อัตราเงินเฟ้อแคนาดาลดลง BoC ภายใต้แรงกดดัน

ในแคนาดา อัตราเงินเฟ้อรายปีสำหรับเดือนตุลาคมลดลงมากกว่าคาด แตะ 3.1% ในขณะที่มาตรวัดอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานบันทึกระดับต่ำสุดในรอบเกือบสองปี อาจส่งผลให้ธนาคารแห่งประเทศแคนาดา (BoC) ซึ่งตั้งเป้าหมายอัตราเงินเฟ้อต่อปีที่ 2% อาจเผชิญกับแรงกดดันที่เพิ่มขึ้นในการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายปัจจุบันจากระดับสูงสุดในรอบ 22 ปีที่ 5.00%  ซึ่งถึงแม้ว่าจะมีการตรึงอัตราดอกเบี้ยในการประชุมสองครั้งล่าสุด แต่ BoC ยังคงเปิดกว้างต่อการปรับอัตราขึ้นอีกในอนาคต โดยคาดว่าอัตราเงินเฟ้อจะอยู่ที่ประมาณ 3.5% จนถึงกลางปี 2567 ก่อนที่จะสามารถบรรลุเป้าหมาย 2% ได้ในปลายปี 2568

ทั้งนี้ การชะลอตัวของอัตราเงินเฟ้อรายปีในเดือนตุลาคมของแคนาดาได้รับอิทธิพลจากราคาน้ำมันที่ลดลง 7.8% เมื่อเปรียบเทียบกับราคาน้ำมันที่พุ่งขึ้นในเดือนตุลาคม 2022 ขณะที่ราคาของชำเร่งตัวในอัตราที่ช้าที่สุดนับตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2021

อย่างไรก็ดี แม้อัตราเงินเฟ้อสินค้าจะชะลอตัวลงมาอยู่ที่ 1.6% แต่ดัชนีราคาภาคบริการเร่งตัวขึ้นมาอยู่ที่ 4.6% ซึ่งเป็นการปรับตัวเพิ่มขึ้นที่มากที่สุดนับตั้งแต่เดือนพฤษภาคม โดย BoC จะประกาศมติเกี่ยวกับอัตราดอกเบี้ยนโยบายในวันที่ 6 ธันวาคมนี้ หลังจากการเปิดเผยข้อมูล GDP ในไตรมาสที่สาม ซึ่งจะส่งผลกระทบสำคัญ หลังจากมีการคาดการณ์ว่าเศรษฐกิจแคนาดาอาจเข้าสู่ภาวะถดถอยเล็กน้อย

ในขณะเดียวกัน ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ เผชิญกับแรงกดดันเมื่อเทียบกับตะกร้าสกุลเงินหลักอื่นๆ จากข่าวกิจกรรมทางธุรกิจของสหรัฐฯ ที่ทรงตัวในเดือนพฤศจิกายน ขณะที่การจ้างงานภาคเอกชนลดลงตามที่คาดการณ์ไว้ สะท้อนให้เห็นถึงความคาดหวังที่อาจเกิดการชะลอตัวทางเศรษฐกิจในไตรมาสที่สี่ ซึ่งอาจส่งผลให้ธนาคารกลางสหรัฐฯ ไม่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพิ่มเติมอีกครั้ง และอาจพิจารณาถึงการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในปีหน้า

ทางด้าน S&P Global รายงานว่าดัชนี Composite PMI Output ของสหรัฐฯ ยังคงไม่เปลี่ยนแปลงในเดือนพฤศจิกายน บ่งชี้ถึงกิจกรรมของภาคเอกชนที่ยังคงมีเสถียรภาพ อย่างไรก็ตาม ข้อมูลคาดการณ์ PMI ภาคการผลิตลดลงเหลือ 49.4 และ PMI ภาคบริการเพิ่มขึ้นเป็น 50.8 ส่งผลให้นักวิเคราะห์คาดการณ์ถึงการชะลอตัวลงอย่างมากในกิจกรรมทางเศรษฐกิจโดยรวมในไตรมาสที่สี่ เนื่องจากผลกระทบที่ล่าช้าจากการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งก่อน

