ตลาดถั่วเหลืองฟื้นตัวด้วยยอดขายส่งออกที่แข็งแกร่ง

ถั่วเหลืองปรับตัวสูงขึ้น 4% ในเดือนนี้ ส่งผลให้ราคาถั่วเหลืองโดยรวมเติบโตถึง 2.78% จากเดือนก่อน โดยการฟื้นตัวครั้งนี้เป็นการฟื้นตัวจากจุดราคาต่ำสุดตั้งแต่เดือนธันวาคม 2021 ขณะที่ที่ผ่านมาราคาถั่วเหลืองเคลื่อนไหวในทิศทางที่หลากหลาย จากการเปลี่ยนแปลงของราคาสัญญาใกล้เคียงและสัญญาถัดไปไป โดยได้แรงหนุนจากปัจจัยต่างๆ เช่น การส่งออกไปยังจีน และสภาพอากาศที่ไม่แน่นอนในอเมริกาใต้

ทางด้านทิศทางราคากากถั่วเหลืองยังหลากหลาย ในขณะที่ราคาน้ำมันถั่วคงที่ไปจนถึงปรับสูงขึ้นปานกลาง โดยได้แรงหนุนจากการคาดการณ์อุปสงค์

กระทรวงเกษตรของสหรัฐอเมริกา (USDA) รายงานยอดขายส่งออกใหม่จำนวนมากไปยังจีนและจุดหมายปลายทางที่ไม่เปิดเผยสำหรับการส่งมอบปี 2023/24 รวมเป็น 1,145,500 ตัน ซึ่งในจำนวนนี้ พบการสั่งซื้อโดยตรงจำนวน 669,000 ตันจากจีน ในขณะที่ส่วนที่เหลืออีก 464,500 ตันถูกซื้อโดยผู้ซื้อที่ไม่ระบุนาม ซึ่งคาดว่าอาจเป็นจุดหมายปลายทางที่จีนเช่นเดียวกัน

ในอเมริกาใต้ สภาพอากาศในบราซิลมีความหลากหลาย โดยบางพื้นที่เพาะปลูกพบความชื้นสูง ในขณะที่บางแห่งเผชิญกับความแห้งแล้ง ทางด้านพื้นที่เพาะปลูกบางส่วนของอาร์เจนตินาได้รับปริมาณน้ำฝนที่มากขึ้น แม้ว่าจะยังคงอยู่ในช่วงต้นฤดูกาลเพาะปลูกในอเมริกาใต้ ส่งผลให้นักวิเคราะห์มีมุมมองเชิงบวกเกี่ยวกับการปลูกถั่วเหลืองที่อาจทำลายสถิติอีกครั้งในบราซิล และการฟื้นตัวในอาร์เจนตินาหลังจากความเสียหายจากภัยแล้งเมื่อฤดูกาลที่แล้ว

บราซิลได้ส่งออกถั่วเหลืองไปยังประเทศจีนมากกว่าปริมาณของปีที่แล้ว ในขณะที่จีนได้เพิ่มการซื้อถั่วเหลืองจากบราซิลอย่างมีนัยสำคัญ ส่งผลให้บทบาทของสหรัฐอเมริกาในฐานะซัพพลายเออร์รายใหญ่สำหรับตลาดอาหารสัตว์ของจีนลดน้อยลง

อย่างไรก็ดี การนำเข้าถั่วเหลืองของจีนในปีการเกษตร 2022-23 อยู่ที่ 100.86 ล้านตัน ซึ่งมีสาเหตุหลักมาจากอุปสงค์ที่แข็งแกร่ง โดยความต้องการกากถั่วเหลืองในภาคสุกรและสัตว์ปีก รวมถึงความต้องการน้ำมันพืชที่เพิ่มขึ้นในภาคอาหาร ส่งผลให้มีการนำเข้าเพิ่มขึ้น โดย FAS คาดว่าการนำเข้าในปี 2023-24 จะสูงถึง 100 ล้านตัน สะท้อนให้เห็นถึงความพยายามของจีนในการกระจายแหล่งนำเข้าถั่วเหลืองและกระตุ้นการผลิตอาหารสัตว์ในประเทศ

โดยความพยายามของจีนในการสนับสนุนการเพาะปลูกถั่วเหลืองภายในประเทศผ่านนโยบายต่างๆ ถือเป็นเครื่องมือสำคัญในการรักษาระดับผลผลิตทางการเกษตรอย่างยั่งยืน ซึ่งผลผลิตถั่วเหลืองคาดว่าจะสูงถึง 19.7 ล้านตันในปี 2023-24 ในขณะที่การบริโภคภายในประเทศคาดว่าจะเพิ่มขึ้นเป็น 118.2 ล้านตันในช่วงเวลาเดียวกัน

ในสหภาพยุโรป การนำเข้าถั่วเหลืองสำหรับฤดูกาล 2023/24 สูงถึง 3.83 ล้านตันในต้นเดือนพฤศจิกายน ซึ่งต่ำกว่าปีก่อนเล็กน้อย ในขณะที่การนำเข้าเรพซีดและน้ำมันปาล์มลดลง รวมถึงการนำเข้ากากถั่วเหลืองยังคงค่อนข้างคงที่

ในตลาดฟิวเจอร์ส นักลงทุนตอบสนองต่อการเคลื่อนไหวของราคาถั่วเหลืองด้วยการปรับเปลี่ยนสถานะซื้อและขายในตลาด ส่งผลให้สถานะซื้อลดลง 31,510 สัญญา เหลือ 103,628 สัญญา และถือเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ปี 2010 ขณะที่สถานะขายลดลง 11,316 สัญญา เหลือสัญญาทั้งหมด 87,368 สัญญา โดยหากราคาถั่วเหลืองปรับตัวดีอย่างต่อเนื่อง อาจส่งผลให้สถานะขายลดลงมากขึ้น และผลักดันราคาถั่วเหลืองให้สูงขึ้นอีกได้ แม้จะยังคงมีความเสี่ยงจากปริมาณอุปทานทั่วโลกที่อาจเพิ่มมากขึ้น ท่ามกลางอุปสงค์ที่คงที่หรือเพิ่มขึ้นเพียงเล็กน้อย ซึ่งอาจเพิ่มแรงกดดันต่อราคาถั่วเหลืองในระยะนี้ได้

ข้อมูลประกอบการวิเคราะห์ทางเทคนิค (5H) CFD US Soybeans Futures - Jan 24 (ZSF4)

แนวต้านสำคัญ : 1366.99, 1367.72, 1368.92

แนวรับสำคัญ : 1364.59, 1363.86, 1362.66  

5H Outlook

ที่มา: Investing.com  

Buy/Long 1 หากมีการแตะแนวรับที่ช่วงราคา 1356.59 - 1364.59 แต่ไม่สามารถเบรกแนวรับที่ 1364.59 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 1367.83 และ SL ที่ประมาณ 1352.00 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้

Buy/Long 2 หากสามารถเบรกแนวต้านที่ช่วงราคา 1366.99 - 1374.99 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 1377.5 และ SL ที่ประมาณ 1360.00 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้                 

Sell/Short 1 หากมีการแตะแนวต้านที่ช่วงราคา 1366.99 - 1374.99 แต่ไม่สามารถเบรกแนวต้านที่ 1366.99 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 1364.59 และ SL ที่ประมาณ 1379.00 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้

Sell/Short 2 หากสามารถเบรกแนวรับที่ช่วงราคา 1356.59 - 1364.59 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 1350.00 และ SL ที่ประมาณ 1371.00 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้

Pivot Points Nov 9, 2023 10:10AM GMT+7