การผลิตและที่อยู่อาศัยในสหราชอาณาจักรพบสัญญาณเชิงบวก
ตามรายงานที่เผยแพร่เมื่อวันศุกร์ การสำรวจล่าสุดเกี่ยวกับภาคการผลิตของสหราชอาณาจักรบ่งชี้ถึงการฟื้นตัวที่อาจเกิดขึ้นหลังจากพบการชะลอตัวอย่างต่อเนื่องที่ผ่านมา ท่ามกลางบริษัทต่างๆ ที่ยังคงใช้ความระมัดระวังในการปรับขึ้นราคา
ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตของ S&P Global/CIPS บันทึกตัวเลขที่ปรับตัวดีขึ้นรายเดือนติดต่อกันเป็นเดือนที่ 3 โดยแตะ 47.2 ในเดือนพฤศจิกายน เมื่อเทียบกับ 44.8 ในเดือนตุลาคม แม้ดัชนีจะยังคงต่ำกว่าเกณฑ์ที่ 50.0 เป็นเดือนที่ 16 ติดต่อกัน แม้ความรุนแรงของการชะลอตัวของผลผลิตและคำสั่งซื้อใหม่จะผ่อนคลายลง แต่ผู้ผลิตยังคงรักษาความระมัดระวังเนื่องจากความไม่แน่นอนของตลาด ซึ่งได้นำไปสู่การสูญเสียงาน สต็อกคงคลังที่ถูกใช้จนหมด และการจัดซื้อลดลง ในขณะที่ต้นทุนวัตถุดิบลดลง แต่ผู้ผลิตกลับขึ้นราคาขายเล็กอีกน้อยเป็นครั้งที่สองในรอบหกเดือนเพื่อชดเชยอัตรากำไร
ในตลาดที่อยู่อาศัย ราคาบ้านในอังกฤษเพิ่มขึ้นอย่างไม่คาดคิดเป็นเดือนที่สามติดต่อกันในเดือนพฤศจิกายน ซึ่งบ่งชี้ถึงการชะลอตัวของตลาดที่อยู่อาศัยที่ปรับตัวดีขึ้น แม้จะยังพบว่ามีการชะลอตัวลงถึง 2% เมื่อเทียบเป็นรายปี แต่ก็เป็นการลดลงน้อยที่สุดในรอบเก้าเดือน โดยตลาดที่อยู่อาศัยซึ่งเฟื่องฟูในช่วงการแพร่ระบาดของโควิด-19 ต้องเผชิญกับความท้าทายจากต้นทุนการกู้ยืมที่สูงขึ้น หลังจากธนาคารแห่งประเทศอังกฤษต้องต่อสู้กับอัตราเงินเฟ้อที่สูงขึ้นในช่วงที่ผ่านมา
ในภาคการค้าปลีก เครือร้านค้าในอังกฤษพบการปรับราคาเพิ่มขึ้นที่ช้าที่สุดในรอบเกือบหนึ่งปีครึ่ง ตามรายงานของ British Retail Consortium โดยอัตราเงินเฟ้อราคาค้าปลีกประจำปีลดลงเหลือ 4.3% ในเดือนพฤศจิกายน ซึ่งต่ำที่สุดนับตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2022 และอัตราเงินเฟ้อราคาอาหารลดลงเหลือ 7.8% ในขณะที่อัตราเงินเฟ้อที่ไม่ใช่อาหารลดลงเหลือ 2.5% ต่อปี ส่งผลให้อัตราเงินเฟ้อของราคาผู้บริโภคโดยรวมในสหราชอาณาจักรอยู่ที่ 4.6% ในเดือนตุลาคมปีนี้ ลดลงจากจุดสูงสุดที่ 11.1% ในเดือนตุลาคม 2022 โดยแม้ว่าธนาคารแห่งประเทศอังกฤษได้ระงับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยชั่วคราว แต่ยังคงระมัดระวังในการปรับลดต้นทุนการกู้ยืมต่อไป
ในบริบทของโลก ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ อ่อนค่าลงหลังจากที่ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ เจอโรม พาวเวลล์ กล่าวถึงความระมัดระวังเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงของอัตราดอกเบี้ยต่อจากนี้ โดยพาวเวลล์ยอมรับว่านโยบายการเงินของสหรัฐฯ ได้ส่งผลให้การเติบโตของเศรษฐกิจชะลอตัวลงตามที่คาดไว้ และส่งผลให้ตลาดคาดหวังว่าเฟดอาจยุติการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยแล้ว
ทั้งนี้ จากข้อมูลแสดงให้เห็นว่าภาคการผลิตของสหรัฐฯ ยังคงอ่อนแอในเดือนพฤศจิกายน โดยการจ้างงานในโรงงานลดลง ซึ่งเป็นหลักฐานบ่งชี้ถึงการชะลอตัวของโมเมนตัมทางเศรษฐกิจ โดยสถาบันการจัดการอุปทาน (ISM) รายงานว่า PMI ภาคการผลิตของสหรัฐฯ ยังคงต่ำกว่าระดับ 50 เป็นเดือนที่ 13 ติดต่อกัน ซึ่งบ่งชี้ถึงภาคการผลิตที่หดตัว ขณะที่ภาคอุตสาหกรรมบางประเภทพบรายงานการเติบโต และบางอุตสาหกรรมอ้างถึงความจำเป็นในการลดระดับสินค้าคงคลัง ท่ามกลางมุมมองเชิงลบของบรรดาผู้ผลิต อย่างไรก็ดี ความอ่อนแอของ PMI ในภาคการผลิตอาจเกินความเป็นจริง เนื่องจากคำสั่งซื้อสินค้าคงทนและการผลิตในโรงงานที่ยังแสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่ง โดยแม้จะพบสัญญาณเหล่านี้ แต่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ก็คาดว่าจะไม่พบภาวะเศรษฐกิจถดถอยในปีหน้า