นอกจากนี้ หลังจากเศรษฐกิจสหรัฐฯ เติบโตในอัตรา 4.9% ต่อปีในไตรมาสที่สาม ตัวเลขประมาณการการเติบโตสำหรับไตรมาสเดือนตุลาคม-ธันวาคมจึงถูกปรับลดลงมาอยู่ที่ต่ำกว่า 2% โดยดัชนีการจ้างงานจากการสำรวจ S&P Global ลดลงเหลือ 49.7 บ่งชี้ให้เห็นถึงการจ้างงานภาคเอกชนที่หดตัวเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2020 ขณะที่ธุรกิจต่างๆ อ้างถึงระดับอุปสงค์ที่ไม่ชัดเจน และแรงกดดันด้านต้นทุนที่สูงขึ้นในการเป็นเหตุผลในการเลิกจ้าง

ในสัปดาห์นี้ นักลงทุนทั่วโลกจะจับตาดูตัวเลขข้อมูลเงินเฟ้อ การประชุม OPEC+ เกี่ยวกับการลดกำลังการผลิตน้ำมัน และข้อมูลเศรษฐกิจจากประเทศจีนอย่างใกล้ชิด โดยในสหรัฐอเมริกา จุดโฟกัสจะอยู่ที่รายงานอัตราเงินเฟ้อ ที่ตลาดคาดหวังว่าจะส่งสัญญาณบ่งชี้และสนับสนุนการยุติการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ โดยดัชนีราคาค่าใช้จ่ายการบริโภคส่วนบุคคล ซึ่งเป็นมาตรวัดอัตราเงินเฟ้อที่เฟดให้ความสำคัญอย่างมาก คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเพียง 0.1% ในเดือนพฤศจิกายน ในขณะที่อัตราพื้นฐานคาดว่าจะเพิ่มขึ้น 3.5% เมื่อเทียบเป็นรายปี

ทั้งนี้ ข้อมูลเศรษฐกิจอื่นๆ ในระหว่างสัปดาห์นี้จะประกอบไปด้วย ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคในเดือนพฤศจิกายน ตัวเลขแก้ไขครั้งแรกของ GDP ไตรมาส 3 ตัวเลขยอดขายบ้านใหม่ในเดือนตุลาคม รายงานรายสัปดาห์เกี่ยวกับการขอรับสวัสดิการว่างงาน และ Beige Book ของเฟด จึงอาจส่งผลให้ค่าเงินดอลลาร์แคนาดายังคงแนวโน้มถูกกดดัน และปรับตัวขึ้นลงในกรอบบนหรืออ่อนค่ากว่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ได้อีกเล็กน้อยในช่วงนี้ไปจนถึงปลายปี

ข้อมูลประกอบการวิเคราะห์ทางเทคนิค (5H) CFD USD/CAD

แนวต้านสำคัญ : 1.3653, 1.3659, 1.3670

แนวรับสำคัญ : 1.3631, 1.3625, 1.3614                            

5H Outlook

ที่มา: Investing.com  

Buy/Long 1 หากมีการแตะแนวรับที่ช่วงราคา 1.3621 - 1.3631 แต่ไม่สามารถเบรกแนวรับที่ 1.3631 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 1.3660 และ SL ที่ประมาณ 1.3616 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้

Buy/Long 2 หากสามารถเบรกแนวต้านที่ช่วงราคา 1.3653 - 1.3663 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 1.3675 และ SL ที่ประมาณ 1.3626 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้                 

Sell/Short 1 หากมีการแตะแนวต้านที่ช่วงราคา 1.3653 - 1.3663 แต่ไม่สามารถเบรกแนวต้านที่ 1.3653 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 1.3631 และ SL ที่ประมาณ 1.3668 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้

Sell/Short 2 หากสามารถเบรกแนวรับที่ช่วงราคา 1.3621 - 1.3631 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 1.3610 และ SL ที่ประมาณ 1.3658 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้

Pivot Points Nov 27, 2023 10:10AM GMT+7

Sources: Investing 1, Investing 2