เศรษฐกิจสหราชอาณาจักรหดตัว เงินปอนด์อ่อนค่าจากความกังวลภาวะเศรษฐกิจถดถอย

ภายหลังการเปิดเผยข้อมูลอย่างเป็นทางการที่บ่งชี้ว่าเศรษฐกิจสหราชอาณาจักรหดตัวในเดือนตุลาคม ค่าเงินปอนด์ร่วงลง 0.31% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐฯ โดยมีสาเหตุมาจากความกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจถดถอยที่อาจเกิดขึ้นและความมุ่งมั่นของธนาคารแห่งประเทศอังกฤษในการรักษาอัตราดอกเบี้ยที่สูงท่ามกลางความท้าทายทางเศรษฐกิจ

ทางด้านอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอังกฤษลดลงอย่างหนัก ส่งผลให้ค่าเงินปอนด์อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐฯ หลังจากที่ค่าเงินปอนด์ปรับเพิ่มขึ้นในช่วงต้นสัปดาห์หลังการเผยแพร่ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ ซึ่งช่วยสนับสนุนการตัดสินใจของธนาคารแห่งอังกฤษที่ยังคงไม่ส่งสัญญาณเกี่ยวกับการปรับลดอัตราดอกเบี้ย

ทั้งนี้ สำนักงานสถิติแห่งชาติเปิดเผยว่า GDP ของสหราชอาณาจักรหดตัว 0.3% ในเดือนตุลาคม สร้างความกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจถดถอยและความท้าทายให้กับธนาคารแห่งอังกฤษในการคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับสูงสุดในรอบ 15 ปี ในขณะที่นักเศรษฐศาสตร์คาดว่า GDP จะไม่มีการเปลี่ยนแปลง แต่การหดตัวกว่าที่คาดนี้ถือเป็นการหดตัวครั้งแรกเมื่อเทียบเป็นรายเดือนนับตั้งแต่เดือนกรกฎาคม ส่งผลให้นักลงทุนวางเดิมพันมากขึ้นเกี่ยวกับการปรับลดอัตราดอกเบี้ยโดยธนาคารแห่งอังกฤษที่อาจเกิดขึ้นในเดือนมิถุนายน 2024 โดยถึงแม้จะมีข้อกังวลต่างๆ เกิดขึ้น BoE ก็คาดว่าจะคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ 5.25% โดยเน้นย้ำถึงความมุ่งมั่นของธนาคารในการควบคุมอัตราเงินเฟ้อที่สูงอย่างต่อเนื่อง ซึ่งอยู่ที่ 4.6% ในเดือนตุลาคม

นอกจากนี้ จากการสำรวจระบุว่าภาคบริการของสหราชอาณาจักรพบการเติบโตเพิ่มขึ้น สร้างแนวโน้มเชิงบวกท่ามกลางความกังวลถึงภาวะเศรษฐกิจถดถอย โดยดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อสำหรับภาคบริการเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 52.7 ในขณะที่ภาคการผลิตลดลงมาอยู่ที่ 46.4 ถือเป็นการหดตัวติดต่อกันเป็นเดือนที่ 17 โดยจากการสำรวจชี้ให้เห็นถึงความเป็นไปได้ในการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในไตรมาสแรกของปี 2024 หากการจ้างงานชะลอตัวและการเติบโตของดัชนีราคาลดลง

ทั้งนี้ ภาคบริการพบว่าหดตัว 0.2% ในเดือนตุลาคม ขณะที่ภาคการผลิตและการก่อสร้างหดตัว 1.1% และ 0.5% ตามลำดับ โดยถึงแม้ว่าเศรษฐกิจจะขยายตัวกว่าระดับก่อนเกิดโรคระบาดในปี 2020 ถึง 2.0% แต่ผลการดำเนินงานเศรษฐกิจโดยรวมกลับอ่อนแอกว่าที่คาดไว้

