ตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ : ข้าวโพด วันที่ 16 พฤศจิกายน 2566

Create at 11 months ago (Nov 16, 2023 10:02)

ตลาดข้าวโพดชะลอตัวท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงภูมิทัศน์โลกและต้นทุนที่ลดลง

ตลาดข้าวโพดล่าสุด เผชิญแรงกดดันจากการขายทำกำไรและการขายทางเทคนิค ท่ามกลางความกังวลจากความล่าช้าในการปลูกถั่วเหลืองในบราซิล ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อการปลูกข้าวโพดพืชที่สอง ขณะที่ตลาดติดตามการพยากรณ์อากาศอย่างใกล้ชิด โดยคาดหวังถึงปริมาณฝนในพื้นที่แห้งแล้งที่จะเข้าช่วยเร่งการเพาะปลูกได้

ทั้งนี้ สภาพการเพาะปลูกดีขึ้นในพื้นที่บางส่วนของอาร์เจนตินาเนื่องจากปริมาณฝนที่ผ่านมา ขณะที่ความสนใจมุ่งไปที่การเก็บเกี่ยวช่วงสุดท้ายในสหรัฐฯ หลังจากตลาดสังเกตญี่ปุ่นที่สั่งซื้อข้าวโพดสหรัฐฯ จำนวน 124,000 ตันอย่างต่อเนื่องติดต่อกันสามวัน นอกจากนี้ สำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานของสหรัฐฯ (EIA) รายงานถึงการผลิตเอทานอลที่เพิ่มขึ้น ส่งผลให้มีการใช้ข้าวโพดเพิ่มขึ้น

แนวโน้มข้าวโพดของสหรัฐฯ ล่าสุดในปี 2023/24 แสดงให้เห็นถึงการเพาะปลูก การใช้ในประเทศ การส่งออก และสต๊อกคงคลังที่มากขึ้น โดยผลผลิตข้าวโพดคาดว่าจะเพิ่มขึ้นจากเดือนก่อน ซึ่งเป็นผลมาจากผลผลิตต่อเอเคอร์ที่เพิ่มขึ้น และนอกจากปริมาณอุปทานที่มากขึ้น การนำข้าวโพดไปใช้เป็นอาหารสัตว์และการใช้กากข้าวโพดเพิ่มขึ้น 50 ล้านบุชเชล ขณะที่ข้าวโพดที่ใช้ในการผลิตเอทานอลเพิ่มขึ้น 25 ล้านบุชเชล การส่งออกเพิ่มขึ้น 50 ล้านบุชเชล ท่ามกลางสต๊อกข้าวโพดคงคลังที่เพิ่มขึ้น 45 ล้านบุชเชล ขณะที่ราคาข้าวโพดเฉลี่ยตามฤดูกาลที่เกษตรกรได้รับลดลง 10 เซนต์ เหลือ 4.85 ดอลลาร์ต่อบุชเชล

ทางด้านตลาดโลกคาดว่าผลผลิตเมล็ดพันธุ์พืชหยาบในปี 2023/24 จะเพิ่มขึ้น 4.8 ล้านตัน โดยแนวโน้มธัญพืชหยาบในต่างประเทศในช่วงเวลาเดียวกันบ่งชี้ถึงผลผลิต การค้า และสต็อกคงเหลือที่เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า ซึ่งผลผลิตข้าวโพดจากต่างประเทศคาดว่าจะเพิ่มขึ้นในยูเครน รัสเซีย พม่า และปารากวัย ชดเชยผลผลิตบางส่วนที่ลดลงในเม็กซิโก อียิปต์ และอินโดนีเซีย ขณะที่การเปลี่ยนแปลงในการค้าโลกที่สำคัญ ได้แก่ การส่งออกข้าวโพดที่มีมากขึ้นจากสหรัฐอเมริกา รัสเซีย ตุรกี ยูเครน และปารากวัย ท่ามกลางการนำเข้าข้าวโพดที่เพิ่มขึ้นในแคนาดา อียิปต์ เม็กซิโก สหภาพยุโรป และซาอุดีอาระเบีย และนำเข้าลดลงในอิหร่านและบังคลาเทศ โดยพบสต็อกข้าวโพดในต่างประเทศสูงขึ้นในยูเครน ปารากวัย และจีน และลดลงในอิหร่าน ส่งผลให้สต็อกข้าวโพดทั่วโลกอยู่ที่ 315.0 ล้านตัน เพิ่มขึ้น 2.6 ล้านตัน

