บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นสหรัฐฯ วันที่ 19 ธันวาคม 2566

Create at 11 months ago (Dec 19, 2023 09:30)

ตลาดตอบสนองต่อสัญญาณจากเฟด S&P 500 ปิดบวกติดต่อกัน

ในวันจันทร์ ตลาดการเงินทั่วโลกเผชิญกับการซื้อขายที่หลากหลาย เนื่องจากการตอบสนองของนักลงทุนต่อสัญญาณจากธนาคารกลางสหรัฐฯ เกี่ยวกับการปรับลดอัตราดอกเบี้ยที่อาจเกิดขึ้นในปี 2024 โดยดัชนีหุ้นทั่วโลกของ MSCI มีการปรับเพิ่มขึ้นเล็กน้อย ขณะที่ราคาน้ำมันพุ่งสูงขึ้นเนื่องจากข้อกังวลเกี่ยวกับอุปทาน ท่ามกลางอัตราผลตอบแทนของกระทรวงการคลังสหรัฐฯ ที่เพิ่มขึ้น ส่งผลให้ตลาดหุ้นสหรัฐฯ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในภาคบริการผู้บริโภค น้ำมันและก๊าซ และเทคโนโลยี ปรับตัวขึ้นท่ามกลางความคาดหวังที่เพิ่มขึ้นเกี่ยวกับการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในอนาคต

ในขณะเดียวกัน ดัชนี S&P 500 ปิดสูงขึ้นในวอลล์สตรีทติดต่อกันเจ็ดสัปดาห์ ซึ่งถือเป็นการปิดตัวสูงขึ้นที่ยาวนานที่สุดนับตั้งแต่ปี 2017 โดยขณะนี้ดัชนีอยู่ต่ำกว่าระดับสูงสุดตลอดกาลเพียง 1.2% แม้ว่าเจ้าหน้าที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ จะพยายามลดความคาดหวังในการปรับลดอัตราดอกเบี้ยที่อาจเกิดขึ้น แต่ตลาดยังคงมุมมองเชิงบวกถึงการเปลี่ยนแปลงนโยบายในปี 2024

ทั้งนี้ การเคลื่อนไหวของหุ้นที่โดดเด่น ได้แก่ การเพิ่มขึ้น 26.1% ของ United States Steel สู่ระดับสูงสุดในรอบ 12 ปี หลังจากที่ Nippon Steel ของญี่ปุ่นประกาศข้อตกลงมูลค่า 14.9 พันล้านดอลลาร์เพื่อเข้าซื้อผู้ผลิตเหล็กในสหรัฐฯ ในด้านเทคโนโลยี หุ้นของ Adobe Systems เพิ่มขึ้น 2.5% ในขณะที่ Apple เผชิญกับการลดลง 0.9% เนื่องจากการสั่งห้าม iPhone และอุปกรณ์อื่น ๆ ที่ผลิตในต่างประเทศของจีน และข้อพิพาทด้านสิทธิบัตรที่ส่งผลกระทบต่อยอดขาย Apple Watch

ทางด้าน Goldman Sachs ปรับเป้าหมาย S&P 500 ปี 2024 เพิ่มขึ้น 8% มาอยู่ที่ราคา 5,100 โดยอ้างถึงการคาดการณ์ว่าอัตราเงินเฟ้อและอัตราดอกเบี้ยที่อาจลดลง โดยธนาคารเพื่อการลงทุนดังกล่าวคาดการณ์ว่าภาคส่วนธุรกิจสินค้าแบบวัฏจักรและบริษัทที่มีเงินทุนขนาดเล็กจะช่วยผลักดันการเติบโตของตลาดในปี 2024

ในตลาดตราสารหนี้ อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ที่มีอายุหลายปีเพิ่มขึ้นตามคำแถลงของเจ้าหน้าที่สำคัญ รวมถึงเจอโรม พาวเวลล์ ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ และออสตัน กูลส์บี ประธานเฟดแห่งชิคาโก

โดยคำแถลงล่าสุดของพาวเวลล์ส่งสัญญาณถึงการยุตินโยบายการเงินที่เข้มงวดขึ้น ควบคู่ไปกับความคาดหวังในการปรับลดอัตราดอกเบี้ย ซึ่งได้ส่งอิทธิพลต่อการเปลี่ยนแปลงของตลาด อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ธนาคารกลางสหรัฐบางคน รวมถึงกูลส์บี  และลอเร็ตตา เมสเตอร์ ประธานเฟดของคลีฟแลนด์ ได้ออกมาเตือนถึงการคาดการณ์การปรับลดอัตราดอกเบี้ยก่อนเวลาอันควร โดยเน้นย้ำถึงความจำเป็นในการประเมินความยั่งยืนของอัตราเงินเฟ้อ

