บทวิเคราะห์ USD/INR 5 ธันวาคม 2566

Create at 11 months ago (Dec 05, 2023 15:00)

เศรษฐกิจอินเดียยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง

เงินรูปีของอินเดียอ่อนค่าลงมาอยู่ที่ประมาณ 83.3 รูปีต่อดอลลาร์สหรัฐ การอ่อนค่าของรูปีได้ทำจุดต่ำที่สุดเป็นประวัติการณ์ เนื่องจากความต้องการดอลลาร์ที่เพิ่มขึ้นโดยดูจาก DXY ที่กลับมาเพิ่มขึ้น นอกจากนี้ยังส่งผลให้มีเงินทุนไหลออกจากอินเดียเพิ่มสูงขึ้นตามไปด้วย มีการรายงานจาก RBI ว่านักลงทุนต่างชาติเลิกสินทรัพย์ในสกุลเงินรูปี โดยนักลงทุนมียังความกังวลเรื่องเศรษฐกิจอินเดีย เนื่องจากราคาน้ำมันที่ผันผวนได้เพิ่มความเปราะบางของอินเดียให้สูงขึ้นรวมถึงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่สูงยังคงกดดันเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง

 

เศรษฐกิจอินเดียขยายตัว 7.6% เมื่อเทียบเป็นรายปีในไตรมาสที่ 3 ซึ่งสูงกว่าการคาดการณ์ที่ 6.8% โดยปัจจัยหลักที่ส่งเสริมการเติบโตของอินเดียคือภาคการผลิตที่มีการเพิ่มขึ้นถึง 13.9% อีกทั้ง ภาคการก่อสร้างเพิ่มขึ้น 13.3% ที่บ่งบอกถึงการขยายตัวได้ดีของเศรษฐกิจ ขณะเดียวกันภาคเกษตรกรรมขยายตัวเพียง 1.2% เนื่องจากปัญหาฝนตกหนักทั่วประเทศ ในด้านรายจ่าย การใช้จ่ายภาครัฐเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วคิดเป็น 12.4% โดยเป็นการใช้จ่ายด้านโครงสร้างพื้นฐานเป็นส่วนใหญ่

 

PMI ภาคการผลิตเพิ่มขึ้นเป็น 56.0 ในเดือนพฤศจิกายน จาก 55.5 ในเดือนตุลาคม นับว่าเป็นการขยายตัวของกิจกรรมโรงงานเดือนที่ 29 ติดต่อกัน โดยได้รับแรงหนุนจากผลผลิตที่ขยายตัวในอัตราที่สูงกว่าที่คาด, การเติบโตของคำสั่งซื้อใหม่และยอดขายต่างประเทศเพิ่มขึ้นเป็นเดือนที่ 20 ติดต่อกัน นอกจากนี้ การจ้างงานยังเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ซึ่งสวนทางกับต้นทุนด้านวัตถุดิบที่เพิ่มขึ้นเล็กน้อยเท่านั้น

 

มูลค่าของสินเชื่อในอินเดียเพิ่มขึ้น 20.6% เมื่อเทียบเป็นรายปี ซึ่งเป็นตัวเลขที่แตะระดับสูงสุดตลอดกาล โดยการขอสินเชื่อที่เพิ่มขึ้นอย่างมากนับว่าเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ส่งเสริมเศรษฐกิจโดยรวมของอินเดีย แสดงให้เห็นถึงความสามารถในการใช้จ่ายของครัวเรือนที่เพิ่มขึ้นและความสามารถในการขยายกิจการของบริษัทในประเทศ

 

ทุนสำรองเงินตราต่างประเทศในอินเดียกลับมาเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องเป็น 597,940 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หลังจากมีการลดลงอย่างมากในไตรมาสที่ 2 ที่ผ่านมา โดยมีการรายงานว่า RBI ได้มีการขายทุนสำรองเงินตราต่างประเทศเป็นจำนวนมากเพื่อสนับสนุนค่าเงินเงินรูปีไม่ให้อ่อนค่ามากเกินไปและแก้ปัญหาสภาพคล่องที่เกิดจากเงินทุนต่างประเทศที่ลดลงจนส่งผลให้เกิดเงินเฟ้อที่เกิดจากการนำเข้าสินค้าและบริการที่เพิ่มขึ้นของอินเดีย 