ในขณะเดียวกัน การเติบโตของค่าจ้างในอังกฤษพบการชะลอตัวลงอย่างมากที่สุดในรอบเกือบสองปี ท่ามกลางรายได้ที่ไม่รวมโบนัส ที่ยังคงเพิ่มขึ้น 7.3% ในช่วง 3 เดือนถึงเดือนตุลาคมเมื่อเทียบกับปีที่แล้ว ขณะที่ธนาคารแห่งประเทศอังกฤษยังคงใช้ความระมัดระวังในการลดอัตราดอกเบี้ย โดยเน้นว่าการเติบโตของค่าจ้างที่แข็งแกร่งของภาคเอกชนยังคงสร้างความกังวลในการบรรลุเป้าหมายเงินเฟ้อ

อย่างไรก็ดี แม้จะมีความท้าทายทางเศรษฐกิจ โรงงานหรือภาคการผลิตที่ประสบปัญหาในอังกฤษได้แสดงสัญญาณการฟื้นตัวในไตรมาสสุดท้ายของปี 2023 โดยมีผลผลิตแซงหน้าคำสั่งซื้อในอัตราสูงสุดนับตั้งแต่ปี 2019 ขณะที่ความคาดหวังในการส่งออกและคำสั่งซื้อในสหราชอาณาจักรในต้นปี 2024 ยังเป็นไปในเชิงบวก ส่งผลให้ภาคการผลิตมีมุมมองเชิงบวกมากขึ้น

ทางด้านตลาดอสังหาริมทรัพย์ จากการสำรวจ เดือนพฤศจิกายนพบการฟื้นตัวเนื่องจากอัตราการจำนองที่ผ่อนคลายลง อย่างไรก็ตาม ผู้สำรวจยังคงระมัดระวังเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจ โดยยังมีความกังวลเกี่ยวกับเศรษฐกิจที่ทรงตัวและแนวโน้มต้นทุนการกู้ยืมที่สูงขึ้น

อีกด้าน เงินดอลลาร์สหรัฐฯ เผชิญกับแรงกดดันขาลงเนื่องจากธนาคารกลางสหรัฐฯ ส่งสัญญาณถึงความเป็นไปได้ในการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในปีหน้า อย่างไรก็ดี เมื่อพิจารณาถึงความต่างของผลตอบแทนระหว่างสองประเทศที่ใกล้เคียงกัน เงินดอลลาร์สหรัฐฯ จึงยังคงมีแนวโน้มได้รับแรงหนุนจากข้อมูลเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ที่คาดว่าจะยังคงแข็งแกร่งกว่าสหราชอาณาจักรอยู่บ้าง

ข้อมูลประกอบการวิเคราะห์ทางเทคนิค (30 Min) CFD GBP/USD

แนวต้านสำคัญ : 1.2680, 1.2686, 1.2697

แนวรับสำคัญ : 1.2658, 1.2652, 1.2641            

30 Min Outlook                      

ที่มา: Investing.com    

Buy/Long 1 หากมีการแตะแนวรับที่ช่วงราคา 1.2653 - 1.2658 แต่ไม่สามารถเบรกแนวรับที่ 1.2658 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 1.2687 และ SL ที่ประมาณ 1.2651 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้

Buy/Long 2 หากสามารถเบรกแนวต้านที่ช่วงราคา 1.2680 - 1.2685 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 1.2700 และ SL ที่ประมาณ 1.2656 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้                 

Sell/Short 1 หากมีการแตะแนวต้านที่ช่วงราคา 1.2680 - 1.2685 แต่ไม่สามารถเบรกแนวต้าน 1.2680 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 1.2658 และ SL ที่ประมาณ 1.2687 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้

Sell/Short 2 หากสามารถเบรกแนวรับที่ช่วงราคา 1.2653 - 1.2658 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 1.2635 และ SL ที่ประมาณ 1.2682 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้

Pivot Points Dec 19, 2023 02:34PM GMT+7

Sources: Investing 1, Investing 2