เวียดนามและอังกฤษได้ลงนามในข้อตกลงการค้าเสรี ก่อนที่อังกฤษจะแยกตัวออกจากสหภาพยุโรป (อียู) ในวันที่ 1 ม.ค.ปี 2564 โดยข้อตกลงเอฟทีเอที่ทั้งสองฝ่ายลงนามในวันนี้ จะแทนที่ข้อตกลงการค้าเสรีระหว่างอียูและเวียดนาม (อีวีเอฟทีเอ) ซึ่งมีการบังคับใช้ในขณะนี้ โดยข้อตกลงเอฟทีเอดังกล่าวจะเริ่มมีการบังคับใช้ในวันที่ 31 ธ.ค. ซึ่งเนื้อหาเหมือนกับข้อตกลงอีวีเอฟทีเอ ซึ่งมีการขจัดภาษี 99% สำหรับสินค้าที่มีการซื้อขายกันระหว่างเวียดนามและอียูและ คาดว่าจะช่วยให้เวียดนามลดต้นทุนด้านภาษีศุลกากรสำหรับสินค้าที่ส่งออกไปยังอังกฤษได้ประมาณ 151 ล้านดอลลาร์ ขณะที่อังกฤษลดต้นทุนได้ประมาณ 36 ล้านดอลลาร์
ด้านกระทรวงอุตสาหกรรมและการค้าเวียดนาม ระบุว่า ตลอดสิบปีที่ผ่านมา การค้าระหว่างเวียดนามและอังกฤษ ขยายตัวประมาณ 12% ต่อปี และปีที่แล้ว มีมูลค่า 6,600 ล้านดอลลาร์และภายใต้ข้อตกลงการค้าเสรีฉบับล่าสุดนี้ จะช่วยกระตุ้นภาคการส่งออกสิ่งทอ ผลิตภัณฑ์รองเท้า ข้าว อาหารทะเล และเฟอร์นิเจอร์ไม้
นับตั้งแต่เริ่มกระบวนการแยกตัวออกจากอียูเมื่อเดือนม.ค.ปีนี้ อังกฤษพยายามเจรจาการค้าแบบทวิภาคีกับหลายประเทศเพื่อนำมาใช้แทนข้อตกลงการค้าของสหภาพยุโรป ขณะที่นักวิเคราะห์มีความเห็นว่า ข้อตกกลงการค้าเสรีกับอังกฤษ เป็นต้นแบบที่นำไปสู่การจัดทำข้อตกลงการค้าเสรีแบบทวิภาคีระหว่างเวียดนามกับอีกหลายประเทศ ซึ่งแสดงให้เห็นว่าเวียดนามกำลังเปิดรับการค้าและการลงทุนด้านเทคโนโลยีและสินค้ามูลค่าสูงจากต่างชาติมากขึ้น
Updated
3 years ago
(Dec 30, 2020 11:32)