นอกจากนี้ USDA คาดว่าต้นทุนเฉลี่ยในการปลูกข้าวโพด 1 เอเคอร์จะลดลงในปี 2024 โดยมีสาเหตุหลักมาจากค่าใช้จ่ายปุ๋ยที่ลดลง โดยต้นทุนสำหรับการปลูกข้าวโพดหนึ่งเอเคอร์ในปี 2024 คาดว่าจะอยู่ที่ 856.43 ดอลลาร์ ลดลงจาก 888.23 ดอลลาร์ต่อเอเคอร์ในปี 2023 และ 926.82 ดอลลาร์ในปี 2022 ซึ่งมีสาเหตุมาจากต้นทุนการดำเนินงานที่ลดลงของปุ๋ย เคมีภัณฑ์ และเมล็ดพันธุ์พืช ที่ได้ช่วยชดเชยราคาที่เพิ่มขึ้นเล็กน้อยใน ค่าเชื้อเพลิง ดอกเบี้ยการดำเนินงาน และค่าโสหุ้ยที่สูงขึ้น ส่งผลให้ต้นทุนโดยประมาณของปุ๋ยสำหรับการเพาะปลูกข้าวโพดลดลงจาก 225.78 ดอลลาร์ต่อเอเคอร์ในปี 2022 เหลือ 189.55 ดอลลาร์ในปี 2023 และคาดว่าจะลดลงอีกมาอยู่ที่ 156.92 ดอลลาร์ต่อเอเคอร์ในปี 2024

ทั้งนี้ แม้ว่าเกษตรกรจะได้รับการบรรเทาด้านต้นทุนการเพาะปลูกเล็กน้อย แต่ค่าใช้จ่ายโดยรวมยังคงสูง โดยสำหรับปี 2023 จุดคุ้มทุนโดยเฉลี่ยของข้าวโพดอยู่ที่ 5.08 ดอลลาร์ต่อบุชเชล ซึ่งสูงกว่าราคาเฉลี่ยของประเทศที่ 4.54 ดอลลาร์ต่อบุชเชล (ราคา ณ วันที่ 14 พฤศจิกายน) ขณะที่ต้นทุนที่ไม่ใช่ที่ดินยังคงอยู่ใกล้ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ โดยมีการประมาณการค่าใช้จ่ายที่ 808 ดอลลาร์สหรัฐฯ สำหรับการเพาะปลูกข้าวโพดหนึ่งเอเคอร์บนพื้นดินที่ให้ผลผลิตสูงในรัฐอิลลินอยส์ตอนกลางในปี 2024 เทียบกับค่าเฉลี่ยที่ 594 ดอลลาร์ต่อเอเคอร์ในช่วงปี 2014-2019

อย่างไรก็ดี ราคาในตลาดสินค้าโภคภัณฑ์การเกษตรและอาหารทั่วโลกคาดว่าจะถอยจากระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในปี 2024 หลังจากความผันผวนตลอดสามปีจากสงคราม สภาพอากาศ และต้นทุนพลังงานและวัตถุดิบที่เพิ่มขึ้น โดยจากรายงานแนวโน้มตลาดสินค้าโภคภัณฑ์เกษตรประจำปีของ Rabobank คาดการณ์ว่าราคาสินค้าเกษตรจะลดลง ซึ่งอาจช่วยบรรเทาอัตราเงินเฟ้อของราคาอาหาร โดยแม้จะมีการผ่อนปรนทางด้านราคาและอุปทาน แต่ Rabobank คาดว่าการเติบโตทางเศรษฐกิจจะอ่อนแอในปี 2024 ซึ่งจะจำกัดการเติบโตของอุปสงค์สินค้าเกษตรได้

ข้อมูลประกอบการวิเคราะห์ทางเทคนิค (5H) CFD US Corn Futures - Dec 23 (ZCZ3)

แนวต้านสำคัญ : 471.76, 472.06, 472.53

แนวรับสำคัญ : 470.82, 470.52, 470.05        

5H Outlook   

ีราคาข้าวโพด ที่มา: Investing.com                                                           

Buy/Long 1 หากมีการแตะแนวรับที่ช่วงราคา 468.82 - 470.82 แต่ไม่สามารถเบรกแนวรับที่ 470.82 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 471.76 และ SL ที่ประมาณ 467.82 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้

Buy/Long 2 หากสามารถเบรกแนวต้านที่ช่วงราคา 471.76 - 473.76 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 475.00 และ SL ที่ประมาณ 470.00 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้                 

Sell/Short 1 หากมีการแตะแนวต้านที่ช่วงราคา 471.76 - 473.76 แต่ไม่สามารถเบรกแนวต้านที่ 471.76 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 470.46 และ SL ที่ประมาณ 474.76 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้

Sell/Short 2 หากสามารถเบรกแนวรับที่ช่วงราคา 468.82 - 470.82 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 463.00 และ SL ที่ประมาณ 473.00 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้

Pivot Points Nov 16, 2023 09:25AM GMT+7

Name
S3
S2
S1
Pivot Points
R1
R2
R3
Classic 469.22 470.05 470.46 471.29 471.7 472.53 472.94
Fibonacci 470.05 470.52 470.82 471.29 471.76 472.06 472.53
Camarilla 470.54 470.65 470.77 471.29 470.99 471.11 471.22
Woodie's 469.02 469.95 470.26 471.19 471.5 472.43 472.74
DeMark's - - 470.26 471.19 471.5 - -

Sources: Progressive FarmerWorld Grain

______________________________
อัพเกรดความรู้เพิ่มเติม: Blog
รู้เท่าทันข่าว&สถานการณ์โลก: News
บทวิเคราะห์เชิงเทคนิคขั้นสูง: Analysis
Tags:

TECHNICAL ANALYSIS

ARTICLES