ตลาดถั่วเหลืองได้รับอิทธิพลจากความท้าทายของบราซิลและอุปสงค์การส่งออกของสหรัฐฯ

ในตลาดถั่วเหลือง สภาพการเพาะปลูกในบราซิลยังมีอิทธิพลต่อราคา โดยพบการเทขายถั่วเหลือง (Oversold) หลังจากราคาปรับลดลงเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ประกอบกับความล่าช้าในการเพาะปลูกในบราซิล ที่ได้สร้างความกังวลให้กับตลาด แม้ว่าการเพาะปลูกจะเสร็จสมบูรณ์ไปแล้วประมาณ 75% แต่ยังถือว่าอยู่ในอัตราที่ล่าช้ากว่าปกติ ขณะที่ภูมิภาคทางตอนเหนือและตอนกลางของบราซิลเพิ่งได้รับฝนตกเมื่อเร็วๆ นี้ ท่ามกลางปริมาณฝนที่น้อยลงในทางใต้ ซึ่งอาจสร้างความเสียหายแก่การเพาะปลูกได้ ในขณะเดียวกัน อาจมีความจำเป็นในการเพาะปลูกซ้ำในบางพื้นที่สำคัญ ท่ามกลางการรายงานว่าเกษตรกรบางรายกำลังพิจารณาปรับเปลี่ยนการเพาะปลูกจากถั่วเหลืองเป็นฝ้าย ส่งผลให้บริษัทเอกชนหลายแห่งได้ปรับลดประมาณการพืชผลสำหรับบราซิลเนื่องจากปัญหาสภาพอากาศ โดยคาดว่ารายงานอัปเดตแนวโน้มจาก CONAB จะมีกำหนดเผยแพร่ในวันที่ 7 ธันวาคมนี้

ทั้งนี้ ท่ามกลางความท้าทายที่เกิดขึ้น พบว่าตลาดยังมีความต้องการถั่วในสหรัฐฯ อย่างมาก จากการเข้าซื้อถั่วเหลืองเป็นจำนวน 123,000 ตัน จากจุดหมายปลายทางที่ไม่แน่ชัด ขณะที่บราซิลยังคงส่งออกในอัตราที่แข็งแกร่ง โดยคาดว่าจะมีการส่งออกเกิน 5 ล้านตันในเดือนพฤศจิกายน พร้อมกันกับในอาร์เจนตินา ที่เกษตรกรอยู่ในระว่างการระงับการขายเนื่องจากอุปทานที่มีจำกัด โดยคาดว่าจะพบการเปลี่ยนแปลงในนโยบายการค้าและการเงินภายใต้ประธานาธิบดีที่จะเข้ามาดำรงตำแหน่งใหม่

เมื่อมองไปข้างหน้าถึงแนวโน้มถั่วเหลืองของสหรัฐฯ ในปี 2023/24 คาดว่าจะมีผลผลิตและสต็อกคงคลังที่เพิ่มขึ้น โดยผลผลิตถั่วเหลืองคาดว่าจะอยู่ที่ 4.13 พันล้านบุชเชล เพิ่มขึ้น 25 ล้านบุชเชล โดยอาจพบการเปลี่ยนแปลงอย่างเห็นได้ชัดในหลายรัฐ ขณะที่สต็อกคงคลังคาดว่าจะเพิ่มขึ้นเป็น 245 ล้านบุชเชล ท่ามกลางการคาดการณ์อุปสงค์และอุปทานถั่วเหลืองทั่วโลกในปี 2023/24 ที่พบสต็อกเริ่มต้นที่ลดลง ผลผลิตที่สูงขึ้น ปริมาณการบดที่สูงขึ้น และสต็อกคงคลังที่ลดลง โดยผลผลิตที่เพิ่มขึ้นทั่วโลกมีสาเหตุมาจากผลผลิตที่สูงขึ้นในรัสเซีย ยูเครน และสหรัฐอเมริกา

อย่างไรก็ดี สิ่งที่น่าสนใจสำหรับปีการเกษตรปัจจุบันพบว่าอุปทานข้าวโพดของสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นในขณะที่อุปทานถั่วเหลืองลดลง ส่งผลให้ราคาถั่วเหลืองปรับตัวค่อนข้างสูงเมื่อเทียบกับราคาข้าวโพด โดยผู้ผลิต Crop Watch ในนอร์ทดาโคตาตั้งข้อสังเกตว่าถั่วเหลืองอาจมีข้อได้เปรียบด้านผลกำไรมากกว่าข้าวโพดสำหรับแผนการเกษตรในปี 2024 นี้

