หุ้นเอเชียพุ่งขึ้นในวันอังคารโดยหุ้นญี่ปุ่นพุ่งแตะระดับสูงสุดในรอบ 29 ปี เนื่องจากหวังว่าจะมีการขยายแพ็คเกจบรรเทาทุกข์จากการระบาดของโรคระบาดของสหรัฐที่รอคอยมานานและข้อตกลงการค้า Brexit ช่วยให้นักลงทุนต้องการความเสี่ยง

Nikkei ของญี่ปุ่นพุ่งขึ้น 0.9% สู่ระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนมีนาคม 1991 ในขณะที่หุ้นของออสเตรเลียเพิ่มขึ้น 0.7% และฟิวเจอร์สของ S&P 500 เพิ่มขึ้น 0.3%

SET ไทยย่อตัวลงเล็กน้อยมาอยู่ที่ 1,452.67 ในช่วงเช้า หลังเมื่อเย็นวานมีการเทขายหุ้น บริษัทเดลต้า(BK:DELTA) ร่วงลงกว่า 124 จุด หรือคิดเป็น 18%

สภาผู้แทนราษฎรแห่งสหรัฐอเมริกาได้ลงมติก่อนหน้านี้เพื่อเพิ่มการจ่ายเงินกระตุ้นเศรษฐกิจให้กับชาวอเมริกันที่มีคุณสมบัติเหมาะสมเป็น 2,000 ดอลลาร์จาก 600 ดอลลาร์ส่งมาตรการดังกล่าวไปยังวุฒิสภาเพื่อลงคะแนนเสียง

แม้ว่าจะไม่มีความชัดเจนว่ามาตรการดังกล่าวจะส่งผลอย่างไรในวุฒิสภา แต่ประธานาธิบดีโดนัลด์ทรัมป์ลงนามเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ถือเป็นแพคเกจใหญ่มูลค่า 2.3 ล้านล้านดอลลาร์ ซึ่งรวมถึงการจ่ายเงิน 600 ดอลลาร์ให้ครัวเรือน ส่งหุ้นในวอลล์สตรีททำสถิติสูงสุดในชั่วข้ามคืน

ความต้องการที่เพิ่มขึ้นสำหรับสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงทำให้เงินดอลลาร์สหรัฐซึ่งมักถูกมองว่าเป็นสินทรัพย์ที่ "หลบภัย" ลดลง 0.02% เมื่อเทียบกับตะกร้าสกุลเงินหลัก

สเตอร์ลิงอ่อนตัวลงเหลือ 1.3462 ดอลลาร์ จากการยืนยันเมื่อสัปดาห์ที่แล้วเกี่ยวกับข้อตกลงการค้าระหว่างสหราชอาณาจักร - สหภาพยุโรป 

ดอลลาร์ที่ซบเซาหนุนราคาทองคำซึ่งเพิ่มขึ้น 0.4% สู่ 1,878.76 ดอลลาร์ต่อออนซ์ 

ราคาน้ำมันฟื้นตัวขึ้นอย่างก้าวกระโดดหลังจากที่ลดลงในชั่วข้ามคืนจากความกังวลหลังการระบาดของโควิด -19 จะทำให้อุปสงค์เชื้อเพลิงอ่อนตัวลง 

น้ำมันดิบ สหรัฐเพิ่มขึ้น 0.48% สู่ 47.85 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล