การขาดแคลนแรงงานยังเป็นปัญหาหลักของรัสเซีย
รูเบิลรัสยังคงอ่อนค่าลงเกิน 100 รูเบิลต่อดอลลาร์สหรัฐฯ เนื่องจากการแข็งค่าของเงินดอลลาร์ ทำให้บริษัทต่างๆ ได้ย้ายทรัพย์สินไปที่ที่มีความเสี่ยงน้อยกว่า นอกจากนี้ เงินเฟ้อในรัสเซียมีแนวโน้มที่จะพุ่งสูงขึ้นอีกครั้งเมื่อดูจากการเพิ่มขึ้นในช่วง 2-3 เดือนที่ผ่านมา ทำให้ธนาคารกลางรัสเซียจำเป็นต้องปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างรุนแรงและส่งผลกระทบต่อการเติบโตของเศรษฐกิจในประเทศรวมถึงต้นทุนการกู้ยืมที่สูงขึ้นด้วย
การคว่ำบาตรที่เกิดขึ้นยังทำให้การส่งออกของรัสเซียทำได้ไม่ดีเท่าที่ควรและทำให้การค้ากับยุโรปและกลุ่ม G7 เกิดความยากลำบากมากขึ้น อีกทั้ง เศรษฐกิจของจีนยังฟื้นตัวได้ไม่มากนัก ทำให้การเกินดุลการค้าของรัสเซียจึงลดลงถึง 77% จากปีก่อนหน้าในเดือนกรกฎาคม อีกทั้งปัญหาค่าเงินรูเบิลที่อ่อนค่าทำให้การนำเข้ามีค่าใช้จ่ายที่สูงมากโดยเฉพาะสินค้าอุปโภคบริโภคและอาหารที่มีความจำเป็นต่อประชาชนในรัสเซีย
ทางด้านการค้าขายของสหรัฐฯ ก็ยังทำได้ไม่ดี โดยดุลการค้าลดลงเหลือ 58.3 พันล้านดอลลาร์ในเดือนสิงหาคม โดยที่การส่งออกเพิ่มขึ้น 1.6% แต่การที่ดอลลาร์แข็งค่ามากขึ้นทำให้กำไรจากการส่งออกไม่ได้ดีเท่าที่ควร อีกทั้งการแข่งขันด้านเซมิคอนดักเตอร์กับจีนและการสั่งห้ามการส่งออกสินค้าบางชนิดทำให้ดุลการค้าที่เกิดขึ้นกับจีนลดลง 1.3 พันล้านดอลลาร์ ในขณะเดียวกันที่การนำเข้าลดลง 0.7% คิดเป็น 314.3 พันล้านดอลลาร์ พบว่ามีการนำเข้าน้ำมันดิบและโลหะต่างๆ เพิ่มมากขึ้น
PMI ภาคการผลิตในรัสเซียเพิ่มขึ้นเป็น 54.5 ในเดือนกันยายน จาก 52.7 ในเดือนก่อนหน้า พบว่าการขยายตัวส่วนใหญ่ได้รับแรงหนุนจากการขยายตัวตามความต้องการในประเทศ ซึ่งเกิดจากการค้าขายที่ลดลง ทางด้านคำสั่งซื้อใหม่จากต่างประเทศเพิ่มขึ้นเพียงเล็กน้อยเท่านั้น เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นในปัจจุบันทำให้ความสามารถในการใช้จ่ายของบริษัทในต่างประเทศลดลงส่งผลให้อุปสงค์ในตลาดทั่วโลกลดลงด้วย
จำนวนผู้มีงานทำในรัสเซียเพิ่มขึ้นเป็น 74.20 ล้านคนในเดือนสิงหาคม จาก 74 ล้านคนในเดือนก่อนหน้า พบว่าจำนวนการจ้างงานเพิ่มมากขึ้นทั้งภาคการผลิตและภาคบริการ แม้ว่าต้นทุนทางด้านวัตถุดิบและแรงงานจะมีการเพิ่มขึ้นก็ตาม แต่ความต้องการในประเทศก็เป็นตัวผลักดันให้มีการจ้างงานเพิ่มมากขึ้น รวมไปถึงการนำกำลังคนไปใช้ในทางทหารก็เป็นอีกหนึ่งเหตุผลที่ทำให้เกิดการขาดแรงงานด้วยเช่นเดียวกัน
ข้อมูลประกอบการวิเคราะห์ทางเทคนิค (5H)
แนวต้านสำคัญ: 101.4588, 102.0019, 102.5288
แนวรับสำคัญ: 100.3888, 99.8619, 99.3188
ที่มา: Investing.com
จุดกลับตัว 6 ตุลาคม 2566 14:18 น. GMT+7
ชื่อ | S3 | S2 | S1 | จุดกลับตัว | R1 | R2 | R3 |
Classic | 99.3188 | 99.8619 | 100.3888 | 100.9319 | 101.4588 | 102.0019 | 102.5288 |
Fibonacci | 99.8619 | 100.2706 | 100.5232 | 100.9319 | 101.3406 | 101.5932 | 102.0019 |
Camarilla | 100.6214 | 100.7194 | 100.8175 | 100.9319 | 101.0137 | 101.1118 | 101.2099 |
Woodie's | 99.3106 | 99.8578 | 100.3806 | 100.9278 | 101.4506 | 101.9978 | 102.5206 |
DeMark's | - | - | 100.6603 | 101.0677 | 101.7303 | - | - |
Buy/Long 2: หากสามารถเบรกแนวต้านที่ช่วงราคา 101.4588 - 102.0019 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 102.5288 และ SL ที่ประมาณ 99.8619 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้
Sell/Short 1: หากมีการแตะแนวต้านที่ช่วงราคา 101.4588 - 102.0019 แต่ไม่สามารถเบรกแนวต้านที่ 101.4588 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 99.8619 และ SL ที่ประมาณ 102.5288 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้
Sell/Short 2: หากสามารถเบรกแนวรับที่ช่วงราคา 99.8619 - 100.3888 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 99.3188 และ SL ที่ประมาณ 102.0019 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้
ตัวชี้วัดทางเทคนิค 6 ตุลาคม 2566 14:18 น. GMT+7
ชื่อ | มูลค่า | Action |
RSI(14) | 85.444 | ซื้อมากเกินไป |
STOCH(9,6) | 53.123 | ถือหุ้นไว้ |
STOCHRSI(14) | 93.959 | ซื้อมากเกินไป |
MACD(12,26) | 0.817 | ซื้อ |
ADX(14) | 37.815 | ซื้อ |
Williams %R | -25.191 | ซื้อ |
CCI(14) | 194.2234 | ซื้อ |
ATR(14) | 0.3440 | ผันผวนน้อยลง |
Highs/Lows(14) | 0.8016 | ซื้อ |
Ultimate Oscillator | 59.116 | ซื้อ |
ROC | 1.593 | ซื้อ |
Bull/Bear Power(13) | 1.9759 | ซื้อ |
ซื้อ:8 ขาย:0 ถือหุ้นไว้:1 สรุป:ซื้อทันที |