูงกว่าการคาดการณ์ของตลาดอย่างมากที่ 90.5 โดยตัวเลขการคาดการณ์นี้ได้ข้อมูลจากการเติบโตของเศรษฐกิจที่น้อยกว่าที่คาดและต้นทุนการกู้ยืมที่สูงขึ้นจากการขึ้นอัตราดอกเบี้ยของ SNB ทำให้ยังคงกดดันเศรษฐกิจต่อไป
ข้อมูลประกอบการวิเคราะห์ทางเทคนิค (5H)
แนวต้านสำคัญ: 0.9231, 0.9238, 0.9250
แนวรับสำคัญ: 0.9212, 0.9200, 0.9193
ที่มา: Investing.com
จุดกลับตัว 4 ตุลาคม 2566 14:34 น. GMT+7
ชื่อ | S3 | S2 | S1 | จุดกลับตัว | R1 | R2 | R3 |
Classic | 0.9193 | 0.9200 | 0.9212 | 0.9219 | 0.9231 | 0.9238 | 0.9250 |
Fibonacci | 0.9200 | 0.9207 | 0.9212 | 0.9219 | 0.9226 | 0.9231 | 0.9238 |
Camarilla | 0.9219 | 0.9221 | 0.9222 | 0.9219 | 0.9226 | 0.9227 | 0.9229 |
Woodie's | 0.9195 | 0.9201 | 0.9214 | 0.9220 | 0.9233 | 0.9239 | 0.9252 |
DeMark's | - | - | 0.9216 | 0.9221 | 0.9234 | - | - |
Buy/Long 2: หากสามารถเบรกแนวต้านที่ช่วงราคา 0.9231 - 0.9238 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 0.9250 และ SL ที่ประมาณ 0.9200 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้
Sell/Short 1: หากมีการแตะแนวต้านที่ช่วงราคา 0.9231 - 0.9238 แต่ไม่สามารถเบรกแนวต้านที่ 0.9231 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 0.9200 และ SL ที่ประมาณ 0.9250 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้
Sell/Short 2: หากสามารถเบรกแนวรับที่ช่วงราคา 0.9200 - 0.9212 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 0.9193 และ SL ที่ประมาณ 0.9238 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้
ตัวชี้วัดทางเทคนิค 4 ตุลาคม 2566 14:34 น. GMT+7
ชื่อ | มูลค่า | Action |
RSI(14) | 59.413 | ซื้อ |
STOCH(9,6) | 76.348 | ซื้อ |
STOCHRSI(14) | 60.239 | ซื้อ |
MACD(12,26) | 0.003 | ซื้อ |
ADX(14) | 31.160 | ซื้อ |
Williams %R | -28.358 | ซื้อ |
CCI(14) | 89.7826 | ซื้อ |
ATR(14) | 0.0030 | ผันผวนน้อยลง |
Highs/Lows(14) | 0.0009 | ซื้อ |
Ultimate Oscillator | 54.044 | ซื้อ |
ROC | 0.766 | ซื้อ |
Bull/Bear Power(13) | 0.0036 | ซื้อ |
ซื้อ:11 ขาย:0 ถือหุ้นไว้:0 สรุป:ซื้อทันที |