 

อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอินเดียอายุ 10 ปีลดลงเหลือประมาณ 7.25% หลังจากแตะระดับสูงสุดที่ 7.3% ได้รับผลกระทบจากอัตราผลตอบของสหรัฐฯ ที่ลดลงอย่างต่อเนื่อง แม้ว่าอัตราเงินเฟ้อจะลดลงเหลือ 4.9% แต่ทางด้าน RBI ได้ส่งสัญญาณว่าความเสี่ยงด้านเงินเฟ้ออาจเกิดขึ้นมาอีกครั้งและอาจจำเป็นต้องใช้นโยบายการเงินที่เข้มงวดมากขึ้น

ข้อมูลประกอบการวิเคราะห์ทางเทคนิค (5H)

แนวต้านสำคัญ: 83.418, 83.454, 83.478

แนวรับสำคัญ: 83.357, 83.332, 83.296

บทวิเคราะห์ USD/INR วันนี้ที่มา: Investing.com

จุดกลับตัว 5 ธันวาคม 2566 14:56 น. GMT+7

ชื่อ S3 S2 S1 จุดกลับตัว R1 R2 R3
Classic 83.296 83.332 83.357 83.393 83.418 83.454 83.478
Fibonacci 83.332 83.355 83.370 83.393 83.416 83.431 83.454
Camarilla 83.365 83.370 83.376 83.393 83.387 83.393 83.398
Woodie's 83.290 83.329 83.351 83.390 83.412 83.451 83.472
DeMark's - - 83.345 83.387 83.406 - -
Buy/Long 1: หากมีการแตะแนวรับที่ช่วงราคา 83.332 - 83.357 แต่ไม่สามารถเบรกแนวรับที่ 83.357 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 83.454 และ SL ที่ประมาณ 83.296 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้

Buy/Long 2: หากสามารถเบรกแนวต้านที่ช่วงราคา 83.418 - 83.454 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 83.478 และ SL ที่ประมาณ 83.332 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้

Sell/Short 1: หากมีการแตะแนวต้านที่ช่วงราคา 83.418 - 83.454 แต่ไม่สามารถเบรกแนวต้านที่ 83.418 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 83.332 และ SL ที่ประมาณ 83.478 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้

Sell/Short 2: หากสามารถเบรกแนวรับที่ช่วงราคา 83.332 - 83.357 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 83.296 และ SL ที่ประมาณ 83.454 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้

ตัวชี้วัดทางเทคนิค 5 ธันวาคม 2566 14:56 น. GMT+7

ชื่อ มูลค่า Action
RSI(14) 55.390 ซื้อ
STOCH(9,6) 53.122 ถือหุ้นไว้
STOCHRSI(14) 85.587 ซื้อมากเกินไป
MACD(12,26) 0.012 ซื้อ
ADX(14) 44.036 ซื้อ
Williams %R -46.031 ถือหุ้นไว้
CCI(14) 58.5906 ซื้อ
ATR(14) 0.1027 ผันผวนน้อยลง
Highs/Lows(14) 0.0039 ซื้อ
Ultimate Oscillator 44.901 ขาย
ROC 0.004 ซื้อ
Bull/Bear Power(13) 0.0614 ซื้อ

ซื้อ:7

ขาย:1

ถือหุ้นไว้:2

สรุป:ซื้อทันที

______________________________
อัพเกรดความรู้เพิ่มเติม: Blog
รู้เท่าทันข่าว&สถานการณ์โลก: News
บทวิเคราะห์เชิงเทคนิคขั้นสูง: Analysis
Tags:

TECHNICAL ANALYSIS

ARTICLES