เศรษฐกิจจีนยังคงน่ากังวลจากการผลิตที่หดตัว
เงินหยวนของจีนแข็งค่าขึ้นแม้ว่าตัวเลขดุลการค้าลดลงเกินกว่าคาดก็ตาม ทั้งนี้ นักลงทุนเชื่อว่าอัตราเงินเฟ้อในจีนจะเริ่มกลับมาเพิ่มขึ้นอีกครั้งภายในปีหน้า รวมถึงรัฐบาลจีนยังได้ประกาศมาตรการการกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งใหม่และคาดว่าจะมีการผ่อนคลายนโยบายทางการเงินต่อไป ในสถานการณ์ปัจจุบัน จีนยังคงน่าเป็นห่วงเนื่องจากกิจกรรมการผลิตในประเทศหดตัวลงและการเกินดุลของดุลบัญชีเดินสะพัดได้มีการลดลงต่อเนื่อง
การเกินดุลการค้าของจีนในเดือนตุลาคมลดลงอย่างมีนัยสำคัญ เหลือเพียง 56.53 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ จาก 82.35 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา เนื่องจากการส่งออกลดลงเกินกว่าคาด ซึ่งสวนทางกลับการนำเข้าที่เพิ่มขึ้นถึง 3.0% คิดเป็น 218.3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ทั้งนี้ การนำเข้าที่เพิ่มขึ้นก็เป็นไปตามวัตถุประสงค์ของรัฐบาลที่ได้กระตุ้นอุปสงค์ภายในประเทศ
ด้านการส่งออกของจีนลดลงถึง 6.4% เมื่อเทียบเป็นรายปี คิดเป็น 274.83 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งเป็นการลดลงมากกว่าที่ตลาดคาดไว้ที่ 4.8% แสดงให้เห็นถึงอุปสงค์ที่อ่อนแอจากต่างประเทศ โดยที่การเกินดุลการค้ากับสหรัฐฯ ลดลงเหลือ 30.82 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ แต่พบว่าการส่งออกไปยังรัสเซียเพิ่มขึ้นอย่างมากถึง 17% และสินค้าส่งออกส่วนใหญ่่ยังคงเป็นแร่โลหะและแร่หายาก
PMI ภาคการผลิตลดลงเหลือ 49.5 ซึ่งลดลงมากกว่าการคาดการณ์ของตลาดที่ 50.8 แสดงให้เห็นถึงการหดตัวครั้งแรกในภาคการผลิตตั้งแต่เดือนกรกฎาคม เนื่องจากคำสั่งซื้อใหม่ที่มีการเติบโตเพียงเล็กน้อยและกำลังการผลิตที่ยังไม่ฟื้นตัวเต็มกำลัง อีกทั้งต้นทุนการผลิตที่เพิ่มขึ้นส่งผลให้ราคาสินค้าสูงขึ้นและภาวะเศรษฐกิจโลกที่ซบเซา ทำให้ยอดขายในต่างประเทศลดลงเป็นเดือนที่ 4 ติดต่อกันและมีแนวโน้มที่จะลดลงต่อเนื่อง โดยยังคงมีความกังวลเรื่องต้นทุนวัตถุดิบจากราคาน้ำมันที่สูงขึ้น
PMI ภาคการบริการเพิ่มขึ้นเล็กน้อยเป็น 50.4 โดยส่วนใหญ่ได้รับแรงสนับสนุนมาจากนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศที่เพิ่มขึ้น ทำให้ยอดขายเพิ่มขึ้นตามไปด้วย ทั้งนี้ราคาสินค้าและบริการยังคงเพิ่มสูงขึ้นเนื่องจากราคาวัตถุดิบที่เพิ่มขึ้น ทำให้บริษัทต่างๆ พยายามส่งต่อต้นทุนไปยังลูกค้าและลดต้นทุนให้ได้มากที่สุด ซึ่งส่งผลกับการจ้างงานที่ทรงตัว
อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 10 ปีของจีนลดลงต่ำกว่า 2.7% เนื่องจากตัวเลข PMI ของจีนที่อ่อนแอกว่าที่คาด ทำให้นักลงทุนเกิดความกังวลด้านการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในประเทศ แต่การที่รัฐบาลประกาศมาตรการการกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งใหม่ถือว่าเป็นอีกหนึ่งปัจจัยหลักที่ทำให้ผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลมีการลดลง แต่ก็ส่งผลให้ค่าเงินยังคงอ่อนค่าลงต่อเนื่อง
ข้อมูลประกอบการวิเคราะห์ทางเทคนิค (5H)
แนวต้านสำคัญ: 7.2851, 7.2862, 7.2871
แนวรับสำคัญ: 7.2831, 7.2822, 7.2810
ที่มา: Investing.com
จุดกลับตัว 7 พฤศจิกายน 2566 21:58 น. GMT+7
ชื่อ | S3 | S2 | S1 | จุดกลับตัว | R1 | R2 | R3 |
Classic | 7.2810 | 7.2822 | 7.2831 | 7.2842 | 7.2851 | 7.2862 | 7.2871 |
Fibonacci | 7.2822 | 7.2829 | 7.2834 | 7.2842 | 7.2850 | 7.2855 | 7.2862 |
Camarilla | 7.2834 | 7.2836 | 7.2838 | 7.2842 | 7.2842 | 7.2844 | 7.2846 |
Woodie's | 7.2810 | 7.2822 | 7.2831 | 7.2842 | 7.2851 | 7.2862 | 7.2871 |
DeMark's | - | - | 7.2826 | 7.2840 | 7.2847 | - | - |
Buy/Long 2: หากสามารถเบรกแนวต้านที่ช่วงราคา 7.2851 - 7.2862 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 7.2871 และ SL ที่ประมาณ 7.2822 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้
Sell/Short 1: หากมีการแตะแนวต้านที่ช่วงราคา 7.2851 - 7.2862 แต่ไม่สามารถเบรกแนวต้านที่ 7.2851 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 7.2822 และ SL ที่ประมาณ 7.2871 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้
Sell/Short 2: หากสามารถเบรกแนวรับที่ช่วงราคา 7.2822 - 7.2831 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 7.2810 และ SL ที่ประมาณ 7.2862 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้
ตัวชี้วัดทางเทคนิค 7 พฤศจิกายน 2566 21:58 น. GMT+7
ชื่อ | มูลค่า | Action |
RSI(14) | 35.264 | ขาย |
STOCH(9,6) | 23.460 | ขาย |
STOCHRSI(14) | 56.392 | ซื้อ |
MACD(12,26) | -0.010 | ขาย |
ADX(14) | 41.355 | ขาย |
Williams %R | -67.430 | ขาย |
CCI(14) | -49.3205 | ถือหุ้นไว้ |
ATR(14) | 0.0070 | ผันผวนสูง |
Highs/Lows(14) | -0.0070 | ขาย |
Ultimate Oscillator | 44.793 | ขาย |
ROC | -0.480 | ขาย |
Bull/Bear Power(13) | -0.0123 | ขาย |
ซื้อ:1 ขาย:9 ถือหุ้นไว้:1 สรุป:ขายทันที |