Bitcoin ยังมีสัญญาณที่ดีในปีหน้า
ตลาดสกุลเงินดิจิทัลส่วนใหญ่เริ่มกลับมาชะลอความร้อนแรงลงอีกครั้ง โดยมูลค่าตลาดสกุลเงินดิจิทัลทั่วโลกลดลงเหลือ 1.58 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หลังจาก Bitcoin ทำราคาพุ่งสูงขึ้นกว่าสองเท่าในปีนี้ โดยแตะระดับสูงสุดในรอบ 20 เดือนที่ประมาณ 44,500 ดอลลาร์สหรัฐฯ โดยได้รับแรงหนุนมาจากตัวเลขเงินเฟ้อที่เริ่มลดลงทั่วโลก
การวิเคราะห์ทางเทคนิคระบุว่า Bitcoin เผชิญกับแนวต้านที่ระดับ 44,600 ดอลลาร์สหรัฐฯ และอาจมีแนวรับที่ใกล้ 40,600 ดอลลาร์สหรัฐฯ หากเริ่มมีแนวโน้มขาลง นอกจากนี้ ดัชนีความกลัวและความโลภ (Fear and Greed Index) ชี้ให้เห็นถึงการมองโลกในแง่ดีอย่างมากในหมู่นักลงทุน โดยในตอนนี้อยู่ในโซนความโลภที่สูงถึง 80
ตลาดสกุลเงินดิจิทัลยังคงได้รับแรงหนุนจากเงินเฟ้อที่ลดลงในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา อีกทั้งยังมีการคาดการณ์ว่าอัตราเงินเฟ้อจะลดลงต่อเนื่องในอนาคต ทำให้ธนาคารกลางทั่วโลกคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้เท่าเดิมและเริ่มผ่อนคลายนโยบายทางการเงินในปีหน้า ทำให้สินทรัพย์เสี่ยงมีความน่าสนใจเพิ่มขึ้น นอกจากนี้ยังมีความคาดหวังว่าตลาดหลักทรัพย์ของสหรัฐอเมริกา (SEC) จะอนุมัติให้มีการจัดตั้ง Bitcoin ETF ในปีหน้า
Yuya Hasegawa นักวิเคราะห์ตลาดสกุลเงินดิจิทัลของ Bitbank ซึ่งเป็นบริษัทแลกเปลี่ยนสกุลเงินดิจิทัลในญี่ปุ่นกล่าวว่า "การอณุมัติให้มีการจัดตั้ง Bitcoin ETF ของ SEC จะทำให้ราคา Bitcoin มีการปรับฐานในทันที เนื่องจากตลาดได้มีการคาดการณ์ราคาไว้แล้วและในระยะยาว Bitcoin ETF จะสร้างรายได้หลายพันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อปีสู่ตลาดสกุลเงินดิจิทัลและถือว่าเป็นการเริ่มต้นที่ดีหากมีการจัดตั้ง ETF อื่นๆ ต่อไป"
นอกจากนี้ Bitcoin ยังได้รับแรงหนุนมาจากการ Halving ที่กำลังจะเกิดขึ้นในเดือนเมษายนและจะส่งผลดีให้แก่ตลาดสกุลเงินดิจิทัลในปีหน้า โดย Halving เป็นการลดอุปทานของ Bitcoin ที่สามารถขุดได้ของแต่ละบล็อกส่งผลให้ราคาสูงขึ้น นักวิเคราะห์บางคนกล่าวว่า การ Halving ในครั้งนี้อาจทำให้ราคา Bitcoin เพิ่มสูงถึง 500,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ
James Butterfill หัวหน้าฝ่ายวิจัยของบริษัทจัดการสินทรัพย์ CoinShares ให้ความคิดเห็นต่อราคา Bitcoin ในอนาคตว่า "มีปัจจัยหลายอย่างที่ส่งผลต่อราคาในอนาคต โดยสิ่งที่ทำให้เกิดฟองสบู่ Bitcoin ในตอนนี้คืออัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้นในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมาและสิ่งที่อาจจะช่วยกระตุ้นให้ราคาสูงขึ้นอีกคือการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในปีหน้า"
ด้านผู้กำหนดนโยบายของ Fed ส่งสัญญาณว่าอัตราดอกเบี้ยจะไม่ลดลงในเร็วๆ นี้ เนื่องจากข้อมูลการจ้างงานที่แข็งแกร่งในวันศุกร์ชี้ให้เห็นว่าการคาดการณ์ของตลาดเกี่ยวกับการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในต้นปีหน้าอาจยังเร็วเกินไป
ข้อมูลประกอบการวิเคราะห์ทางเทคนิค (5H)
แนวต้านสำคัญ: 42225.6, 42489.3, 42897.6
แนวรับสำคัญ: 41553.6, 41145.3, 40881.6
ที่มา: Investing.com
Buy/Long 1: หากมีการแตะแนวรับที่ช่วงราคา 41145.3 - 41553.6 แต่ไม่สามารถเบรกแนวรับที่ 41553.6 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 42489.3 และ SL ที่ประมาณ 40881.6 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้
Buy/Long 2: หากสามารถเบรกแนวต้านที่ช่วงราคา 42225.6 - 42489.3 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 42897.6 และ SL ที่ประมาณ 41145.3 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้
Sell/Short 1: หากมีการแตะแนวต้านที่ช่วงราคา 42225.6 - 42489.3 แต่ไม่สามารถเบรกแนวต้านที่ 42225.6 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 41145.3 และ SL ที่ประมาณ 42897.6 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้
Sell/Short 2: หากสามารถเบรกแนวรับที่ช่วงราคา 41145.3 - 41553.6 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 40881.6 และ SL ที่ประมาณ 42489.3 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้
จุดกลับตัว 12 ธันวาคม 2566 20:00 น. GMT+7
ชื่อ
|
S3
|
S2
|
S1
|
จุดกลับตัว
|
R1
|
R2
|
R3
|
Classic | 40881.6 | 41145.3 | 41553.6 | 41817.3 | 42225.6 | 42489.3 | 42897.6 |
Fibonacci | 41145.3 | 41402 | 41560.6 | 41817.3 | 42074 | 42232.6 | 42489.3 |
Camarilla | 41777.2 | 41838.8 | 41900.4 | 41817.3 | 42023.6 | 42085.2 | 42146.8 |
Woodie's | 40954 | 41181.5 | 41626 | 41853.5 | 42298 | 42525.5 | 42970 |
DeMark's | - | - | 41685.5 | 41883.2 | 42357.5 | - | - |