ทางด้านข่าวเกี่ยวกับเทคโนโลยีชีวภาพ Beijing Dabeinong Technology Group ได้รับการอนุมัติให้ปลูกถั่วเหลืองดัดแปลงพันธุกรรมและทนทานต่อสารกำจัดวัชพืชในบราซิล โดยถั่วเหลืองสายพันธุ์ DBN9004 จะมีความทนทานต่อสารกำจัดวัชพืชทั้งไกลโฟเสตและกลูโฟซิเนต-แอมโมเนียม ซึ่งจะช่วยสามารถแก้ไขปัญหาการควบคุมวัชพืชในการผลิตถั่วเหลืองในอเมริกาใต้ได้

ในขณะที่การคาดการณ์ผลผลิตถั่วเหลืองของบราซิลในปี 2023-24 ได้รับการปรับลดลงเนื่องจากภัยแล้งใน Mato Grosso ซึ่งผลผลิตขณะนี้คาดว่าจะอยู่ที่ 155 ล้านเมตริกตัน

ทางด้านราคาถั่วเหลืองล่วงหน้าในชิคาโกพุ่งขึ้นกว่า 1% ในวันอังคาร เนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับสภาพอากาศที่เลวร้ายในอเมริกาใต้ที่ส่งผลกระทบต่อพืชผล อีกทั้งตลาดยังได้รับแรงสนับสนุนจากยอดขายส่งออกใหม่ของสหรัฐฯ ประกอบกับ USDA ที่ได้ยืนยันยอดขายถั่วเหลืองรวม 123,300 ตันสำหรับการส่งมอบในปี 2023-24 ที่ได้สร้างแรงหนุนเพิ่มเติม

ทั้งนี้ ในช่วงสัปดาห์หลังวันหยุด อุปสงค์ที่ชะลอตัวและการขายทางเทคนิคส่งผลให้ราคาธัญพืชและราคาสัญญาซื้อขายล่วงหน้าถั่วเหลืองโดยรวมปรับตัวลดลง ส่งผลให้ราคาถั่วเหลืองร่วงลงต่ำสุดในรอบ 2 สัปดาห์ จากอิทธิพลของปริมาณฝนในบราซิล โดยราคาถั่วเหลืองเดือนมกราคมปิดที่ประมาณ 13.29 ต่อบุชเชล ขณะที่การวิเคราะห์ทางเทคนิคชี้ให้เห็นแนวโน้มขาลง โดยคาดการณ์ถึงแนวรับเป้าหมายที่ 1311.70 และแนวโน้มราคาที่อาจปรับตัวขึ้นลงต่ำกว่าแนวต้านที่ 1348.30

ข้อมูลประกอบการวิเคราะห์ทางเทคนิค (1H) CFD US Soybeans Futures - Jan 24 (ZSF4)

แนวต้านสำคัญ : 1345.81, 1347.29, 1349.68

แนวรับสำคัญ : 1341.03, 1339.55, 1337.16                 

1H Outlook                 

ที่มา: Investing.com                        

Buy/Long 1 หากมีการแตะแนวรับที่ช่วงราคา 1338.03 - 1341.03 แต่ไม่สามารถเบรกแนวรับที่ 1341.03 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 1346.22 และ SL ที่ประมาณ 1336.50 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้

Buy/Long 2 หากสามารถเบรกแนวต้านที่ช่วงราคา 1345.81 - 1348.81 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 1350.00 และ SL ที่ประมาณ 1339.50 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้                 

Sell/Short 1 หากมีการแตะแนวต้านที่ช่วงราคา 1345.81 - 1348.81 แต่ไม่สามารถเบรกแนวต้านที่ 1345.81 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 1339.96 และ SL ที่ประมาณ 1350.31 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้

Sell/Short 2 หากสามารถเบรกแนวรับที่ช่วงราคา 1338.03 - 1341.03 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 1334.00 และ SL ที่ประมาณ 1347.30 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้

Pivot Points Nov 29, 2023 10:41AM GMT+7