จีนยังคงถูกกดดันจากภาวะเงินฟืด
เงินหยวนทรงตัวอยู่ที่ระดับ 7.20 หยวนต่อดอลลาร์ เนื่องจากมีการประกาศข้อมูลชี้ให้เห็นถึงแรงกดดันด้านภาวะเงินฝืดอย่างต่อเนื่องของจีน โดยชี้ให้เห็นว่าเศรษฐกิจของประเทศยังคงได้รับผลกระทบจากอุปสงค์ภายในประเทศที่อ่อนแอ ในตอนนี้นักลงทุนจับตาดูข้อมูลเศรษฐกิจเพิ่มเติมในสัปดาห์นี้ และอัตราดอกเบี้ยพิเศษที่ใช้ในการกู้ยืมจากธนาคารกลางของจีนในสัปดาห์หน้า เพื่อตัดสินใจด้านการลงทุนในอนาคต
นอกจากนี้ ค่าเงินหยวนยังคงอยู่ภายใต้แรงกดดันจากการแข็งค่าของเงินดอลลาร์สหรัฐฯ เนื่องจากข้อมูลการจ้างงานที่แข็งแกร่งเกินคาด ซึ่งขัดแย้งกับการคาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐอาจเริ่มลดอัตราดอกเบี้ยโดยเร็วที่สุดในเดือนมีนาคม 2024
อัตราเงินเฟ้อของจีนลดลง 0.5% เมื่อเทียบเป็นรายปีในเดือนพฤศจิกายน เป็นการลดลงของอัตราเงินเฟ้อที่มากกว่าการคาดการณ์ของตลาดที่จะลดลง 0.1% ได้รับผลกระทบมาจากต้นทุนอาหารลดลงในอัตราสูงสุดในรอบ 2 ปีที่ 4.2% นอกจากนี้ อัตราเงินเฟ้อในภาคส่วนอื่นมีการเพิ่มขึ้นเพียงเล็กน้อยเท่านั้น จึงแทบไม่ส่งผลต่อเงินเฟ้อโดยรวม
ราคาอาหารในจีนลดลง 4.2% จากปีก่อนหน้า โดยเป็นการลดลงเดือนที่ 5 ติดต่อกัน ราคาเนื้อหมูยังคงลดลงในอัตราที่รวดเร็วถึง 31.8% สะท้อนถึงอุปสงค์ที่ชะลอตัวลงอย่างมาก นอกจากนี้ อุปทานที่ยังสูงอยู่ตั้งแต่ช่วงวันหยุด Golden Week และอุณหภูมิที่สูงกว่าปกติ ทำให้ราคาเนื้อสัตว์อื่นๆ และผลิตภัณฑ์จากสัตว์มีราคาลดลงอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ ราคาผักสดและราคาผลไม้สดมีการดีดตัวขึ้นเล็กน้อย
การเกินดุลการค้าของจีนเพิ่มขึ้นเป็น 68.39 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในเดือนพฤศจิกายน เนื่องจากการส่งออกที่เพิ่มขึ้นในขณะที่การนำเข้าลดลงจากอุปทานที่มากเพียงพอในประเทศ โดยที่การนำเข้าลดลง 0.6% เหลือเพียง 223.54 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ โดยอุปสงค์ในประเทศที่เปราะบางและอุปทานที่มากเพียงพอทำให้รัฐบาลยังคงใช้มาตราการการกระตุ้นเศรษฐกิจอย่งต่อเนื่องเพื่อให้อุปสงค์ในประเทศกลับมาฟื้นตัวอีกครั้ง
การส่งออกจากจีนเติบโตเพิ่มขึ้น 0.5% เมื่อเทียบเป็นรายปี เป็น 291.93 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งสูงกว่าการคาดการณ์ของตลาดที่จะลดลง 1.1% โดยสินค้าส่งออกส่วนใหญ่ยังคงเป็นผลิตภัณฑ์จากเหล็กและธาตุหายากที่มีการส่งออกสูงถึง 40% โดยมีการส่งออกที่เพิ่มขึ้นไปยังสหรัฐอเมริกาและไต้หวัน ถึงอย่างนั้น พบว่าการเกินดุลการค้ากับสหรัฐฯ ลดลงเหลือ 29.8 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ แม้ว่าการส่งออกไปยังสหรัฐฯ จะเพิ่มขึ้นก็ตาม
ข้อมูลประกอบการวิเคราะห์ทางเทคนิค (5H)
แนวต้านสำคัญ: 7.1852, 7.1878, 7.1909
แนวรับสำคัญ: 7.1796, 7.1764, 7.1739
ที่มา: Investing.com
จุดกลับตัว 13 ธันวาคม 2566 13:53 น. GMT+7
ชื่อ | S3 | S2 | S1 | จุดกลับตัว | R1 | R2 | R3 |
Classic | 7.1739 | 7.1764 | 7.1796 | 7.1821 | 7.1852 | 7.1878 | 7.1909 |
Fibonacci | 7.1764 | 7.1786 | 7.1799 | 7.1821 | 7.1843 | 7.1856 | 7.1878 |
Camarilla | 7.1810 | 7.1816 | 7.1821 | 7.1821 | 7.1831 | 7.1836 | 7.1842 |
Woodie's | 7.1741 | 7.1765 | 7.1798 | 7.1822 | 7.1854 | 7.1879 | 7.1911 |
DeMark's | - | - | 7.1808 | 7.1827 | 7.1865 | - | - |
Buy/Long 2: หากสามารถเบรกแนวต้านที่ช่วงราคา 7.1852 - 7.1878 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 7.1909 และ SL ที่ประมาณ 7.1764 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้
Sell/Short 1: หากมีการแตะแนวต้านที่ช่วงราคา 7.1852 - 7.1878 แต่ไม่สามารถเบรกแนวต้านที่ 7.1852 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 7.1764 และ SL ที่ประมาณ 7.1909 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้
Sell/Short 2: หากสามารถเบรกแนวรับที่ช่วงราคา 7.1764 - 7.1796 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 7.1739 และ SL ที่ประมาณ 7.1878 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้
ตัวชี้วัดทางเทคนิค 13 ธันวาคม 2566 13:53 น. GMT+7
ชื่อ | มูลค่า | Action |
RSI(14) | 65.935 | ซื้อ |
STOCH(9,6) | 59.603 | ซื้อ |
STOCHRSI(14) | 59.589 | ซื้อ |
MACD(12,26) | 0.008 | ซื้อ |
ADX(14) | 30.993 | ซื้อ |
Williams %R | -14.286 | ซื้อมากเกินไป |
CCI(14) | 107.5117 | ซื้อ |
ATR(14) | 0.0068 | ผันผวนสูง |
Highs/Lows(14) | 0.0058 | ซื้อ |
Ultimate Oscillator | 58.728 | ซื้อ |
ROC | 0.414 | ซื้อ |
Bull/Bear Power(13) | 0.0178 | ซื้อ |
ซื้อ:10 ขาย:0 ถือหุ้นไว้:0 สรุป:ซื้อทันที |