ในสัปดาห์นี้ นักลงทุนจะจับตาดูรายงานการจ้างงานนอกภาคเกษตรประจำเดือนพฤศจิกายนอย่างใกล้ชิด เพื่อประเมินความยืดหยุ่นของเศรษฐกิจสหรัฐฯ ท่ามกลางอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้น ขณะที่ราคาน้ำมันยังคงมีความผันผวน และการประชุมของธนาคารกลางในออสเตรเลียและแคนาดาอาจช่วยเสริมความเชื่อที่อัตราดอกเบี้ยอาจผ่านถึงจุดสูงสุดแล้ว โดยรายงานการจ้างงานที่แข็งแกร่งอาจขัดขวางความคาดหวังที่เฟดจะผ่อนคลายนโยบายทางการเงินเร็วๆ นี้ ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อตลาดหุ้นและพันธบัตรในไตรมาสที่ 4 ได้ ในทางกลับกัน หากรายงานการจ้างงานอ่อนแอกว่าที่คาด อาจกระตุ้นความกังวลเกี่ยวกับการชะลอตัวของเศรษฐกิจได้ โดยนักวิเคราะห์คาดว่าข้อมูลในวันอังคารจะแสดงให้เห็นถึงการเปิดรับตำแหน่งงานที่เพิ่มขึ้นเล็กน้อย ขณะที่รายงานการขอรับสวัสดิการว่างงานในวันพฤหัสบดีจะถูกจับตามองอย่างใกล้ชิดเกี่ยวกับสัญญาณที่จะบ่งบอกถึงอัตราการว่างงานที่เพิ่มขึ้น จึงอาจส่งผลให้เงินปอนด์ได้รับแรงหนุนเพิ่มเติมได้เพียงเล็กน้อยในช่วงนี้ จากอัตราผลตอบแทนของทั้งสองประเทศที่ใกล้เคียงกัน โดยยังคงถูกกดดันและขึ้นอยู่กับปัจจัยทางเศรษฐกิจของสหรัฐฯ เป็นหลัก
ข้อมูลประกอบการวิเคราะห์ทางเทคนิค (30 Min) CFD GBP/USD
แนวต้านสำคัญ : 1.2686, 1.2687, 1.2690
แนวรับสำคัญ : 1.2680, 1.2679, 1.2676
30Min Outlook
ที่มา: Investing.com
Buy/Long 1 หากมีการแตะแนวรับที่ช่วงราคา 1.2675 - 1.2680 แต่ไม่สามารถเบรกแนวรับที่ 1.2680 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 1.2687 และ SL ที่ประมาณ 1.2672 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้
Buy/Long 2 หากสามารถเบรกแนวต้านที่ช่วงราคา 1.2686 - 1.2691 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 1.2695 และ SL ที่ประมาณ 1.2677 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้
Sell/Short 1 หากมีการแตะแนวต้านที่ช่วงราคา 1.2686 - 1.2691 แต่ไม่สามารถเบรกแนวต้าน 1.2686 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 1.2680 และ SL ที่ประมาณ 1.2694 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้
Sell/Short 2 หากสามารถเบรกแนวรับที่ช่วงราคา 1.2675 - 1.2680 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 1.2672 และ SL ที่ประมาณ 1.2689 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้
Pivot Points Dec 04, 2023 10:09AM GMT+7
Name | S3 | S2 | S1 | Pivot Points | R1 | R2 | R3 |
---|---|---|---|---|---|---|---|
Classic | 1.2673 | 1.2676 | 1.2680 | 1.2683 | 1.2687 | 1.2690 | 1.2694 |
Fibonacci | 1.2676 | 1.2679 | 1.2680 | 1.2683 | 1.2686 | 1.2687 | 1.2690 |
Camarilla | 1.2681 | 1.2682 | 1.2682 | 1.2683 | 1.2684 | 1.2684 | 1.2685 |
Woodie's | 1.2673 | 1.2676 | 1.2680 | 1.2683 | 1.2687 | 1.2690 | 1.2694 |
DeMark's | - | - | 1.2681 | 1.2684 | 1.2688 | - | - |
Sources: Investing 1, Investing 2