GDP ของแคนาดากลับมาติดลบอีกครั้ง
ดอลลาร์แคนาดาแข็งค่าขึ้นอย่างต่อเนื่องในสัปดาห์ที่ผ่านมาและอ่อนค่าลงสู่ระดับประมาณ 1.35 ดอลลาร์แคนาดาต่อดอลลาร์สหรัฐฯ ในวันนี้ โดยนักลงทุนยังคงกังวลเรื่องอุปทานน้ำมันที่ลดลง โดยทาง OPEC ได้จะตัดสินใจลดกำลังการผลิตรายวันเพิ่มเติมอีกล้านบาร์เรล ซึ่งจะส่งผลดีต่อการส่งออกของแคนาดาและช่วยสนับสนุนเศรษฐกิจที่อาจชะลอตัวในอนาคต ซึ่งแสดงให้เห็นจาก GDP ของแคนาดาที่กลับมาหดตัวอีกครั้ง
GDP ของแคนาดาหดตัว 0.3% ในไตรมาสที่ 3 นับเป็นการลดลงครั้งแรกนับตั้งแต่ไตรมาสที่ 2 ของปี 2021 โดยอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้นเริ่มส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจของแคนาดาในระดับที่สูงขึ้น อีกทั้งแคนาดายังได้รับแรงกดดันจากการส่งออกสินค้าและบริการที่ลดลง 1.3% ซึ่งเกิดจากการกลั่นปิโตรเลียมที่ลดลงถึง 25.4% ในขณะที่การนำเข้าสินค้าและบริการลดลงเพียง 0.2% เท่านั้น ในขณะที่การใช้จ่ายของภาคครัวเรือนมีการลดลงเช่นเดียวกัน
อัตราการว่างงานในแคนาดาเพิ่มขึ้นเป็น 5.8% ในเดือนพฤศจิกายน ซึ่งสอดคล้องกับการคาดการณ์ของตลาด นับเป็นอัตราการว่างงานสูงสุดตั้งแต่ปี 2022 โดยจำนวนผู้ว่างงานเพิ่มขึ้น 11,000 คนเป็น 1.24 ล้านคน ในขณะเดียวกัน การจ้างงานเพิ่มขึ้น 24,900 คนเป็น 20.31 ล้านคน ทั้งนี้ การจ้างงานสำหรับกลุ่มประชากรอายุน้อยที่มีอายุตั้งแต่ 15-24 ปี มีอัตราการว่างงานเพิ่มขึ้นอย่างมากที่ 11.6%
แม้ว่าอัตราการว่างงานจะเพิ่มสูงขึ้นในหลายภาคส่วน แต่ค่าแรงขั้นต่ำและรายได้เฉลี่ยต่อเดือนมีการเพิ่มขึ้นเล็กน้อย ในขณะเดียวกันมีข้อมูลที่บ่งบอกถึงการจ้างงานที่เป็นการจ้างงานเต็มเวลาเพิ่มขึ้นอย่างมาก แสดงให้เห็นว่าเศรษฐกิจของแคนาดาอาจไม่ได้แย่อย่างที่คิด
PMI ภาคการผลิตเพิ่มขึ้นเป็น 47.7 ในเดือนพฤศจิกายน แต่ยังถือว่าอยู่ในโซนที่ชะลอตัวลง โดยผลผลิตที่สามารถทำได้และคำสั่งซื้อใหม่มีการปรับลดลง อีกทั้งยอดขายลดลงอย่างรวดเร็วที่สุดนับตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2022 เนื่องจากอุปสงค์ลดลงจากความขัดแย้งที่เกิดขึ้น ทั้งนี้ การจ้างงานเพิ่มขึ้นเล็กน้อยโดยได้รับแรงหนุนจากการคาดการณ์การเติบโตและความเชื่อมั่นที่มีมุมมองในเชิงบวกมากขึ้นในอนาคต
อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลแคนาดาอายุ 10 ปีลดลงต่ำกว่า 3.5% ซึ่งแตะระดับต่ำสุดในรอบ 2 เดือน เนื่องจากสัญญาณของการชะลอตัวทางเศรษฐกิจทำให้นักลงทุนเริ่มมีความคาดหวังว่าธนาคารแห่งแคนาดาจะผ่อนคลายนโยบายทางการเงินเร็วขึ้น โดยมีคาดการณ์ว่า BoC จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในช่วงครึ่งแรกของปี 2024 ทางด้าน Jerome Powell ซึ่งเป็นประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ ยังไม่มีการพูดถึงการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเร็วๆ นี้
ข้อมูลประกอบการวิเคราะห์ทางเทคนิค (5H)
แนวต้านสำคัญ: 1.3553, 1.3568, 1.3586
แนวรับสำคัญ: 1.3519, 1.3500, 1.3486
จุดกลับตัว 4 ธันวาคม 2566 19:36 น. GMT+7
| ชื่อ | S3 | S2 | S1 | จุดกลับตัว | R1 | R2 | R3 |
| Classic | 1.3486 | 1.3500 | 1.3519 | 1.3534 | 1.3553 | 1.3568 | 1.3586 |
| Fibonacci | 1.3500 | 1.3513 | 1.3521 | 1.3534 | 1.3547 | 1.3555 | 1.3568 |
| Camarilla | 1.3530 | 1.3533 | 1.3536 | 1.3534 | 1.3542 | 1.3545 | 1.3548 |
| Woodie's | 1.3488 | 1.3501 | 1.3521 | 1.3535 | 1.3555 | 1.3569 | 1.3588 |
| DeMark's | - | - | 1.3527 | 1.3538 | 1.3560 | - | - |
Buy/Long 1: หากมีการแตะแนวรับที่ช่วงราคา 1.3500 - 1.3519 แต่ไม่สามารถเบรกแนวรับที่ 1.3519 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 1.3568 และ SL ที่ประมาณ 1.3486 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้
Buy/Long 2: หากสามารถเบรกแนวต้านที่ช่วงราคา 1.3553 - 1.3568 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 1.3586 และ SL ที่ประมาณ 1.3500 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้
Sell/Short 1: หากมีการแตะแนวต้านที่ช่วงราคา 1.3553 - 1.3568 แต่ไม่สามารถเบรกแนวต้านที่ 1.3553 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 1.3500 และ SL ที่ประมาณ 1.3586 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้
Sell/Short 2: หากสามารถเบรกแนวรับที่ช่วงราคา 1.3500 - 1.3519 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 1.3486 และ SL ที่ประมาณ 1.3568 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้
ตัวชี้วัดทางเทคนิค 4 ธันวาคม 2566 19:36 น. GMT+7
| ชื่อ | มูลค่า | Action |
| RSI(14) | 40.675 | ขาย |
| STOCH(9,6) | 26.573 | ขาย |
| STOCHRSI(14) | 71.656 | ซื้อ |
| MACD(12,26) | -0.003 | ขาย |
| ADX(14) | 25.794 | ซื้อ |
| Williams %R | -66.667 | ขาย |
| CCI(14) | -26.8568 | ถือหุ้นไว้ |
| ATR(14) | 0.0035 | ผันผวนน้อยลง |
| Highs/Lows(14) | -0.0000 | ขาย |
| Ultimate Oscillator | 35.240 | ขาย |
| ROC | -0.405 | ขาย |
| Bull/Bear Power(13) | 0.0002 | ซื้อ |
|
ซื้อ:3 ขาย:7 ถือหุ้นไว้:1 สรุป:ขายทันที |
||