ทั้งนี้ Goldman Sachs คาดว่าจะมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยหลายครั้งในปี 2024 โดยคาดว่าจะมีการปรับลดลง 25 จุดในการประชุมแต่ละครั้งของเดือนมีนาคม เมษายน และพฤษภาคม ตามด้วยการปรับลดอัตราดอกเบี้ยรายไตรมาส โดยธนาคารคาดการณ์ว่าอัตรามาตรฐานจะอยู่ในช่วงระหว่าง 4% ถึง 4.25% ภายในสิ้นปี ซึ่งการคาดการณ์ดังกล่าวแตกต่างจากการคาดการณ์จาก BofA Global Research ซึ่งคาดว่าเฟดจะปรับลดอัตราพื้นฐานลง 100 จุดในปี 2024 โดยเริ่มจากการปรับลด 25 จุดในเดือนมีนาคม

อีกด้าน ราคาน้ำมันพุ่งสูงขึ้นเนื่องจากกลุ่มติดอาวุธฮูตีเพิ่มการโจมตีในทะเลแดงมากขึ้น ส่งผลให้เกิดความกังวลเกี่ยวกับการหยุดชะงักของอุปทาน และส่งผลให้หุ้นในกลุ่มพลังงานเพิ่มขึ้นเกือบ 1% ขณะที่การตัดสินใจของรัสเซียที่จะลดการส่งออกน้ำมันมากขึ้นส่งผลให้ราคาน้ำมันปรับตัวสูงขึ้น

อย่างไรก็ดี นักลงทุนกำลังรอการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญ ซึ่งรวมถึงรายงาน GDP ไตรมาสสามและไตรมาสสุดท้ายจากกระทรวงพาณิชย์ และรายงานรายจ่ายการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) ซึ่งจะให้ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับการเติบโตของรายได้ การใช้จ่ายของผู้บริโภค และอัตราเงินเฟ้อ จึงอาจส่งผลให้ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปรับตัวขึ้นลงในกรอบบนได้ในช่วงปลายปีจนถึงต้นปี โดยอาจพบการปรับฐานลงมาได้หลังปีใหม่เป็นต้นไป

ข้อมูลประกอบการวิเคราะห์ทางเทคนิค (5H) CFD US 500 [S&P 500]

แนวต้านสำคัญ : 4746.5, 4749.6, 4754.8

แนวรับสำคัญ : 4736.1, 4733.0, 4727.8              

5H Outlook

วิเคราะห์ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ที่มา: Investing.com

Buy/Long 1 หากมีการแตะแนวรับที่ช่วงราคา 4726.1 - 4736.1 แต่ไม่สามารถเบรกแนวรับที่ 4736.1 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 4746.5 และ SL ที่ประมาณ 4721.1 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้

Buy/Long 2 หากสามารถเบรกแนวต้านที่ช่วงราคา 4746.5 - 4756.5 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 4760.0 และ SL ที่ประมาณ 4731.0 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้                 

Sell/Short 1 หากมีการแตะแนวต้านที่ช่วงราคา 4746.5 - 4756.5 แต่ไม่สามารถเบรกแนวต้านที่ 4746.5 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 4733.0 และ SL ที่ประมาณ 4761.5 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้

Sell/Short 2 หากสามารถเบรกแนวรับที่ช่วงราคา 4726.1 - 4736.1 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 4719.0 และ SL ที่ประมาณ 4752.0 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้

Pivot Points Dec 19, 2023 08:36AM GMT+7

Name
S3
S2
S1
Pivot Points
R1
R2
R3
Classic 4719.5 4727.8 4733 4741.3 4746.5 4754.8 4760
Fibonacci 4727.8 4733 4736.1 4741.3 4746.5 4749.6 4754.8
Camarilla 4734.6 4735.8 4737.1 4741.3 4739.5 4740.8 4742
Woodie's 4718.1 4727.1 4731.6 4740.6 4745.1 4754.1 4758.6
DeMark's - - 4730.4 4740 4743.9 - -

Sources: Investing 1Investing 2

______________________________
อัพเกรดความรู้เพิ่มเติม: Blog
รู้เท่าทันข่าว&สถานการณ์โลก: News
บทวิเคราะห์เชิงเทคนิคขั้นสูง: Analysis
Tags:

TECHNICAL ANALYSIS

ARTICLES